ตอนที่ 16 คิดถึงเธออีกแล้ว
เลอศิลป์ขมวดคิ้วแน่นและดวงตาของเขาก็ฉายแววความรำคาญใจ นี่ฉันเห็นอีกแล้วเหรอ? ฉันคงไม่กังวลเรื่องนี้เท่าไรถ้ามันเป็นแค่เพียงครั้งสองครั้งเท่านั้น แต่นี่เกิดขึ้นสองวันติดๆ เชียวนะ ฉันเหมือนเห็นร่างของเธอในที่ต่างๆ แต่ร่างนั้นแวบผ่านตาไปและไม่ทิ้งร่องรอยอะไรใดๆ เอาไว้เลย เขาอดไม่ได้ที่พ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะละสายตาจากทางเข้าร้าน ฉันคงจะเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ถึงได้คิดถึงเธอขึ้นมาอีกแล้ว ระหว่างนั้น ครรชิตกำลังยืนรออยู่ข้างๆ มาสักระยะหนึ่ง เขาเห็นว่าเลอศิลป์ไม่ขยับไปไหนเลย จึงถามขึ้นมาอย่างระมัดระวังว่า “คุณเลอศิลป์ครับ ลูกค้าเรารอนานแล้วนะครับ เราจะไปกันเลยไหมครับ?” เลอศิลป์หลับตาลงครู่หนึ่งและตั้งสติก่อนจะตอบกลับไปว่า “ไปได้เลย” สิ้นคำนั้น เขาก็ก้าวขายาวๆ เดินเข้าไปในตัวอาคาร ส่วนครรชิตเดินตามหลังเขาไปติดๆ เมื่อรษิกาและคมสันมาถึงห้องส่วนตัวในร้านอาหาร พนักงานทุกคนในสถาบันวิจัยก็อยู่ที่นั่นกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว คมสันพาเธอไปนั่งที่หัวโต๊ะ ขณะที่เขานั่งลงข้างเธอ หลังจากนั่งกันเรียบร้อยแล้ว เขาก็แนะนำตัวเธอให้ทุกคนรู้จัก “ผมแน่ใจว่าทุกคนคงได้พบคุณหมอรษิกาแล้วในวันนี้ แต่ผมก็อยากจะแนะนำเธอให้ทุกคนได้รู้จักกันนะครับ” ทุกคนหันมามองรษิกาซึ่งกำลังพยักหน้าเป็นเชิงทักทาย “คุณคนนี้คือคุณรษิกา จารวิทย์ หรือจะเรียกเธอว่าคุณหมอรษิกาก็ได้ หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้ แต่ว่าทุกคนคงคุ้นชื่อที่เธอใช้ในต่างประเทศมากกว่า เธอก็คือแพทย์ฝึกหัดที่เก่งที่สุดของศาสตราจารย์หาญชัย คุณเจนเนตรครับผม” ทุกคนในห้องนั้นต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินชื่อเธอ มันใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่าที่ทุกคนจะตั้งสติได้ และสายตาพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเคารพยกย่อง เจนเนตรเป็นชื่อที่ทุกคนในวงการแพทย์นั้นรู้จักดี อันที่จริงควรจะบอกว่าเป็นชื่อที่โด่งดังมากในต่างประเทศ เพราะเธอนั้นมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมมากตั้งแต่อายุยังน้อย ว่ากันว่าเธอสืบทอดทักษะของหาญชัยมาได้ถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งเธอยังเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับคนรุ่นใหม่ด้วย ตลอดเวลาที่ผ่านมา เหล่าพนักงานต่างก็คิดกันไปเองว่าเจนเนตรเป็นนักวิชาการที่เคร่งเครียด สวมแว่นตา และผมสั้น แต่พวกเขาก็ต้องแปลกใจ เมื่อเธอกลับกลายเป็นผู้หญิงที่สวยมากต่างจากภาพที่คิดเอาไว้เป็นคนละคน หลังจากได้สติแล้ว ผู้ที่ชื่นชมเธอก็พากันลุกขึ้นยืน “คุณคือคุณเจนเนตรจริงเหรอ? ฉันชอบคุณมากเลยนะคะ ฉันอ่านวิทยานิพนธ์ที่คุณเขียนตอนอยู่ต่างประเทศทุกเล่ม คุณคือไอดอลของฉันเลยล่ะค่ะ!” “เป็นเกียรติของเราที่ได้ร่วมงานกับคุณครับ คุณเจนเนตร!” ฝูงชนต่างเริ่มออกปากชื่นชมเธอ พวกเขาทุกคนดูจริงใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่สบตากับทุกคนแล้ว รษิกาก็ยิ้มออกมา “ขอบคุณทุกคนมากนะคะ ที่ชมกันขนาดนี้ ดื่มนี้เป็นเกียรติให้แก่ความร่วมมือกันที่จะออกดอกออกผลอย่างแน่นอนค่ะ” สิ้นคำ เธอก็ยกแก้วของเธอขึ้นมา ทุกคนก็ยกแก้วของตัวเองขึ้นเช่นกัน ก่อนจะกระดกเครื่องดื่มของตนเองจนหมดในรวดเดียว รษิกาแสดงออกมาอย่างเป็นมิตรโดยไม่หยิ่งยโสใดๆ เลย ด้วยเหตุนี้ทำให้พนักงานทุกคนยิ่งชื่นชมเธอมากเข้าไปใหญ่ การทานอาหารมื้อนี้เต็มไปด้วยความสุขและความเพลิดเพลิน หลายคนดื่มให้กับรษิกา และเธอก็ตอบรับพวกเขาทุกคน เธอเป็นคนคอแข็งอยู่พอสมควร แต่ในครั้งนี้มีคนเข้ามาดื่มให้เธอจนมากเกินไป ก่อนที่เธอจะรู้ตัว เธอก็รู้สึกมึนเมาเข้าให้แล้ว เมื่อเห็นว่ามื้อค่ำใกล้จบลงแล้ว รษิกาก็ขอตัวไปห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นขึ้นเสียหน่อย ขณะที่เดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อกลับไปยังห้องส่วนตัว โทรศัพท์เธอก็สั่น รษิกาเหลือบมองดูโทรศัพท์และเห็นข้อความจากลูกๆ ของเธอ พวกเขาส่งข้อความมาถามว่าเมื่อไรเธอจะกลับบ้าน เมื่อเห็นข้อความนั้นแล้วเธอก็ยิ้มออกมาอย่างอบอุ่นหัวใจ ขณะที่เธอกำลังจะหยุดเดินเพื่อตอบข้อความนั้น ก็บังเอิญมีคนมาชนไหล่เธอเข้าอย่างจังจนโทรศัพท์เกือบจะร่วงหล่นไปจากมือ รษิกาคว้าโทรศัพท์เอาไว้แน่นและขอโทษคนคนนั้น “ฉันขอโทษค่ะ…” ก่อนที่เธอจะทันได้พูดจนจบประโยค ชายคนนั้นก็ถามด้วยความเดือดดาลว่า “ตาบอดหรือไง? แม่งเอ๊ย เสียบรรยากาศคืนนี้หมดเลย!” ขณะที่เขาพูดออกมา กลิ่นเหล้าก็โชยเข้าเตะจมูกเธอ รษิกาขมวดคิ้วแน่นและถอยออกมาอย่างสุขุมเพื่อเว้นระยะห่างระหว่างเขาและเธอให้มากขึ้น เมื่อคนเมาคนนั้นเห็นหน้าเธอชัดๆ เขาก็หยุดก่นด่าเธอทันทีและเอาแต่จ้องใบหน้าที่งดงามของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้ายพ่ายรัก
เขียนต่อนะคะ สนุกมากเลย...