Tokyo... Haneda Airport (HND) สนามบินฮะเนะดะ
“จอห์น!” ปริณเอ่ยเรียกคนที่เดินนำหน้าลงจากเครื่องบินส่วนตัว ไปด้วยสีหน้ามุ่งมั่น ราวกับเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ยังไงยังงั้น
“คะ...ครับ พะ...พี่ป้อง” คนที่สัมผัสความหนาวของอุณหภูมิติดลบหันกลับมาตอบปากคอสั่น
“นายลองจับดูสิ ว่าน้องชายของนายหดไปเหลือกี่มิล” คนที่เตรียมตัวมาพร้อมเอ่ยถามด้วยสีหน้าขบขัน
“โธ่! ถามมาได้นะครับ นึกว่าสละโค้ตให้ผมใส่” คนที่ไม่รู้เหนือรู้ใต้ วิ่งแจ้นตามคนอื่นมากลอกตาอย่างเซ็งๆ ‘น่าจะบอกกันสักคำ จะได้กลับขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโด’
“ลองใส่ตัวนี้ดูไหมครับ” อีเดนส่งสูทอีกตัวที่มีอยู่บนเครื่องให้กับ อีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะเข้าถึงความหนาวได้มากกว่าคนอื่นๆ
“ขะ...ขอบคุณมากๆ เลยครับ สะ...เสี่ย นะ...นะ...นึกว่าจะมาหนาวตายที่ญี่ปุ่นแล้วซะอีก” จอห์นบอกก่อนจะรีบรับสูทมาสวมทับเสื้อยืดบางๆ
“โชคดีจริงๆ นะคะ” อลิชาขำๆ กับอาการของเพื่อน
“ถือว่ามันทำบุญมาเยอะ” ปริณยิ้มเยาะ
“วะ...แวะส่งผมซื้อรองเท้า กะ...กะ...กับกางเกงก่อนได้ไหมครับ” จอห์นขอความเห็นใจจากเสี่ยใหญ่
“ได้ครับ ถ้ารถแล่นผ่านร้านผมจะสั่งให้คนขับรถจอดให้” อีเดนรับปากก่อนเดินนำเข้าไปนั่งในรถลีมูซีนที่จอดรออยู่
“ไม่ต้องจอดครับ เสียเวลา!” ปริณรีบบอกเพราะกลัวว่าจะไม่ทันไปดูงานเดินแบบ
“ธะ...โธ่! พี่ป้องอย่าใจดำกับผมสิครับ” จอห์นโอดครวญเพราะทุกคนแต่งตัวดูดีมีราคา เทียบกับตนแล้วราวกับมาจากคนละโลกไม่มีผิด
“ใส่แบบนี้แหละ เผื่อการเดินแบบครั้งหน้าอาจจะมีคนเอานายเป็นต้นแบบไอเดียก็ได้” ปริณแซวด้วยสีหน้าขบขัน
“ระ...รองเท้าแตะ กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดบางๆ สะ...สวมทับด้วยสูทนี่มันดูดีงั้นเหรอครับพี่ป้อง” จอห์นย้อนด้วยสายตาขุ่นเคือง
“อืม ถ้ามองดีๆ มันก็แฟชั่นเทรนด์ใหม่เลยนะ” ปริณเย้าต่ออย่างนึกสนุก
“งะ...งั้นแลกเสื้อผ้ากันใส่ไหมล่ะครับ ผะ... ผมไม่อยากเป็นผู้นำเทรนด์” จอห์นบอกด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ ‘สาธุ ขออย่าให้มีนักข่าวคนไหนถ่ายรูปเราไปประจานด้วยเถอะ’ คนที่กลัวโดนมารดาตัดออกจากกองมรดกแอบบนบานศาลกล่าวในใจ
“บ้า! พี่ไม่ชอบแฟชั่นแกก็รู้” ปริณบอกพลางกลั้นหัวเราะจนหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีเศร้าสลด
“คิกๆๆ” อลิชาหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นเพื่อนเริ่มมีอาการนอยด์
“ดื่มนี่หน่อยอาจจะช่วยได้ครับ” อีเดนส่งบรั่นดีที่ธนินเทใส่แก้ว ส่งให้กับคนที่ยังไม่หายสั่น
“ขะ...ขอบคุณครับเสี่ย” จอห์นยิ้มก่อนจะรับแก้วบรั่นดีมากระดกพรวดเดียวลงไปในคอ
“นี่ครับ” อีเดนส่งแก้วไวน์ขาวให้กับอลิชาจากนั้นก็ส่งแก้วบรั่นดีให้กับว่าที่พี่เมีย
“ขอบคุณครับ / ขอบคุณค่ะ” ปริณกับอลิชารับแก้วมาถือ
“ว่าแต่งานเริ่มกี่โมงนะครับ” อีเดนถามยิ้มๆ
“อีกหนึ่งชั่วโมงค่ะ ตอนนี้คุณพ่อกับคุณแม่ของพี่ป้องน่าจะรออยู่ที่งานแล้ว” อลิชาตอบก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบเบาๆ
“ผมยังไม่ได้ยอมรับคุณนะเสี่ย” ปริณเอ่ยเตือนก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นกระดก
“พี่ป้อง! หนูขอร้องเถอะค่ะ เรื่องนี้ให้รียากับคุณอีเดนตัดสินใจเองดีกว่าค่ะ ว่าจะเดินต่อความสัมพันธ์ไปทางไหน ต่อให้เราเป็นคนใกล้ตัวจริง แต่เราก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของคนที่เรารัก ไม่ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะเลือกทางไหนก็ตาม” อลิชาบอกคนที่เริ่มจะไม่มีเหตุผล
“งั้นจัดงานแต่งให้มันเดือนหน้าไปเลยดีไหม” ปริณตอบกลับด้วยน้ำเสียงกวนๆ เมื่อเห็นว่าคนรักเข้าข้างอีกฝ่าย
“ดีครับ! ผมจะให้พ่อกับแม่รีบเข้าไปคุยเรื่องสินสอด” อีเดนยิ้มกว้างอย่างเห็นด้วย
“เฮ้! นี่ผมประชดนะ ไม่ได้พูดจริงสักหน่อย” ปริณหันมาบอกคนที่แอบฟังการสนทนาของคนอื่น อย่างไม่มีมารยาท
“ไม่รู้ละ! ผมถือว่าคุณอนุญาตให้ผมแต่งงานกับรียาแล้ว” อีเดนตีมึนเอ่ยสรุปแบบหน้าด้านๆ
“ไม่มีทาง!” ปริณบอกเสียงแข็ง
“แหม! คำพูดลูกผู้ชายนะครับ พูดแล้วคืนคำได้ยังไง จริงไหมครับคุณจอห์น” อีเดนหยอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“จริงครับเสี่ย” จอห์นสมทบตามยิ้มๆ
“ไอ้จอห์น!” ปริณอยากจะยกเท้าถีบคนที่เห็นแก่เสื้อสูทตัวเดียวซะจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน