อีเดน นิยาย บท 35

“ฮึก...” มาริกาน้ำตาไหลเอ่อออกมาอย่างเก็บไม่อยู่ ทั้งแค้นและเจ็บใจที่แพ้ให้กับอลิชาอย่างที่ไม่มีทางจะเอาคืนได้

“แกไม่ต้องห่วง เดี๋ยวรอจังหวะดีๆ ฉันจะจัดการเอาคืนนังอลิซมันให้ รับรองว่าคุณหญิงกมลาจะต้องอายจนไม่กล้าเอามันเป็นลูกสะใภ้” โสภีดึงบุตรสาวเข้ามากอดปลอบ

“หนูได้ยินแม่พูดแบบนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่ยอมทำอะไรสักที” มาริกาต่อว่าอย่างทนไม่ไหว

“แกอยู่เฉยๆ เถอะ เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง”

“ก็ได้ หนูจะรอดู”

“รับรองงานนี้นังอลิซอาจจะฆ่าตัวตายตามแม่มันไปก็ได้ หึๆ” โสภีบอกพลางหัวเราะชอบใจ เมื่อนึกไปถึงแผนที่วางเอาไว้

“ขอให้จริงทีเถอะค่ะ อ้อ! แล้วนี่แม่เคลียร์กับลุงวิตรหรือยัง” มาริกาเปลี่ยนมาถามถึงคนที่หายไปตั้งแต่วันนั้น จนวันนี้ก็ยังไม่โผล่หน้ามาหามารดาของตนอย่างรู้สึกสงสัย

“ยัง” โสภีหน้าตึงทันทีที่ได้ยินชื่อของอีกฝ่าย

“แม่ต้องรีบเคลียร์นะ มิ้งเห็นท่าทีลุงวิตรวันก่อนแล้ว รู้สึกหวั่นใจยังไงก็ไม่รู้”

“โอ๊ย แกไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉันหรอกยัยมิ้ง”

“หนูก็แค่เป็นห่วง”

“คุณวิตรน่ะของตาย เดี๋ยวหายโกรธเขาก็มาง้อฉันเหมือนทุกครั้งแหละ” โสภีไม่แคร์เพราะตั้งแต่คบกันมาเธอไม่เคยต้องเสียเวลาไปง้องอนอีกฝ่ายเลยสักครั้ง

“ก็ไม่แน่นะแม่ ถ้าครั้งนี้ลุงวิตรไม่มาง้อแม่จะเอาเงินที่ไหนใช้”มาริกาเป็นห่วง แต่จริงๆ แล้วกลัวมารดาจะมายืมเงินของตัวเองไปเล่นการพนันมากกว่า

“ฉันไม่ได้มีแค่วิตรคนเดียว แกก็รู้” โสภีเชิดหน้าขึ้นนิดๆ อย่างถือดี

“แต่คนอื่นๆ ให้แม่ได้เท่าลุงวิตรไหมล่ะ” มาริกาท้วง

โสภีเหลือบมองนาฬิกาที่ผนังห้องก็ใกล้เวลาที่นัดกับขาไพ่เอาไว้ จึงเอ่ยปากไล่บุตรสาว เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะอยู่ขัดโชคขัดลาภของตน

“นี่แกเป็นลูกหรือแกเป็นแม่ฉันฮะยัยมิ้ง ไปๆ เอาเวลาไปหาผู้ชายหน้าโง่คนใหม่ ที่พร้อมจะเปย์ให้แกดีกว่า”

มาริกาส่ายหน้าก่อนจะหยิบกระเป๋าถือ แล้วเดินออกจากบ้านไปด้วยสีหน้าเซ็งๆ เพราะเงินส่วนหนึ่งที่ปริณให้เธอก็แบ่งให้มารดาใช้แทบทุกเดือน ซึ่งประวิตรเองก็ให้มารดาของเธอใช้เดือนละหลายหมื่น แต่มันก็ยังไม่พอสำหรับคนที่ถูกผีพนันเข้าสิงร่างอยู่ดี

ซาเบลล่า ซาลอน...

