“ท่านแม่ เจ็บเหลือเกิน ช่วยข้า...”
“ฮ่าฮ่า! ซู่จื่อ เจ้าเจ็บปวดหรือไม่เล่าที่เห็นบุตรของเจ้าสิ้นชีพลงต่อหน้า ก่อนตายเขายังมิอาจปล่อยเศษผ้าที่เจ้ามอบให้ได้ด้วยซ้ำ เขารักเจ้ายิ่งนัก! แต่เจ้าไม่แม้แต่จะกอดเขา”
“อา! เหตุใดเจ้าจึงจงเกลียดจงชังเขานัก? หรือเพราะเจ้าถูกบีบให้คลอดเขาหลังถูกวางยาแล้วส่งตัวให้โม่จิงหาน?”
“เจ้ามิรู้รึว่าคืนนั้นข้าต่างหากคือคนวางยาเจ้า? โม่จิงหานร่วมเตียงกับเจ้าเพราะเขาปรารถนาจะช่วยเจ้า ทว่าเจ้ากลับชิงชังเขากับเสี่ยวเป้ยมานานถึงเจ็ดปีเพราะเรื่องนี้!”
“ตอนนี้เขาตายแล้ว เขาตายต่อหน้าเจ้า เจ้าเศร้าโศกหรือไม่? เจ้าเจ็บปวดหรือไม่เล่า?”
พี่หญิง ข้ายังมิได้ยินดีกับเจ้าเลย เรื่องที่ทุกคนในตระกูลจิ่งล้วนตายตกเพราะเจ้า เลือดหลั่งนองเต็มพื้น แม้แต่สุนัขที่เดินผ่านยังไม่กล้าเข้าใกล้ที่นั่น ยินดีกับการล้างแค้นของเจ้าด้วย เจ้าได้ตาหลับได้แล้ว!"
ไม่! ไม่!
มีเลือดไหลนองเต็มไปหมด ร่างเล็กไม่สมประกอบของเสี่ยวเป้ยร่วงลงบนพื้น เขากอดผ้าห่มเปื้อนเลือดไว้ในอ้อมแขนของเขาแน่น เขาไม่อาจลืมตาอันสุกสว่างของเขาได้อีก
"ไม่..."
ซู่จื่อรู้สึกราวกับหัวใจของนางกำลังแยกออก ความเจ็บปวดไม่สิ้นสุดผสานกับความโศกเศร้าเข้าครอบงำนาง
เสี่ยวเป้ยคือเด็กที่นางให้กำเนิดหลังตั้งท้องมาเนิ่นนาน
ทว่านางกลับมิเคยโอบกอดเขาเนื่องเพราะความเข้าใจผิด นางมิได้กอดเขาแม้แต่ก่อนเขาจะตาย
ไม่! นางตายจะมิได้!
นางยังมิได้สังหารศัตรูของนาง ตราบที่นางยังมิได้เอาชีวิตนางแพศยาซู่อวี่! นางมิยอมตายเด็ดขาด!
ซู่จื่อใช้กำลังเฮือกสุดท้ายในกายนางขณะพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะลืมตาขึ้นให้จงได้
สิ่งที่นางเห็นคือทะเลทรายรกร้าง
ตรงหน้านาง ร่างโปร่งแสงสีทองบางเบากำลังมองมาที่นางอย่างอ่อนโยน “นายท่าน ในที่สุดท่านก็ตื่นแล้ว ข้าคือเหยาเป่า ในที่สุดข้าก็ได้พบท่านอีกครั้ง”
เหยาเป่า?
ซู่จื่อจ้องไปที่แสงด้วยความงุนงง เกิดอาการปวดหนึบตรงหน้าอกของนาง
ยามกลางดึกที่นางหลับฝัน นางมักจะได้ยินคนเรียกชื่อนางในหูเสมอ
แต่ทุกครั้งที่นางตื่นจากความฝัน นางมักรู้สึกหลงทางเพราะนางจำเสียงที่เรียกนางไม่ได้
“นายท่าน เหลือเวลาอีกไม่มาก ท่านต้องจดจำสิ่งที่ข้าจะพูด”
“เดิมทีท่านเป็นจักรพรรดิหญิงนาม ซู่จื่อ แต่เนื่องจากพลังวิญญาณของท่านแข็งแกร่งเกินไป ร่างกายของท่านจึงมิอาจทานไหว ท่านสิ้นชีพไปด้วยความตายอันทรมาน การจะกลับชาติมาเกิดได้สำเร็จ ท่านต้องยอมสละวิญญาณเพื่อกลับชาติมาเกิด แต่ด้วยเหตุนี้ จิตของท่านจึงไม่สมบูรณ์ ท่านจึงถูกคนทรยศหลอกลวงและสูญเสียความคิดของท่านเองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”
ท้ายที่สุด นางยังทำให้คนในจวนจิ่งทั้งหมดถูกกวาดล้าง เสี่ยวเป้ย ซึ่งอายุเพียงเจ็ดขวบ ถูกฟันเป็นชิ้นๆ และล้มลงต่อหน้านาง...
เมื่อนึกถึงเสี่ยวเป้ยที่เปื้อนเลือดไปทั้งตัว ซู่จื่อก็รู้สึกเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรงและกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
"นายหญิง!"
"นายหญิง!"
เสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกดังขึ้นที่หูนาง ทุกอย่างก็ดำมืดลงต่อหน้าต่อตาของซู่จื่อและนางก็ตกอยู่ในความมืดอีกครั้ง
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง นางก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบมิใคร่ชัดข้างหู
“บ๊ะ! สมน้ำหน้านางแล้ว! นางใจร้ายถึงเพียงนั้นกับเลือดเนื้อเชื้อไขของตน เวลานี้นางกลับป่วยเจียนตาย กรรมตามสนองแล้ว!”
ใช่ เมื่อนางวิวาห์กับองค์ชาย นางมิเคยดีต่อเขา เมื่อองค์ชายหายตัวไปในสนามรบ นางก็ต้องการหย่ากับในเขาทันที ทว่าเนื่องจากนางกำลังตั้งครรภ์เสี่ยวเป้ย หลีลี่จึงไม่เห็นด้วย ดังนั้นนางจึงระบายโทสะของนางกับเสี่ยวเป้ย!
“หลังคลอดเสี่ยวเป้ย นางก็ส่งเขาให้หลีลี่โดยไม่แม้แต่จะมองเขา หลังจากนั้นนางก็ไม่สนใจเขาอีก มีแม่ที่โหดร้ายเช่นนี้ในโลกได้อย่างไรกัน?”
ซู่จื่อนอนอยู่บนเตียง ขนตาของนางสั่นเล็กน้อย
เสี่ยวเป้ย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: การแก้แค้นของจักรพรรดินี
สนุกมากค่ะ อยากอ่านค่ะ ขอบคุณมากนะคะไรท์...
ไม่อัพต่อแล้วหรอคะ สนุกมากเลยอัพต่อเถอะนะคะ...