ตำรวจไม่อาจแข็งใจได้ ไม่รู้ว่าควรจะบอกเบญญายังไงดีว่าพ่อของเธอตายไปแล้วมรุเดชที่ยืนอยู่ข้างหลังเบญญาเอ่ยปากพูดขึ้น"เปิดประตูออกเถอะ"ตำรวจพยักหน้า มือจับตรงกลอนประตู ได้ยินเสียงดังแกร็ก ประตูเปิดออกแล้วแง้มประตูแค่นิดเดียวเท่านั้น ก็ได้กลิ่นคาวเลือดที่ลอดออกมา ตำรวจหลีกทางให้พวกเขาเดินเข้าไปเป็นครั้งแรกที่เบญญากลัวที่จะเข้าไปในห้อง เธอมองไม่เห็นข้างใน ในหัวมีคำพูดที่สาวินพูดกับเธอในโทรศัพท์ดังก้องไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่ามรุเดชเข็นเธอเข้าไปอย่างช้าๆ หลังจากที่เข้าไปแล้วจู่ๆก็หยุดลงตรงมุมที่อยู่ห่างกันประมาณสี่เมตร มีผ้าสีขาวคลุมเอาไว้อยู่บนบนเปลพอเบญญาได้เห็นภาพตรงหน้านี้ สองมือก็คว้าที่จับของรถเข็นเอาไว้ แผลข้างหลังมือฉีกออกเธอพยายามที่จะลุกขึ้นยืน ยังไม่ทันได้ขยับก็ถูกมรุเดชที่มองการกระทำของเธอออกกดเธอกลับลงไป"ไม่ต้องขยับ ฉันจะเข็นเธอเข้าไปเอง"เบญญาส่ายหัว เธอไม่เชื่อว่าคนที่ถูกผ้าขาวคลุมเอาไว้นั้นจะเป็นสาวิน ปากพูดพึมพำ"ไม่มีทาง ไม่มีทางเป็นเขาแน่นอน"เธอไม่เชื่อว่าคนที่นอนอยู่ตรงนั้นจะเป็นสาวิน จะเป็นคนที่เคยด่าเธอว่านังชั้นต่ำสาวิน ก็เหมือนกับที่เธอพูดไว้ เขาไม่เหมาะที่จะเป็นพ่อคน นิสัยชั่วร้าย ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว ระบายอารมณ์ที่ไม่ดีใส่ลูกสาวของตัวเองทั้งหมดแต่จริงๆแล้วตอนที่เบญญาเด็กมาก เขาเคยอุ้มเธอ เคยชงนมผงเคยป้อนนมให้กับเธอ เคยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้กับเธอ...แต่ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?เบญญาอ้าปากอยากที่จะเรียกออกมาว่า"พ่อ"แต่ทำยังไงก็พูดไม่ออกมรุเดชเข็นเบญญาตรงเข้าไป หยุดลงตรงจุดที่อยู่ห่างมาประมาณหนึ่งเมตร กลิ่นคาวเลือดยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเบญญาถลึงตาโตด้วยความรู้สึกชา สายตาเคลื่อนจากซ้ายไปขวาทีละนิด สุดท้ายก็หยุดลงตรงนิ้วนางข้างซ้ายที่โผล่ออกมาจากผ้าขาวนิ้วนั้นสวมแหวนเอาไว้หนึ่งวงนั่นเป็นแหวนของสาวิน เป็นแหวนแต่งงานของเขากับแม่ เขาสวมมา27ปีแล้ว ไม่เคยถอดออกมาเลยสักครั้ง"พ่อ "ในที่สุดเธอก็พูดออกมาแล้ว แต่กลับเป็นเสียงสะอึกสะอื้นเหมือนกับจะร้องไห้เบญญารู้สึกวิงเวียนศีรษะ เธอค้ำที่จับของรถเข็นลุกขึ้นยืนอย่างโซซัดโซเซ มรุเดชมาประคองเธอเอาไว้ เธอผลักเขาออก เดินตรงไปข้างหน้าด้วยพละกำลังของตัวเอง เดินไปสองก้าวก็คุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง"ตึง"มรุเดชที่อยู่ข้างหลังยื่นมือออกมาโอบเธอเอาไว้ เบญญาสั่นเทาด้วยสีหน้าท่าทางเจ็บปวดอยู่ในอ้อมกอดของเขาเธอเอามือปิดตาเอาไว้ น้ำตาไหลออกมาจากร่องนิ้วของเธอ ดูเหมือนว่าความสิ้นหวังที่ปกคลุมไปทั่วทุกหนทุกแห่งจะบดขยี้เธอเอาไว้เบญญาคุกเข่าอยู่บนพื้น หัวเข่าค่อยๆคลานไปอยู่ตรงหน้าของผ้าขาวทีละนิดๆ เธอยกมือซ้ายขึ้นมาดึงมุมผ้าขาวลงอย่างช้าๆตอนที่เห็นใบหน้าบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยเลือดของสาวิน เธอก็ตัวอ่อนระทวยราวกับทั้งตัวไม่มีกระดูกอยู่ในอ้อมกอดของมรุเดชจริงๆแล้วเธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าสาวินตายไปแล้ว กระโดดลงมาจากตึกตั้งสามสิบกว่าชั้นจะรอดได้ยังไง? แถมเธอก็ยังจำฉากสุดท้ายในวิดีโอได้อย่างชัดเจนอีกด้วย เขาเลือดเต็มหน้า หัวสมองแตกเหมือนกันกับในตอนนี้...เธอแค่ไม่อยากที่จะเชื่อ ไม่อยากที่จะยอมรับว่าผู้ชายที่เลี้ยงดูเธอจนเติบใหญ่คนนั้นได้ตายไปแล้วเบญญาพูดติดๆขัดๆด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น"พ่อ...หนูจะสัญญากับพ่อทั้งหมด...หนูจะยกบริษัทให้กับพ่อและพี่ หนูไม่เอาอะไรทั้งนั้น พ่อลุกขึ้นมาสิ...ตลอดสี่วันที่เกิดเรื่องขึ้นกับพ่อไม่ใช่ว่าหนูจงใจไม่สนใจไยดีพ่อนะ หนูถูกขังเอาไว้ พอออกมาก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับพ่อแล้ว ถ้าพ่อจะต่อว่าหนู พ่อก็ลุกขึ้นมาด่าหนูได้เลย...พ่อ...พ่ออย่าเพิกเฉยใส่หนูสิ...คำพูดก่อนหน้านี้พวกนั้นมันไม่เป็นความจริงเลย หนูไม่ได้เกลียดพ่อ..."รอยยิ้มบนใบหน้าของเบญญานั้นดูโศกเศร้ายิ่งกว่าร้องไห้เสียอีก"ดูพ่อสิ ทั้งที่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ของตัวเองขนาดนั้นแท้ๆ ทำไมถึงทำให้ตัวเองมีบาดแผลเต็มตัวขนาดนี้ล่ะ? เสื้อผ้าก็สกปรกไปหมดแล้วด้วย..."เธอพูดพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง"พ่อที่นี่มันหนาวเกินไปแล้วพ่อรีบกลับไปกับหนูเถอะนะ...พ่อต้องการเงินเท่าไรหนูจะให้พ่อทั้งหมด..."ตำรวจที่อยู่ไม่ไกลพอได้ฟังคำพูดนี้ของเธอ ก็พูดขัดจังหวะขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว"คุณเบญญา พ่อของคุณตายไปแล้วนะครับ กระโดดลงมาจากตึกสามสิบชั้นตายคาที่ เขาไม่ฟื้นขึ้นมาแล้วล่ะครับ"เบญญาส่ายหัว พูดพึมพำ"ไม่มีทาง...เขาแค่โกรธเท่านั้น พอเขาโกรธก็มักจะเป็นแบบนี้ แสร้งทำเป็นนอนหลับไม่สนใจฉัน...เขามักจะโกรธฉันบ่อยๆ..."เธอหันหน้ามองไปยังมรุเดช พูดถามเขาอย่างสะอึกสะอื้น"นายบอกมาสิว่าเขากำลังโกรธฉันอยู่ จงใจทำเป็นไม่สนใจอยู่ใช่ไหม?"มรุเดชไม่ได้พูดอะไร จ้องมองเธอด้วยสายตาที่เบาบาง เหมือนกับว่ากำลังหัวเราะเยาะเธออยู่เบญญาตื่นตระหนกแล้ว เธอส่งเสียงคร่ำครวญออกมาอย่างอดไม่ได้อีกครั้ง น้ำตาร่วงหล่นลงมาราวกับสร้อยลูกปัดที่สายขาดมรุเดชน้ำเสียงแหบแห้งอยู่ไม่น้อย"เบญญาพ่อของเธอตายแล้วจริงๆ เธอเองก็รู้ตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว" "ไม่ ฉันไม่รู้!เขายังไม่ได้ตาย!" "มรุเดช พ่อของฉันยังไม่ได้ตาย!""พ่อของฉันเขาเอาแต่โกรธที่ฉันเอาทุกสิ่งทุกอย่างของพุ่มเทียนไป โกรธที่ฉันแต่งงานกับนาย ถ้าฉันยกพุ่มเทียนให้กับเขา แล้วก็หย่ากับนายในตอนนี้ เขาก็จะฟื้นขึ้นมาแน่นอน"มรุเดชได้ยินคำว่า"หย่า"คำนี้ รู้สึกอัดอั้นอยู่ภายในใจ ที่เขาเป็นกังวลใจที่สุดก็คือมันพูดออกมาจากปากของเบญญาอย่าคิดว่าจะได้หย่ากัน ต่อให้สาวินตายแล้วเขาก็จะยังคงผูกมัดเธอไว้แบบนี้เหมือนเดิม ให้เบญญาไม่สามารถหย่ากับเขาได้มรุเดชคว้าข้อมือที่เรียวบางทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ หยุดการกระทำของเธอ"เบญญา เธอพอได้แล้ว!ฉันบอกกับเธอแล้วว่าพ่อของเธอตายไปแล้ว ต่อให้เธอยกพุ่มเทียนออกมา หรือว่าหย่ากับฉัน พ่อของเธอก็ไม่มีทางฟื้นขึ้นมาแล้ว""มรุเดชนายปล่อยฉันนะ!"ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดูเลือดมากเกินไปหรือเปล่า สองตาของเบญญานั้นกระหายเลือดจนน่ากลัว เธอระบายความโกรธที่อยู่ภายในใจออกมาใส่มรุเดชมรุเดชรับไม่ได้กับการที่เธอจ้องมองเขาด้วยสายตาแบบนี้ เหมือนกับเป็นศัตรูคู่แค้นกันอย่างไรอย่างนั้น ตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่งมีความอันตรายพลุ่งพล่านออกมา"ทำไม? ตอนนี้เธออยากจะทะเลาะกับฉันอย่างนั้นเหรอ?"ทะเลาะ? สมแล้วที่เป็นมรุเดช มักจะมองการร้องตะโกนอย่างสุดชีวิตของเธอเป็นการหาเรื่องทะเลาะอย่างไร้เหตุผลเสมอ โรยเกลือบนบาดแผลของเธออย่างกำเริบเสิบสาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน