บทที่ 19 ผมเลี้ยงไหว
กู้จิ่วฉือนอนราบลงไปบนโซฟา จู่ๆ ก็ส่งเสียงทอดถอนใจด้วยความพึงพอใจออกมา ความสุขของโลกมนุษย์~
ฮั่วหมิงเช่อค่อยๆเอียงตัวมองไปยังกู้จิ่วฉือ สาวน้อยนั่งพิงโซฟาอยู่ข้างๆเขาอย่างเป็นธรรมชาติ แววตาเผยประกายความมีชีวิตชีวาออกมา
ภาพที่อยู่ตรงหน้าราวกับไม่ใช่ความจริง เหมือนภาพที่เขากำลังหลับฝันอยู่ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ
กู้จิ่วฉือหลับตาลงพร้อมกับเสื้อสูทก็ปกคลุมอยู่บนร่างกายของเธอทันที น้ำเสียงที่ไพเราะของชายหนุ่มดังขึ้นที่ข้างหูของเธอ
“นอนพักสักพักเถอะ”
“เพิ่งทานอิ่มก็ให้นอนเลยเหรอ?ถ้าฉันอ้วนจนกลายเป็นหมูแล้วจะทำยังไง?”
ทันใดนั้นกู้จิ่วฉือก็พริบตามองไปที่เขา อยากจะฟังว่าเขาจะตอบว่าอะไร
“ผมเลี้ยงไหว”
ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ยิ้มอ่อน แม้จะเป็นเพียงรอยยิ้มช่วงสั้นๆราวกับฝนดาวตก แต่ว่าแม้จะเป็นช่วงสั้นๆก็ทำให้คนยากที่จะลืม
กู้จิ่วฉือมองฮั่วหมิงเช่ออย่างตื่นตะลึง บรรยากาศกำลังดี ชายหนุ่มยื่นมือออกมาด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน แต่ขณะที่กำลังจะสัมผัสตัวเธอ ราวกับเขานึกอะไรขึ้นมาได้สีหน้าจึงครึมลง รีบลุกจากโซฟา หันหลังแล้วกลับไปยังโต๊ะทำงาน
บรรยากาศหนาวเหน็บ ราวกับความฝันกำลังจะพังทลายลงกลับมาสู่ความจริงที่เย็นยะเยือก
ท่าทีของชายหนุ่มทำให้กู้จิ่วฉือนึกถึงความทรงจำช่วงหนึ่งที่ไม่ดี
ชาติที่แล้วเดิมทีฮั่วหมิงเช่อไม่ใช่ ปีศาจใหญ่ที่ขี้หวาดระแวง
หลังจากที่เธอเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ฮั่วหมิงเช่อได้ออกจากเมืองตี้จิงเป็นระยะที่ยาวนานช่วงหนึ่ง เมื่อมาเจอกันอีกครั้งก็เป็นช่วงที่เธอรู้ข่าวว่าเธอต้องหมั่นกับฮั่วหมิงเช่อ
ในเวลานั้นฮั่วหมิงเช่อก็อยากที่จะใกล้ชิดกับเธอลูบศีรษะเธอ แต่เธอก็ต่อต้านอย่างรุนแรง ทั้งยังพูดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจของเขาไปเป็นจำนวนมาก
ประโยคหนึ่งในนั้นที่กู้จิ่วฉือจำได้อย่างแม่นยำก็คือ
“ฮั่วหมิงเช่อ ต่อให้เจี้ยยู่ถังตายไปแล้ว ฉันก็จะไม่ยอมแต่งงานกับคุณเด็ดขาด!”
เมื่อสักครู่นี้ปีศาจใหญ่คงไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อยู่หรอกนะ?
สองมือของกู้จิ่วฉือประสานกัน ลุกขึ้นพลางพูดขึ้นอย่างกระอักกระอ่วนใจ
“อืม……ใกล้จะถึงเวลาเรียนแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อน ……”
คำพูดประโยคนี้ของกู้จิ่วฉือยังไม่ทันพูดจบ บรรยากาศภายในห้องก็ราวกับถูกลดอุณหภูมิลง!ทำให้เธอตกใจจนแทบจะสติหลุด
“แต่ว่าตอนบ่ายเป็นชั่วโมงโฮมรูม ไม่ได้เรียนวิชาอะไร ฉันคิดว่าจะอยู่เล่นที่นี่สักพักแล้วค่อยกลับ ก็ได้??”
กู้จิ่วฉือรีบกลับคำพูดทันที กระทั่งร่างกายของเธอที่ได้ลุกขึ้นนั้นนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดเข้มข้นขึ้น
ชายหนุ่มไม่ได้รับคำของเธอ แต่บรรยากาศของห้องก็อบอุ่นลงราวกับฤดูใบไม้ผลิ เขาโทรออกโดยใช้ภายใน
“เอาผ้าห่มเข้ามาให้คุณผู้หญิงหน่อย”
น้ำเสียงของปีศาจใหญ่อ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้กู้จิ่วฉือผ่อนคลายลง พนันได้ถูกต้อง!
ในใจของกู้จิ่วฉือแอบบ่นพึมพำ เช่อ~ในเมื่ออยากจะให้เธออยู่ที่นี่ต่อ ทำไมถึงไม่พูดตรงๆล่ะ ไม่เห็นจะต้องขู่เธอเลย~
ช้าก่อน แล้วทำไมเธอจะต้องเป็นคนเอ่ยปากเพื่ออยู่ที่นี่ต่อด้วย?
กู้จิ่วฉือเบิกตากว้าง พลางมองไปที่ฮั่วหมิงเช่อด้วยความสงสัย คงไม่ได้เป็นกลอุบายของเขาหรอกนะ?
คนบางคนกำลังจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ราวกับ“ตนซื่อสัตย์สุจริต”ไม่รู้จักกลอุบาย~
ไม่นาน จ้านยิงก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามาแล้วยื่นผ้าห่มสีเทาให้กับเธอ ซึ่งล้วนเป็นสไตล์ของฮั่วหมิงเช่อทั้งสิ้น
“ขอบคุณค่ะ”
กู้จิ่วฉือรับมาและห่มไว้ลำตัวของตนเอง พร้อมกับทำปากจู๋เล็กน้อย
หลังจากที่จ้านยิงส่งผ้าห่มให้กับกู้จิ่วฉือแล้ว ก็ไม่ได้ออกไปจากห้องทำงานแต่กลับลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า
“เจ้านายผู้บริหารของแต่ละแผนกกำลังรอที่จะรายงานอยู่นะครับ ไม่สามารถยื้อต่อไปได้แล้วครับ……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห่วงรักคุณปีศาจ