“น้องเซร่าคะ พี่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” ‘จี๊ด’ ช่างทำผมวัยสี่สิบสองเอ่ยขึ้นหลังจากที่ชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้มาได้สักพัก

“มีอะไรหรือคะพี่จี๊ด” เซร่าละสายตาจากมือถือแล้วเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายผ่านเงาในกระจก

“พี่ได้ข่าววงในว่าหนูคบกับคุณอีเดน ไคเลอร์ จริงหรือคะ” ทันทีที่จี๊ดเอ่ยจบประโยค ทำเอาลูกค้าในร้านเสริมสวยต่างพากันหันมามองนางแบบคนดังกันเป็นแถว ซึ่งสาเหตุก็เพราะว่าเมื่ออาทิตย์ก่อน มีมือดีแอบถ่ายรูปของนางแบบสาวที่ไปเที่ยวไนต์คลับ ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่เสี่ยใหญ่คนดังไป แถมไม่ถึงสองชั่วโมงจากนั้นก็มีคนถ่ายภาพนางแบบสาวเดินเข้าไปในโรงแรมมะลิฉัตรแกรนด์ หลังจากที่รถสปอร์ตสุดหรูของอีเดนแล่นเข้าไปได้ไม่ถึงสิบนาที

พอรุ่งเช้าก็มีข่าวซุบซิบวงในแว่วๆ ว่า อีเดนกำลังคบหาเซร่าแบบจริงจัง อย่างที่ไม่เคยคบสาวไหนมาก่อน โดยข่าวแว่วๆ นั้นก็ยังไม่มีการยืนยัน หรือคำแก้ตัวจากทั้งสอง

“อืม...เอาเป็นว่าถ้าหนูกับคุณอีเดนพร้อมจะเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์เมื่อไหร่ หนูจะบอกพี่เป็นคนแรกดีไหมคะ?” เซร่าอมยิ้มเมื่อรู้ว่าทุกคนกำลังจ้องมายังเธอ ‘หึ ไหนๆ ก็ไม่ค่อยมีงานอยู่แล้ว สร้างกระแส สักหน่อยจะเป็นไรไป’

“อ๊ะๆ แสดงว่าใช่สิคะ”

“คงต้องรอให้ฝ่ายชายออกมาแถลงก่อนค่ะ เซร่าเป็นผู้หญิงพูดไปก็คงไม่เหมาะ” หญิงสาววางฟอร์มให้ดูเก๋ก่อนจะก้มดูที่มือถือของตัวเองต่อ ทำเอาคนที่กำลังรอฟังอยู่รอบๆ ต่างก็ตาโตไปตามๆ กัน

“ว้าย! ราศีว่าที่คุณนายไคเลอร์จับเชียวค่ะ คิกๆๆ” จี๊ดยกหางนางแบบสาวเสียงดัง คล้ายกับต้องการให้ลูกค้าคนอื่นๆ ได้ยินการสนทนา

“ถ้าแต่งงานเมื่อไหร่ อย่าลืมเรียกใช้บริการของพี่นะคะ” เบลล่าสาวประเภทสองเจ้าของร้านรีบเข้ามาบอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“โอเคค่ะ” เซร่าเอ่ยรับ แล้วแสร้งทำเป็นเขี่ยหน้าจอมือถือดูความเคลื่อนไหวของวงการบันเทิงต่อ ทั้งที่ในใจก็อดขำไม่ได้ เพราะวันนั้นเธอเปิดห้องนอนกับสามีของนางเอก แถวหน้าของวงการบันเทิง ที่คนวงในเมาท์กันว่าอีกฝ่ายกระเป๋าหนัก สายเปย์ เธอจึงนัดไปสานสัมพันธ์ต่อที่เตียงนุ่มๆ อย่างไม่รอช้า และก็สมคำร่ำลือ ที่ใครๆ บอก เพราะอีกฝ่ายเร่าร้อนลีลาเด็ดจนเธอรู้สึกติดใจ อยากจะเป็นเมียจริงๆ ขึ้นมา

แต่พ่อคุณก็หวงความเป็นส่วนตัว ทั้งที่ก็มีข่าวว่าระหองระแหงกับภรรยา เธออยากจะแทรกผ่าน ข้ามเส้นแบ่งของความสันพันธ์ชั่วคราวไปเป็นความสัมพันธ์ระยะยาวจนตัวสั่น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้อีกฝ่ายจะติดต่อกลับมาเท่านั้น

19 : 53 น. โรงแรมมะลิฉัตรแกรนด์

หลังจากที่ลงจากเครื่องบินเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนกับอีเดน มารียาก็นั่งรถมากับธนินที่โรงแรมเพื่อเคลียร์กับธันวา

ธนินจอดรถที่ด้านหน้าโรงแรมให้มารียา ก่อนจะขับไปจอดที่ลานจอดด้านข้าง แล้วเดินตามเข้าไปนั่งยังโต๊ะที่จองเอาไว้ติดๆ กัน

มารียายืนรออยู่ที่ด้านหน้าล็อบบีครู่หนึ่ง ธันวาก็เดินเข้ามาทักทายจากด้านหลัง

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะพี่ธัน รียาจองโต๊ะเอาไว้แล้วค่ะ” มารียาบอกพร้อมกับยิ้มให้คู่หมั้นบางๆ

“น้องรียาสวยมากเลยรู้ไหม” ธันวาเอ่ยชม

“ขอบคุณค่ะ” มารียาบอกก่อนจะชวนคู่หมั้นเข้าไปด้านในห้องอาหารด้วยสีหน้าเจื่อนๆ อย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับท่าทางดีอกดีใจของอีกฝ่าย

สองนาทีต่อมา... ธันวาขยับเก้าอี้ให้สาวเจ้าก่อนจะเข้าไปนั่งที่ฝั่งตรงข้าม แล้วหันไปสั่งไวน์และอาหารกับบริกรที่ยืนรออยู่ พอสั่งเสร็จเขาก็ชิงเปิดประเด็นเรื่องที่คิดมาตลอดทางให้คนตรงหน้าฟัง

“คุณแม่ของพี่ท่านขอเร่งงานแต่งของเราให้เร็วขึ้นเป็นอีกสองเดือนข้างหน้าค่ะ”

“อะไรนะคะ” มารียาถามอย่างตกใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใช้มุกนี้มายื้อเธอ

“พี่บอกว่า คุณแม่พี่ท่านขอเร่งงานแต่งให้เร็วขึ้นค่ะ” ธันวาเอ่ยย้ำอีกครั้ง ขณะมองอาการของคนตรงหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

“พี่ธันคะ ที่รียานัดพี่ออกมาวันนี้ก็เพื่อจะบอกเลิกค่ะ” เธอตัดสินใจบอกเรื่องที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายหยิบยกเหตุผลใดมาพูดอีก

“นี่เราล้อพี่เล่นใช่ไหม” ธันวาหน้าชาราวกับโดนน้ำเย็นสาดใส่

“รียาไม่ได้ล้อเล่นค่ะ” มารียาบอกด้วยสีหน้าจริงจัง

“มันเกิดอะไรขึ้นคะ บอกพี่ได้ไหม”

“รียาว่าพี่ธันรู้...ว่าเพราะอะไร”

ธันวาตาแดงก่ำ รู้ทันทีว่าคนที่ตนเห็นด้านหลังในคลับวันนั้นคือคู่หมั้นสาว “ได้โปรด...ถ้าเป็นเพราะเรื่องวันนั้นพี่ขอโทษ พี่เมาก็เลย...”

“ก็เลยนัวกับคู่ขาในสถานที่ที่คิดว่าไม่มีใครเห็นอย่างนั้นเหรอคะ” มารียาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา พร้อมกับจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาผิดหวัง

“พี่บอกเลิกกับอรอุมาไปแล้ว ต่อไปนี้พี่จะมีแค่รียาคนเดียว ได้โปรดคนดี” ธันวาให้คำมั่น

“พี่ธันขอโทษในตอนที่รียาเสียความรู้สึกไปแล้ว ร้องไห้ไปแล้ว และตอนนี้ รียาก็หมดรักพี่ธันไปแล้วค่ะ”

“ไม่จริง! รียายังรักพี่ ได้โปรดคนดี... เราคบกันมานานกี่ปีแล้ว” ธันวาน้ำตาไหลอาบแก้มอย่างกลั้นไม่อยู่

“นั่นสิคะ บางทีเราคงเหมาะจะป็นพี่กับน้องกันมากกว่าจะใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกัน” มารียาเอ่ยเสียงอ่อน เมื่อนึกย้อนไปถึงสิ่งดีๆ ที่ผ่านมา

“ไม่! ยังไงพี่ก็ไม่ยอมล้มเลิกงานแต่งแน่!” ธันวาบอกเสียงแข็งอย่างไม่ยอม

“รียาบอกพ่อกับแม่ไปแล้วค่ะ และที่นัดพี่ธันออกมาวันนี้ก็เพื่อจะให้พี่ไปบอกผู้ใหญ่ทางฝั่งของพี่เอาเอง ส่วนเรื่องสินสอดที่หมั้นไว้คุณพ่อคุณแม่ของรียาท่านจะส่งคืนให้ในวันพรุ่งนี้”

“ไม่! ได้โปรด... อย่าทำแบบนี้คนดี ได้โปรด... ฮึก... ด่าพี่ก็ได้ ตบพี่ก็ได้ รียาจะทำอะไรพี่ก็ได้ แต่อย่าบอกว่าจะเลิกกับพี่เลย ฮึก...” ธันวาลงไปนั่งคุกเข่าต่อหน้าสาวเจ้าทันใด

มารียาตกใจกับกระทำของอีกฝ่ายที่ดูจะไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ซึ่งกำลังพากันหันมามองอยู่ในตอนนี้ “พี่ธันลุกขึ้นเถอะค่ะ คนหันมามองกันใหญ่แล้ว”

“ช่างสิ! พี่ไม่สน ฮึก...” ธันวาบอกพลางดึงแขนของสาวเจ้าเข้าไปกอด หวังจะเรียกคะแนนสงสาร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน