อ่านสรุป บทที่98 เพลิงไหม้ จาก หวานเย็น กรุ่นใจ โดย ช็อคโกแลต
บทที่ บทที่98 เพลิงไหม้ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ หวานเย็น กรุ่นใจ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ช็อคโกแลต อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ทางนี้ สาริศาหลังจากที่ออกมาจากรถของธีภพ กลับมาที่ในคฤหาสน์ ก็เหมือนกับที่แล้ว ๆ มา กินมื้อเย็น ไม่นานก็อาบน้ำนอนไป
แต่ไม่รู้ว่าเธอเข้าใจผิดคิดไปเองหรือเปล่า เธอมักจะรู้สึกว่า วันนี้ง่วงมากเป็นพิเศษ ตอนที่อาบน้ำก็รู้สึกวิงเวียนไปหมด แทบจะหัวถึงหมอนก็นอนหลับไปเลย ถึงขนาดที่ไม่ฝันเลยสักนิด
ไม่รู้ว่าหลับลึกไปนานแค่ไหน เธอก็ได้ถูกกลิ่นควันฉุนเข้าจมูกทำเอาสำลักตื่นขึ้นมา
“แค่กๆ ...”
สาริศาที่อยู่ระหว่างการหลับฝันได้ไอตื่นขึ้นมา พยายามดิ้นรนเพื่อเบิกหนังตาที่หนักอึ้งออกมา ในทันใดนั้นเองก็ได้รู้สึกว่าลูกตาถูกรมควันจนเจ็บไปหมด
เธอรู้สึกได้ว่ามันไม่ถูกต้องขึ้นมาทันที รีบตะเกียกตะกายขึ้นมา แต่ว่าในตอนที่ลุกขึ้นมา ถึงได้ค้นพบว่าร่างกายมันก็ปวดเมื่อยไร้เรี่ยวแรงสุด ๆ ไปเลย นึกไม่ถึงว่าจะไม่มีแรงเลยแม้แต่นิดเดียว
นี่เธอเป็นอะไรไป?
แต่ว่าในเวลานี้เอง เธอกลับไม่ได้สนอะไรมากมาย เพียงแค่รีบเปิดไฟที่ตรงหัวเตียง
ในขณะนั้น เธอเห็นภายในห้องควันโขมงไปหมด
นี่...นี่มันไฟไหม้?
สาริศาตื่นตกใจมากจริง ๆ กลิ่นควันที่ฉุนเข้าจมูกทำเอาสำลักจนเธอไอออกมาหนักมากขึ้นกว่าเดิม แต่เธอก็ยังคงทำให้ตัวเองใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดของตัวเองสงบสติอารมณ์ลงไป ลากร่างกายที่อ่อนล้าลงจากเตียงไปอย่างรวดเร็ว คว้าเอาเสื้อคลุมตัวนอกมา แล้วพุ่งออกจากประตูไป
แต่พอเปิดประตู เธอก็ยิ่งตกใจขึ้นมามากกว่าเดิม!
ไฟแรงมาก!
ก่อนหน้าประตูห้องได้ปิดกั้นเอาไว้ เพลิงไหม้ได้อยู่เต็มด้านนอกไปหมดยังไม่ครอบคลุมเข้ามา แต่ว่าตอนนี้พอได้เปิดประตูไปแล้ว เธอถึงได้เห็นว่าไฟได้ลุกไหม้ทั้งทางเดินไปหมดแล้ว เปลวเพลิงได้กระโหมขึ้นมาทั่วทุกทิศทางไปอย่างละโมบ
“ป้าแหวน! ลุงชัย!” ในตอนนี้สาริศายังเป็นห่วงคนแก่ทั้งสองคนที่อยู่ในห้อง แต่เรียกไปเท่าไหร่ก็ไม่มีใครตอบกลับมาเลย เพียงแต่ตัวเธอเองก็สำลักควันอยู่เต็มคอไปหมดแล้ว
เธอแทบจะไม่สนใจอะไรมากมายขึ้นมาทันที ทำได้แค่เพียงดูแลตัวเองให้ดีไปก่อน
แต่เห็นลักษณะเพลิงที่กำลังลุกไหม้ตรงหน้าใหญ่ขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางเลยที่จะพุ่งออกไปตรง ๆ ได้นี่สิ!
เธอพยายามใจเย็นลง วิ่งกลับไปที่ห้อง ปิดประตูเอาไว้ให้ จากนั้นก็หยิบผ้าห่มพุ่งเข้าไปในห้องน้ำ แช่น้ำ แล้วคลุมไปที่บนร่าง ก่อนจะพุ่งออกไปอีกครั้ง
มีการปกป้องจากผ้าห่มอยู่ชั้นนึงนี้ เธอจึงมีความกล้าขึ้นมาแล้วบ้าง ออกไปจากตรงทางเดินที่มีไฟโหมกระหน่ำไปทันที พยายามข่มร่างให้ต่ำลงหลีกเลี่ยงไม่ให้สูดควันไฟเข้าไปมากนัก
ไม่ง่ายเลยกว่าจะเดินไปถึงปากทางเดินได้ กำลังคิดที่จะลงไป แต่เธอกลับเห็นที่ตรงบันไดมันลุกไหม้หนักยิ่งกว่า บันไดหลายขั้นได้ถูกเผาเละไปหมดแล้ว เธอผ่านไปไม่ได้เลย!
เธอกำลังอยู่ในความตื่นตระหนก ทันใดนั้นเองก็เห็นหมอกสีขาวรุนแรงอยู่ทางด้านหน้า พ่นเข้ามา!
เธอมองหมอกขาวพวกนั้น ตะลึงอยู่หลายวิ ก่อนจะตอบสนองกลับมา...
เป็นถังดับเพลิง!
วินาทีต่อมา ท่ามกลางหมอกสีขาว ก็มีร่างผอมเพรียวที่คุ้นเคยร่างหนึ่งกระโจนเข้ามา
“ริศา! ริศาคุณอยู่ที่ไหน!”
ช่วงเวลาที่ได้ยินเสียงนี้ ภายในใจของสาริศามันช็อกตกใจขึ้นมา และดีใจขึ้นมาด้วย เหมือนกับคว้าความหวังสุดท้ายเอาไว้ได้เลยก็ไม่ปานพลางกรีดร้องออกไปว่า “ธีภพ! แค่กๆ ! ธีภพ ฉันอยู่ตรงนี้!”
หมอกสีขาวจากถังดับเพลิงทำให้ลักษณะของเพลิงไหม้ที่บนบันไดมันลดลงไปเล็กน้อย สาริศาได้เห็นธีภพวิ่งเข้ามาหาตนทันที แต่ในเวลานี้ ราวบันไดที่อยู่ข้าง ๆ ทางเดินจู่ ๆ ก็ถูกไฟเผาจนพังตกลงมา ตกลงมากั้นตรงกลางระหว่างพวกเขาทั้งสองคนทันที เพลิงไหม้ได้โหมกระหน่ำขึ้นมาอีกครั้ง
“แม่งเอ้ย!” สาริศาได้ยินธีภพปิดปากด่าว่าไปด้วยความโกรธ ตะโกนลั่นออกไปว่า “ริศา คุณรออยู่ตรงนั้น ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้!”
สาริศาอยากจะตอบรับออกไป แต่ว่าทันใดนั้นเอง เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้
เดี๋ยวนะ สร้อยเส้นนั้นของธนพัต ยังอยู่ในห้องอยู่ใช่หรือเปล่า?
น่าจะใช่
ธีภพรักสร้อยเส้นนั้นมาก ปกติแล้วจะไม่เอาออกไปจากบ้านเลย ตอนทำงานวันปกติหรือออกไปทำงานที่ข้างนอก ก็จะวางไว้ในลิ้นชักตลอด
เพลิงไหม้หนักขนาดนี้ หลังจากที่โต๊ะถูกเผาเละไปแล้ว สร้อยคริสทัลนั้นจะต้องพังไปแน่เลยล่ะมั้ง
ทำยังไงดี...
ประตูได้ถูกปิดเอาไว้ทันที ตอนนี้เธอจะออกไปยังไงดี
เธออยากจะห่มผ้าห่มออกไปเลย แต่ผ้าห่มเริ่มติดไฟขึ้นมาแล้วเหมือนกัน
เธอได้ตกอยู่ในสภาพเข้าตาจนขึ้นมาทันที อารมณ์เสียกับความอวดดีและการทำอะไรวู่วามของตัวเองขึ้นมา...
แม่งเอ๊ย อย่างนี้แล้ว สร้อยไม่ได้ช่วยมา ตัวเธอเองก็ติดร่างแหไปด้วยงั้นเหรอ?
เพียงแต่ไม่รู้ว่า ถ้าเธอตายไปจริง ๆ ธนพัตจะเสียใจกับการตายของเธอ หรือว่าจะเสียใจที่สร้อยไม่อยู่แล้วมากกว่ากันแน่นะ?
คาดว่าคงจะเป็นอย่างหลังมากกว่าล่ะมั้ง...
เพราะถึงยังไงเมื่อเทียบกับพชิราที่เขาเคยรักมากมาก่อน ตนก็เป็นแค่เพียงคนแปลกหน้าที่เพิ่งจะรู้จักมาได้ไม่กี่เดือนเท่านั้นเองแหละมั้ง?
ตอนนี้สาริศานับถือตัวเองมากว่าเวลาแบบนี้แล้ว สมองเธอกลับยังคิดเพ้อเจ้อ
เพลิงไหม้โดยรอบหนักขึ้นมาเรื่อย ๆ เธอแทบจะมองเห็นทางเดินไม่ชัดเลย หมอกควันเองก็หนักขึ้นเรื่อย ๆ เธอไอจนน้ำตาคลอตาเบลอไปหมด!
หรือว่า...
จะต้องมาตายอยู่ที่นี่จริง ๆ งั้นเหรอ?
ในตอนที่กำลังรู้สึกแตกสลายอยู่นั้นเอง เธอก็ได้เอาสร้อยมาสวมบนลำคอไปอย่างระมัดระวัง ปกป้องเอาไว้สุดชีวิต
ถ้าศพของเธอกับสร้อยได้ถูกพบพร้อมกัน หวังว่าธนพัตจะเข้าใจเจตนารมณ์ของเธอ เห็นแก่ที่ก่อนตายเธอยังนึกถึงสร้อยอยู่ แล้วจะดูแลแม่ของเธอให้อย่างดีได้
ตอนที่เธอน้ำตาไหลไปพลาง คิดเพ้อเจ้อไปพลาง จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงตะโกนเสียงดังดังขึ้นมา...
“สาริศา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...