อีเดน นิยาย บท 58

“มิกิทาบทามมารียาเป็นนางแบบให้ห้องเสื้อค่ะ” นานาบอกพลางส่งยิ้มให้กับคนที่กำลังหน้าแดงนิดๆ

“จริงเหรอครับ” อันโตนิโอถามย้ำอย่างดีใจ

“ค่ะ” มารียาเอ่ยรับอย่างอายๆ

“โห...แบบนี้ต้องเปิดแชมเปญฉลองแล้วสิ” คนสะสมเครื่องดื่มเอาไว้เยอะบอกยิ้มๆ

“เอ่อ...แต่ว่ารียายังไม่รู้ว่าจะผ่านงานหรือเปล่าค่ะ” มารียารีบบอก

“ถ้าลองคุณมิกิถามเองแบบนี้ ผมว่าผ่านครับ เพราะชุดฟินาเล่น่ะถูกออกแบบมาเพื่อเลือกคนใส่” อันโตนิโอบอกยิ้มๆ

“นี่คุณรู้ได้ยังไงว่ารียาจะได้ใส่ชุดฟีนาเล่” นานาขมวดคิ้วถาม

“อ้าว! ก็ชุดอื่นมีคนใส่หมดแล้ว ขาดแต่ชุดฟีนาเล่เนี่ยแหละที่ยังหานางแบบใส่ไม่ได้” อันโตนิโอบอกคนขี้สงสัยที่เริ่มจะทำหน้าเหมือนยักษ์ขึ้นมานิดๆ

“เดี๋ยวนะ! ตกลงคุณทำงานให้บอสหรือว่าทำงานที่ Angle R กันแน่ ถึงได้รู้เรื่องภายในดีขนาดนี้” นานาถามพลางจ้องมองสามีอย่างไม่วางตา

“นานา ใจเย็นๆ แล้ววางมีดนั่นลงก่อน” อันโตนิโอรีบบอกก่อนจะมีการเสียเลือดเสียเนื้อเกิดขึ้นภายในห้องครัว

“คุณกลัวอะไร?” นานาหน้าตึงขึ้นมาทันทีทันใดที่เห็นอาการ ลนลานของสามี ‘แบบนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ’

“ไม่กลัวก็บ้าแล้ว! คุณทำท่าอย่างกับจะเขวี้ยงมันใส่ผมงั้นแน่ะ!” อันโตนิโอบอกอย่างใจคอไม่ดี

“โอเค! งั้นบอกมาว่ารู้ได้ยังไง” นานาวางมีดในมือลง

“ก็บอสมาปรับทุกข์ให้ฟัง ว่าคุณมิกิน่ะเอาแต่เครียดเรื่องงานเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ของห้องเสื้อ จนไม่มีเวลาจะ... ผมก็เลยรู้ว่าน้องรียาจะได้ใส่ชุดไหนยังไงล่ะครับ” คนรักลูกรักเมียถอนหายใจเมื่อเห็นภรรยาสุดที่รัก มีท่าทีอ่อนลง

“หึ! นึกว่าไปกิ๊กกับนางแบบคนไหนมาซะอีก ถึงได้รู้ข่าววงในดี๊ดี” นานาอดประชดคนเคยมีประวัติไม่ได้

“โธ่! เมียดุอย่างกับหมา เอ๊ย! สวยออกขนาดนี้จะเอากิ๊กเอากั๊กมาจากไหนกันอีก จริงไหมครับน้องรียา” อันโตนิโอหันไปถามคนที่ทำหน้าเจื่อนๆ อยู่ราวกับจะขอเสียงสนับสนุน

“จะ...จริงค่ะ” มารียารีบเสริมคนที่เมื่อครู่ ทำท่าเหมือนจะวิ่งหนีออกจากครัวไปอย่างรู้สึกขำๆ

“ให้มันแน่! ครั้งก่อนที่ร้านกาแฟฉันยังไม่ลืมนะ” นานาเท้าความ

“พระเจ้า! ผมนั่งจิบกาแฟอยู่ดีๆ อยู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามานั่งด้วย แล้วคุณก็เข้ามาจากไหนไม่รู้ เอากาแฟร้อนๆ มาราดผม แล้วหาว่าผมกิ๊กกับผู้หญิงคนนั้น ทุกวันนี้ผมยังงงไม่หายเลยว่าตัวเองทำผิดอะไร” อันโตนิโอ บอกด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย เพราะเรื่องนี้เรื่องเดียวทำให้ภรรยาไม่ไว้ใจตน ทั้งๆ ที่เขาอุตส่าห์พาเธอไปสาบานมาตั้งเจ็ดวัดเจ็ดโบสถ์ แต่เธอก็ยังไม่ยอมเชื่ออยู่ดี

“หึ คนไม่รู้จักกัน เขาไม่กล้ามานั่งร่วมโต๊ะเดียวกันหรอกพีเค” นานาสวนกลับด้วยอารมณ์เดือดๆ เวลาที่พูดถึงเรื่องนี้ทีไรของขึ้นทุกที!

“โธ่! นานา ก่อนที่คุณจะคิดปะติดปะต่อเรื่องนั้นเข้ากับเรื่องนี้มีเรื่องหนึ่งที่คุณควรจะพึงระลึกเอาไว้อยู่เสมอ... ผมเป็นผู้ชายหน้าตาดี ที่เมียให้เงินติดกระเป๋าวันละ 50 ดอลล่าร์ ดื่มกาแฟไปแก้วหนึ่ง ขนมเค้กชิ้นหนึ่ง คุณว่าผมจะเหลือเงินพอไปซื้อถุงยางอนามัยกับจ่ายค่าโรงแรมหรือเปล่าครับ?” อันโตนิโอบอกอย่างเพลียอกเพลียใจ เมื่อนึกไปถึงยอดเงินในกระเป๋า

“คิกๆๆ” นานาที่กำลังโกรธๆ อยู่ ถึงกับอดหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อเห็นสามีดราม่าเรื่องเงิน

“แด๊ดดี้!” หนูน้อยจีเซลวิ่งเข้าไปกอดขาของบิดา เพื่ออ้อนให้อุ้ม

“ไงสาวน้อย มือพ่อเลอะอยู่อุ้มไม่ได้ครับ” อันโตนิโอก้มลงเอ่ยเสียงอ่อนโยนกับบุตรสาว พร้อมกับชูมือให้ดู

“อุ๊ย! นี่ลูกสาวของพี่นานาเหรอคะ น่ารักจัง” มารียามองเด็กสาวที่มีผมสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาฟ้าอมเทาที่กำลังจ้องมองมายังเธอ อย่างรู้สึกตกหลุมรัก

“ใช่จ้ะ! จีเซลคะ มาทำความรู้จักคุณน้ารียาสิลูก” นานาบอกลูกสาวตัวน้อยที่กำลังบิดไปบิดมาอย่างขำๆ

ทันทีที่ได้ยินผู้เป็นมารดาบอก หนูน้อยจีเซลก็วิ่งเข้ามาหาแขกสาวคนสวยพร้อมกับยกมือไหว้แบบไทยๆ “สวัสดีค่ะน้ารียา”

“สวัสดีค่ะจีเซล” มารียาก้มลงหอมแก้มของสาวน้อยอย่างอดใจไม่ไหว กับความน่ารักน่าชังของอีกฝ่าย

“น้ารียามากับใครคะ” จีเซลถามเสียงสดใส

“มาคนเดียวค่ะ” มารียายิ้มให้คนช่างพูดอย่างเอ็นดู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน