“ไม่น่าเชื่อนะครับว่าสายบู๊อย่างผู้กองจะชอบสาวสวยหวาน แถมอายุก็ห่างกันตั้งเป็นสิบปี”
“คนเรามักจะมองหาสิ่งตรงข้ามกับตัวเองมาเต็มจ้ะ ดูอย่างพ่อเราสิ หล่อก็ไม่หล่อ หน้าตาก็งั้นๆ ได้เมียสวยเหมือนนางฟ้าเชียว คิกๆๆ”
“โห...ไอ้ที่ว่าได้เมียสวยเหมือนนางฟ้าเนี่ย ผมไม่เถียงนะ แต่เคืองที่คุณบอกว่าผมไม่หล่อ อันนี้รับไม่ได้สุดๆ” คนเคยติดอันดับหนุ่มหล่อรวยของโลกมาก่อน มองค้อนภรรยาสุดที่รักด้วยหางตาอย่างนอยด์ๆ
“ฮ่าๆๆ” สองหนุ่มเซนกับอีวานหัวเราะพร้อมกันเสียงดังอย่างชอบใจ เมื่อเห็นมารดาและบิดาหยอกเย้ากันอย่างอารมณ์ดี
“ฉันล้อเล่นค่ะ ลองทานขากบผัดฉ่าดูหน่อยนะคะ” อังศณารีบตักป้อนให้สามีอย่างเอาใจ
อีธานกลอกตา แต่ก็อ้าปากรับแต่โดยดี ทำเอาสองหนุ่มถึงกับฉีกยิ้มกว้างออกมากับความหวานที่ยังคงเสมอต้นเสมอปลาย ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาเป็นเด็กจวบจนกระทั่งโตเป็นหนุ่ม บิดาและมารดาของเขาก็คงรักกันอยู่เช่นนี้ไม่เปลี่ยนแปลง
อังศณารีบเอ่ยเรื่องอื่นกลบเกลื่อนความเขินอาย เมื่อเห็นสายตาของสามีมองมาอย่างแฝงไปด้วยนัยยะบางอย่าง “แม่รู้สึกเหมือนพักนี้อีเดนทำตัวแปลกๆ ไปนะ”
“อาจจะกำลังยุ่งงานอยู่ก็ได้นะ อย่าคิดมากสิคุณ” อีธานตอบยิ้มๆ เมื่อเห็นสีหน้าของภรรยาเริ่มแดงขึ้นมาน้อยๆ
“แม่ลองทานไข่ปูดูสิครับ อร่อยมากๆ เลย” เซนตักยำไข่ปูดองน้ำปลาส่งให้มารดาอย่างเอาใจ
“ปลาหมึกไข่ผัดผงกะหรี่ก็อร่อยครับ รสชาติกลมกล่อมใช้ได้เลย” อีวานตักวางลงในจานให้มารดาตามน้องชาย
อีธานมองหน้าบุตรชายทั้งสองแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะตักบ้าง “สามชั้นทอดพริกเกลือก็อร่อยนะคุณ”
“แหมๆ พ่อลูกบ้านนี้เป็นอะไรกันเนี่ย แข่งกันเอาใจแม่น่าดู” อังศณาหัวเราะเบาๆ อย่างชอบใจ
“ก็เห็นแม่เอาแต่ห่วงพี่อีเดนจนลืมว่ายังมีผม พี่อีวาน แล้วก็แด๊ดนั่งทานข้าวอยู่ด้วยน่ะสิครับ” เซนเอ่ยด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ ทั้งที่จริงแล้วไม่ได้คิดอะไร นอกจากดราม่าเรียกความสนใจเล่นๆ ก็แค่นั้น
“หึ! ช่างพูดจริงๆ นะเรา” อังศณายิ้มให้บุตรชายคนเล็กอย่างขำๆ ก่อนจะตักไข่ปูที่ราดน้ำจิ้มซีฟู๊ดทาน
“ผมว่าอีกหน่อยเราน่าจะเปิดร้านอาหารกันนะครับ ทานกันแต่ละอาทิตย์นี่มีแต่กับข้าวอร่อยๆ ทั้งนั้นเลย” อีวานเสนอ
“แล้วใครจะดูแลร้านล่ะ” อังศณาถามกลับยิ้มๆ
“เซนไงครับแม่” อีวานรีบโยนงานให้คนชอบดราม่าอย่างไม่รอช้า
“โห...ถ้าให้ผมดูแลจริง ผมจะเปิดเป็นบาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ ที่มีทั้งดนตรีขับกล่อม แถมด้วยเครื่องดื่มและอาหารรสเลิศที่หาทานได้ยาก ฟังดูโอเคไหมครับ” เซนเอ่ยทีเล่นทีจริง
“เข้าท่านะ ไปหาทำเลสวยๆ แล้วมาบอกแด๊ด” อีธานสรุปก่อนจะตักน้ำจิ้มซีฟู๊ดราดบนไข่ปูดองมาลองทาน แล้วยกนิ้วให้กับเมนูที่ตอนแรกไม่กล้าลองเพราะคิดว่าคงจะมีกลิ่นคาว แต่กลับผิดคาดเพราะรสชาตินั้นกลมกล่อมจนทำให้ติดใจเลยทีเดียว
“ผมจะพาลูกค้าไปเลี้ยงต้อนรับที่ร้านด้วยครับ” อีวานเสริมต่อให้เป็นเรื่องเป็นราว
“เยี่ยมเลยจ้ะอีวาน ชวนเพื่อนๆ ของเราไปสังสรรค์ที่ร้านด้วยนะ จะได้อุดหนุนครอบครัวอีกทาง” อังศณาบอกอย่างเห็นด้วย
“นี่เอากันจริงๆ ใช่ไหมครับ” คนที่ได้รับภารกิจถามย้ำอย่างไม่เชื่อหู
ทุกคนพากันยิ้มให้จอมดราม่า ก่อนจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า... “ใช่”
“ให้ตายสิ! ผมกำลังเรียนอยู่ปีสามนะครับ” เซนโอดครวญทันใด
“เอาน่าเซน ลองทำดู ถ้ามันเจ๊งแด๊ดก็ไม่ได้ซีเรียส ถือว่าซื้อประสบการณ์ให้ลูกแล้วกัน” อีธานปลอบใจคนที่ทำคิ้วยุ่งด้วยสีหน้าขบขัน
“เฮ้อ...ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมขอเวลาไปศึกษารายละเอียดดูก่อนถ้าพร้อมแล้วผมจะบอกครับ” เซนตอบก่อนจะหันไปมองค้อนพี่ชายที่ชอบหางานให้ตน
“แม่เอาใจช่วยนะลูก” อังศณาส่งยิ้มหวานให้กำลังใจบุตรชาย
“ขอบคุณครับ” เซนยิ้มตอบก่อนจะลงมือทานอาหารต่ออย่างฝืดคอ
“นายต้องทำบัตรลด 50% ให้พี่ด้วยนะ”
คนที่กำลังคิดหนัก แสร้งหัวเราะราวกับว่ากำลังอารมณ์ดี “ฮ่าๆๆๆ ถ้าจะให้ลดขนาดนั้น ก็กินฟรีไปเลยครับเฮีย”
“พูดจริงอ่ะ” อีวานเย้า
“อืม...แล้วพรุ่งนี้คุณมีโปรแกรมจะทำอะไรบ้างคะ”
“ผมว่าจะไปเอาหน่อไผ่หวานกับปลาช่อนตัวใหญ่ที่บ้านพักของพวกการ์ดน่ะ” อีเดนบอกพลางสังเกตอาการของคนตรงหน้าว่าจะมีท่าทียังไงกับเมนูอาหารที่ตนจะทำในวันรุ่งขึ้น
“เขาไปเอามาจากไหนคะ” มารียาสงสัย
“ต้นไผ่หวานมีกระจายอยู่ทั่วเขตพื้นที่ของไร่เลยครับ ส่วนปลาช่อนก็ได้จากลำธารด้านหลัง”
“ลำธารไหลผ่านไปที่บ้านพักหลังอื่นด้วยเหรอคะ”
“ใช่ครับ เราอยู่ต้นๆ ของลำธาร อ้อ! ที่ไร่ของผมมีเห็ดป่าออกด้วยนะ ถ้าโชคดีพรุ่งนี้เราอาจจะได้กินกัน”
“เห็ดอะไรคะ” มารียาถามอย่างสนใจ
“เห็ดโคนกับเห็ดตับเต่าน่ะครับ เวลาออกก็จะออกเยอะมาก” อีเดนบอกยิ้มๆ เพราะเวลามาพักที่นี่กับครอบครัวก็มักจะได้ทานทั้งเห็ดและหน่อไม้ รวมไปถึงผักต่างๆ ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ
“ว้าว! ตื่นเต้นจังเลยค่ะ” มารียานึกภาพตัวเองใส่รองเท้าบูตไปเก็บเห็ดขึ้นมาทันใด
“คุณทานเป็นไหม” อีเดนถามอย่างไม่แน่ใจ
“ทุกอย่างที่คุณบอกมาฉันทานได้หมดค่ะ แต่จะดีมากๆ ถ้าหากว่าพรุ่งนี้คุณจะพาฉันไปเก็บเห็ดด้วย” มารียาบอกยิ้มๆ
“ผมนึกว่าคุณจะเป็นประเภทคุณหนูจ๋าซะอีก” คนที่กลัวว่า ไลฟ์สไตล์ของตนกับสาวเจ้าจะไม่เข้ากัน แต่พอได้ยินคำตอบเมื่อครู่ ก็ถึงกับฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาทันใด
“ฉันก็คิดว่าคุณจะเป็นคุณชายจ๋าเหมือนกัน” มารียาหัวเราะอย่างขำๆ กับคำพูดของอีกฝ่ายที่ประเมินเธอผิดไป
“โอเค งั้นเราวางทุกอย่างที่คิดว่าคุณหรือผมอาจจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ แล้วมาเริ่มต้นทำความรู้จักกันใหม่ในแบบที่เราเป็นเรากันดีไหม” อีเดนเสนอพร้อมกับจ้องมองใบหน้างามนิ่ง
“ดีค่ะ” มารียายิ้มให้คนตรงหน้าที่ดูจะจริงจังจนทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆ ที่เจออีกฝ่ายได้เพียงไม่กี่วัน แต่เหมือนกับได้รู้จักกันมานานแสนนาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน