สามสิบนาทีต่อมา... อีเดนพาสาวเจ้าเดินลัดเลาะมาตรงพิกัดที่การ์ดส่งมาให้ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักของเขาไปประมาณเจ็ด-แปดร้อยเมตร ก็เจอเห็ดโคนออกกระจายอยู่ไปทั่ว
“ว้าว! ฉันขอถ่ายรูปก่อนได้ไหมคะ” มารียาหันไปถามคนข้างๆ ด้วยสีหน้าตื่นเต้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเก็บเห็ดป่าเองกับมือ
“ได้สิครับ” อีเดนหัวเราะเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้คนที่เตรียมกดมือถือเก็บภาพอย่างรู้สึกเขินนิดๆ
“เอ่อ...ไม่ใช่คุณค่ะ ฉันจะถ่ายรูปเห็ดโคนต่างหาก” มารียาบอกพลางโบกมือไล่คนที่ยืนเกะกะให้หลบไปอย่างขำๆ
“พระเจ้า!” คนที่ยืนยิ้มเก้อเขินได้ไม่ถึงสามวินาที ก็หน้าตึงขึ้นมาทันทีทันใด
“เห็ดออกเยอะมากๆ เลยนะคะ” มารียาหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายแดงก่ำขึ้นมานิดๆ จึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
“ใช่ครับ ออกแบบนี้ทุกปีเลย” อีเดนมองค้อนคนที่ทำให้ตนทำตัว ไม่ถูก
“ว้าว! ชักอยากมีบ้านอยู่แถวนี้สักหลังแล้วสิ” มารียาบอกอย่างรู้สึกอิจฉา
“แถบนี้ไม่มีที่ดินทำเลสวยๆ แบบนี้อีกแล้วละครับ ผมกว้านซื้อไปหมดแล้ว ทางเดียวที่คุณจะมีได้คือต้องแต่งงานกับผม แล้วผมจะยกไร่นี้ ให้คุณ” อีเดนส่งสายตาแพรวพราวไปให้คนที่กำลังมองมา
“แหม ยังวกกลับไปเข้าเรื่องเดิมได้อีกนะคะ” มารียาอมยิ้มบางๆ แล้วหันไปกดเก็บภาพบริเวณรอบๆ ต่ออีกสองสามรูป จากนั้นก็ลงมือเก็บเห็ดโคนที่ขึ้นเรียงรายอย่างตื่นเต้น
“แค่เพิ่มแรงจูงใจให้คุณอยากอยู่กับผมต่างหาก อ้อ! คุณเก็บเห็ดตรงนี้นะ เดี๋ยวผมจะไปเอาหน่อไม้ตรงนั้นครับ” อีเดนส่งตะกร้ากับมีดอันเล็กให้ ก่อนจะชี้ไปยังก่อไผ่ที่อยู่ใกล้ๆ
“ค่ะ” มารียาพยักหน้ารับ ก่อนจะมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ไม่คิดว่าเสี่ยใหญ่คนดัง นักธุรกิจหมื่นล้านอันดับต้นๆ ของไทยจะมีมุมที่คาดไม่ถึงแบบนี้มาก่อน
สองชั่วโมงต่อมา...
“สุกหรือยังคะ” คนที่เริ่มหิวถามขึ้นอย่างอดไม่ไหว เมื่อกลิ่นหอมๆ ของอาหารนั้นลอยมาเตะต่อมน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้กระเพาะของเธอแอบส่งเสียงครางประท้วงเบาๆ
“สุกแล้วครับ คุณตักไปวางที่โต๊ะได้เลย เดี๋ยวผมขอเจียวไข่ต่อ อีกแป๊บ” อีเดนยิ้มกว้างก่อนจะหันไปหยิบไข่ไก่มาตอกใส่ถ้วย แล้วหยิบเครื่องปรุงมาใส่อย่างละนิดละหน่อย จากนั้นก็ตีไข่ให้เป็นเนื้อเดียวกัน
“ได้ค่ะ” มารียาตักต้มหน่อไม้ใส่ซี่โครงหมูกับแกงเห็ดโคนใส่ถ้วยใบใหญ่ แล้วล้วงมือถือขึ้นมากดบันทึกภาพ จากนั้นก็เดินไปตักข้าวสวยใส่จานให้ตัวเองกับชายหนุ่ม
อีเดนทุบกระเทียมใส่ลงในกระทะที่มีน้ำมันร้อนๆ พอเห็นว่ากระเทียมเหลืองได้ที่ก็เทไข่ที่ตีเมื่อครู่ลงไป
“ว้าว หอมจังเลยค่ะ” มารียาหันไปมองตามกลิ่น
พ่อครัวคนหล่ออมยิ้มบางๆ ก่อนจะตักไข่เจียวที่สุกแล้ววางใส่จาน แล้วถือเดินไปยังโต๊ะที่มีเจ้าสาวนั่งตาละห้อยรออยู่
“น่าทานจังเลยค่ะ” คนที่หิวจนหน้ามืดตาลายเอ่ยชม ‘ผู้ชายอะไร ขนาดไข่เจียวยังทำได้น่าทานเลย’
“เดี๋ยวทานข้าวเสร็จ ผมว่าจะพาคุณไปเก็บสตรอว์เบอร์รี่ครับ” อีเดนบอกแผนที่วางเอาไว้
“สตรอว์เบอร์รี่?” มารียาตาโต
“ครับ คุณชอบทานไหม” อีเดนถามพร้อมกับตักไข่เจียววางลงในจานให้อย่างเอาใจ
“ชอบมากค่ะ ว่าแต่มันไกลจากที่นี่ไหมคะ”
“อยู่ไร่ข้างๆ เรานี่เองครับ”
“ไร่สิรันยากรณ์เหรอคะ”
“อืม... ไร่สิรันยากรณ์ก็มีนะ แต่ว่าที่นั่นจะมีแขกเข้าออกเยอะ เกรงว่าคุณอาจจะเจอกับคนรู้จักเข้า แต่ถ้าเป็นที่ไร่ของพ่อเลี้ยงธนากรละก็ ช่วงนี้เขาปิดปรับปรุงครับ เราเข้าเที่ยวได้”
