“เอ่อ...ตอนที่เจอผ้าเช็ดหน้า ผมได้ลองติดต่อไปหาคุณชายวินแล้วครับ แต่ตอนนี้เขากำลังเข้าร่วมงานการออกแบบที่ต่างประเทศงานหนึ่งอยู่ครับ โทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง ด้วยเหตุนี้ตอนนี้จึงติดต่อไม่ได้เลยครับ”
“งั้นก็ไปคิดหาวิธีติดต่อมาให้ฉัน!” ธนพัตตะคอกเสียงต่ำออกไป “หลังจากที่ติดต่อได้แล้ว ให้เขารีบกลับมาเจอฉันทันที!”
ชรัณตกใจจนใบหน้าขาวซีดไป “ครับ คุณชาย”
ธนพัตในตอนนี้ไหนเลยจะมีอารมณ์มาดูแบบตัวอย่างในคอมพิวเตอร์อีก ไถรถเข็นไปด้านนอกด้วยความรวดเร็ว
ชรัณรีบตามไป ได้ยินเขาถามเสียงเย็นออกมา “สาริศากลับบ้านมาแล้วหรือยัง?”
“ป้าแหวนเพิ่งโทรมาบอกว่าคุณนายน้อยถึงบ้านเรียบร้อยแล้วครับ”
สีหน้าเยือกเย็นของธนพัตจึงได้ผ่อนคลายลงไปเล็กน้อย แต่ในทันใดนั้นเองก็ตระหนักได้ถึงผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นที่ยังกำอยู่ในมือตัวเองอยู่ จึงทิ้งให้ชรัณด้วยความรังเกียจไปทันที “เอาไอ้นี่ไปโยนทิ้งให้ฉัน แล้วก็ทำซื้อกิจการโรงงานที่ทำผ้าเช็ดหน้านี้แล้วปิดกิจการไปเสีย ฉันไม่อยากเห็นผ้าเช็ดหน้านี้ปรากฏอยู่ที่มุมหนึ่งมุมใดของโลกอีก”
ชรัณเผยสีหน้าลำบากใจออกมา “แต่ว่าทางคุณชายวิน...”
“ทำตามที่ฉันบอกเดี๋ยวนี้!”
ตอนที่ธนพัตมาถึงบ้าน สาริศาได้นอนหลับไปแล้ว
หลัก ๆ แล้วก็คือเมื่อคืนเธอนอนเบียดกับธนพัตอยู่บนเตียงเดียวกัน นอนหลับได้ไม่ดีเลย วันนี้จึงเหนื่อยมากเกินไป กินข้าวเสร็จ จึงอาบน้ำนอนไปทันที
ธนพัตพอเข้าประตูไป ก็เห็นเธอนอนขดตัวอยู่บนเตียง สวมชุดนอนผ้าไหมแท้สายเดี่ยวที่ป้าแหวนซื้อใหม่ให้เธอ กอดผ้านวมอยู่ ไหล่บางกับแผ่นหลังที่บอบบาง ได้เปิดเผยออกมาหมด
ธนพัตอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย
สาริศานอนหลับมักจะมีความเคยชินที่จะม้วนผ้าห่ม ชอบกอดผ้านวมแทนที่จะห่มไปให้ดี ๆ บางครั้งเขาตื่นขึ้นมาตอนกลางคืน มักจะห่มผ้าให้เธอ กลัวว่าเธอจะป่วยเอา
แต่เรื่องนี้ป้าแหวนใช้ไม่ได้เลย ทำไมยังซื้อชุดนอนบาง ๆ อย่างนี้มาให้เธออีก นี่ไม่ใช่ว่าจะยิ่งป่วยได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกหรือไง
ธนพัตปิดประตูให้เรียบร้อย แล้วลุกขึ้นยืนจากบนรถเข็น เดินไปที่ข้างเตียงนอน เพื่อช่วยสาริศาห่มผ้าห่มให้เรียบร้อย แต่ไม่คิดว่าทันทีที่เขาเดินไปยืนอยู่ที่ข้างเตียง สาริศาได้พลิกตัวไปทีนึงพอดี ผ้านวมได้หลุดออกจากร่างไปโดยสมบูรณ์
ในนาทีนั้นเอง ลำคอของธนพัตได้บีบรัดแน่น มือเองก็ลืมการกระทำต่อจากนั้นไปด้วย
เขาจึงเข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมป้าแหวนถึงได้ตั้งใจเตรียมชุดนอนตัวนี้มาให้สาริศาโดยเฉพาะ
เพียงแค่เห็นชุดนอนตัวนี้สีดำล้วน ลวดลายที่ละเอียดซับซ้อนสวยงามเป็นอย่างมากฝังอยู่ตรงขอบ แนบเข้ากับผิวที่ขาวดั่งหิมะของสาริศาแน่น ดูน่าหลงใหลมากยิ่งขึ้น
การตัดเย็บของตัวชุดนอนเองก็รัดรูปอยู่เล็กน้อยเหมือนกัน เผยเค้าโครงรูปร่างที่งดงามของสาริศาออกมา ควบคู่กับท่านอนตามอำเภอใจของเธอด้วยแล้ว มันก็แทบจะ...
ดวงตาดำของธนพัตได้มืดครึ้มออกมามากขึ้นกว่าเดิม
ในเวลานี้ สาริศาขยี้ตางัวเงียออกมา ตื่นนอนขึ้นมาแล้ว
“ธนพัต?” เห็นผู้ชายยืนอยู่ที่ข้าง ๆ เตียงนอน เธอก็ตกตะลึงขึ้นมาก่อน แต่เพียงไม่นานก็ตื่นนอนขึ้นมาทันที “คุณกลับมาแล้ว?”
ตอนที่เธอกลับมาถึงบ้าน เหนื่อยมากเลย ด้วยเหตุนี้เองจึงสะลึมสะลือแล้วนอนหลับไป แต่ว่าตอนนี้เห็นธนพัต เธอก็นึกถึงเรื่องที่พี่จ๊าจ๋าบอกตนเมื่อตอนกลางวันขึ้นมา ความรู้สึกง่วงนอนได้หายไปทันที
แต่ธนพัตก็ไม่ได้ตอบคำพูดของสาริศาออกมาทันที เพียงแค่หยิบผ้านวมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว คลุมร่างของสาริศาเอาไว้ ความร้อนแรงในดวงตาจึงได้สงบลงไปบ้าง พลางพูดเสียงเบาออกมา “หลังจากนี้เวลานอนก็สวมเสื้อผ้าเยอะ ๆ หน่อย จะได้ไม่เป็นหวัดเอา”
สาริศาตกตะลึงไปแป๊บนึง แล้วก็ได้ก้มหน้าสังเกตเห็นชุดนอนใหม่ตัวนี้ที่อยู่บนร่างของตัวเอง หน้าอดไม่ได้ที่จะแดงออกมา “ฉันไม่อยู่บ้านวันนึง นึกไม่ถึงว่าพอกลับมาป้าแหวนจะโยนชุดนอนพวกนั้นของฉันทิ้งไปแล้ว เหลือเพียงแค่แบบนี้แล้ว”
ตอนนี้สาริศารู้สึกเสียใจภายหลังกับการกลับบ้านไปเมื่อวานนี้ของตัวเองมากจริง ๆ ไม่มีประโยชน์อะไรเลยสักนิดเดียว แต่กลับถูกป้าแหวนฉวยโอกาสจากช่องโหว่นี้ไปแทน
อย่างที่คิดเธอสู้คนที่ช่ำชองโลกที่อยู่ในครอบครัวเศรษฐีมาจนชินเหล่านี้ไม่ได้เลย
“จริงสิ บาดแผลของคุณล่ะ?” จู่ ๆ ธนพัตก็นึกอะไรขึ้นมาได้ มือข้างหนึ่งได้กุมข้อมือของสาริศาเอาไว้ ดึงผ้าห่มออก เห็นสำลีด้านบนบิดเบี้ยวออกมา จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมา “ยังไม่เปลี่ยนผ้าพันแผลอีก? สาริศา คุณปล่อยให้คนอื่นเขาหมดห่วงสักหน่อยไม่ได้เลย?”
สาริศาหดคอไปเล็กน้อยด้วยความกลัว “ฉันจะเปลี่ยนผ้าพันแผลเดี๋ยวนี้เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...