“ไปที่ไร่ของพ่อเลี้ยงธนากรก็ได้ค่ะ”
“ครั้งหน้าผมสัญญาว่าจะพาคุณไปเที่ยวไร่สิรันยากรณ์ในฐานะ คนรักที่ไม่ต้องกลัวใครมาเห็น” อีเดนรู้สึกแย่นิดๆ ที่ขนาดจะพาสาวเจ้าไปเที่ยวก็ยังต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ สายตาคนอื่น
มารียาพูดไม่ออกเพราะไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นเธอกับเขาจะเดินต่อไปในทางไหน จึงแสร้งหันไปตักแกงเห็ดที่วางอยู่ใกล้ๆ ขึ้นมาชิม ปรากฏว่ารสชาติของน้ำแกงนั้นกลมกล่อม จนทำให้เธอถึงกับเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ
“อืม...แกงเห็ดอร่อยมากๆ เลย”
อีเดนยิ้ม ถึงแม้จะรู้ว่าลึกๆ แล้วคนตรงหน้าพยายามจะเปลี่ยนเรื่องคุยก็ตาม “ขอบคุณครับ ลองชิมต้มหน่อไม้ดูด้วยสิ”
“อืม...รสชาติของอาหารทำให้รู้สึกมีความสุขเหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์เลยนะคะ”
“จริงๆ แล้วมีอย่างอื่น ที่ทำให้คุณขึ้นสวรรค์ได้อีกนะรียา”
“บ้า” มารียามองค้อน ก่อนจะลงมือทานต่ออย่างไม่สนใจ
“ฮ่าๆๆ” คนหื่นหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นใบหน้างามเริ่มแดง
“เฮ้! เสี่ยไปไงมาไงครับเนี่ย” เสกสรรจอดรถบิ๊กไบค์เสร็จก็เอ่ยถามเพื่อนซี้อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ‘นึกว่ากลับกรุงเทพฯ. ไปตั้งแต่วันศุกร์แล้วซะอีก ที่ไหนได้แอบพาสาวเที่ยวก็ไม่บอก’
“อ้าว! ต้อม น้องแพร” อีเดนตกใจนิดๆ ไม่คิดว่าเพื่อนจะพาคนรักมาขับรถเล่น
“สวัสดีค่ะคุณอีเดน คุณ...” แพรลานนายกมือไหว้อีกฝ่ายก่อนจะมองสาวสวยที่ยืนข้างๆ อย่างรู้สึกชื่นชมในความงามที่ไร้การแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางใดๆ
“นี่รียา คนพิเศษของผมครับ” อีเดนแนะนำพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างให้กับเพื่อนสนิทและคนรักของอีกฝ่าย
“สวัสดีค่ะ คุณแพร คุณแดเนียล” มารียายกมือไหว้ทั้งสองอย่างรู้สึกดีใจที่ได้เจอแดเนียล เสกสรร ร็อฟเวลล์ กับภรรยาสาว แพรลานนา หญิงสาวที่มีคนขนานนามว่าเป็นดอกไม้งามกลางขุนเขา ซึ่งก็ไม่ได้ผิดไปจากที่ได้ยินมาเลยสักนิด
“สวัสดีค่ะคุณรียา” แพรลานนารับไหว้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างมีมิตรไมตรี
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เสกสรรส่งยิ้มให้ก่อนจะหันมาถามเพื่อนซี้ที่หน้าตาดูมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด
“คุณเพียงสบายดีไหม” อีเดนแสร้งเปลี่ยนเรื่องคุย กลัวว่าจะโดนเพื่อนซี้จะเผากันสดๆ ต่อหน้าสาว
“สบายดี ว่าแต่จะเข้าไปหาท่านหรือเปล่าล่ะ” เสกสรรเลิกคิ้วถามอย่างกวนๆ
“ขอเป็นครั้งหน้าแล้วกัน” อีเดนรีบออกตัว เพราะกลัวว่าถ้ามีคนอื่นเห็นตนกับสาวเจ้าในตอนนี้จะกลายเป็นข่าวไปได้
“โอเค! ไม่มีปัญหา ว่าแต่จะกลับเมื่อไหร่งั้นเหรอ” เสกสรรถามต่อ ขณะมองท่าทางของเพื่อนซี้ที่ดูจะแปลกๆ ไปอย่างเห็นได้ชัด
“กลับพรุ่งนี้” อีเดนตอบก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง เมื่อเห็นสองสาวพากันหันไปมองสวนสตรอว์เบอร์รี่อย่างสนอกสนใจ
“งั้นขอคุยธุระด้วยหน่อยสิ เดี๋ยวให้น้องแพรพาคุณรียาไปเดินดูสวนสตรอว์เบอร์รี่ตรงนู้นก่อน” เสกสรรเอ่ยเข้าเรื่องอย่างไม่รอช้า
“รียา คุณ...” อีเดนไม่ตอบแต่หันไปถามคนที่มาด้วยราวกับจะขออนุญาต
“ตามสบายเลยค่ะ” มารียายิ้มให้อย่างเข้าใจ
“งั้นเดี๋ยวแพรพาคุณเที่ยวเองค่ะ” แพรลานนาอาสา
“ขอบคุณมากๆ ค่ะ” มารียาบอกก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทิ้งให้สองหนุ่มคุยกันต่อตามลำพัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน