ท่าทีของซู่จื่อไม่แปรเปลี่ยน นางเดินออกจากห้องด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วมองลงมาที่จือชวีราวกับมองมดตัวหนึ่ง
“นายหญิง! นายหญิง!” พร้อมด้วยเลือดเต็มใบหน้า จือชวีคุกเข่าลงต่อหน้าซู่จื่อและกอดต้นขาของนางไว้ “ข้าหารู้ไม่ว่าทำสิ่งใดให้ท่านมีโทสะ โปรดลงโทษข้าด้วย นายหญิง!”
ซู่จื่อมองลงไปอย่างเยียบเย็น ด้วยแววตาซึ่งสะท้อนความทระนงตน
นางคว้าคอเสื้อของสาวใช้แล้วดึงนางขึ้น
จือชวีตัวแข็งและหนาวเยือกไปถึงหัวใจนาง
เกิดเหตุอันใด?
เหตุใดองค์หญิงจึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนหลังจากฟื้นขึ้นมา?
ดวงตาคู่นั้นแล้วยังจะกลิ่นอายเจ้าชีวิตราวกับกษัตริย์นั่นอีก จะเป็นของซู่จื่อผู้ได้แต่สังเวชตนเองได้อย่างไร?!
ผู้คนที่อยู่ที่นั่นต่างตกตะลึงกับแววตาของซู่จื่อ ชุนหัวและชิวเยวี่ยยิ่งตกตะลึงกว่าผู้ใด พวกนางไม่รู้สึกตัวเป็นเวลานาน
“ถึงตาเจ้าสอนบทเรียนให้กับคนของข้าตั้งแต่เมื่อใด” น้ำเสียงของซู่จื่อเย็นชา ทั้งแววตาของนางก็เยียบเย็น
จือชวีตัวสั่นแล้วเอ่ยว่า "นายหญิง ... "
ซู่จื่อเหลือบมองเล็กน้อยแล้วผลักนางลงกับพื้น “จือชวียักยอกข้าวของในจวน ทั้งกลั่นแกล้งผู้อื่นด้วยอำนาจของนาง โทษของนางมิอาจอภัยได้ พวกเจ้า ถอดเสื้อผ้าและถุงเท้าของนาง เอาเครื่องประดับผมของนางออก ลากนางออกไปที่ถนนแล้วส่งตัวนางให้หน่วยลาดตระเวน!”
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จืออชวี ได้ทำสิ่งชั่วร้ายในจวนและรวบรวมทรัพย์สินของนาง โดยอาศัยชื่อของนาง
ในชีวิตที่แล้วของนาง นางเมินเฉยต่อการกระทำเหล่านี้ ทว่าเวลานี้นางรู้ความจริงแล้ว นางจะไม่มีวันยอมทนกับทาสที่ไม่เชื่อฟังผู้อยู่ข้างกายนาง!
พวกยามผวากับคำสั่งนี้ ชั่วขณะหนึ่งไม่มีใครกล้ากระทำการอุกอาจ
“จือชวีเป็นสาวใช้ที่องค์หญิงคนโปรดปรานมากที่สุด ถ้าหากนางกลับมาเป็นที่โปรดปรานอีกในวันข้างหน้า พวกเขาจะมิต้องทนทุกข์ทรมานหรือ?”
จือชวีกลัวจนขาดสติ จนนางแทบมิอาจพูดให้จบได้ “ฝ่า ฝ่าบาท ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้าหาได้ยักยอกหรือรังแกผู้ใด!”
ซู่จื่อเยาะเย้ย เอนตัวไปหานางแล้วเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งว่า “เจ้าเป็นแค่สุนัขที่อยู่ข้างซู่อวี่ เจ้ากล้าดีอย่างไรมาเหยียบหัวข้าแล้วปีนขึ้นไป จงบอกเจ้านายของเจ้าว่าฝันไปเถิด!”
จือชวีแข็งค้าง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความหวาดผวา
นางรู้หรือ? รู้ว่านางเป็นคนของคุณหนูซูอวี่?
ในอดีต ในเวลานี้ แม้ว่านางจะไม่ต้องการเห็นหน้าเสี่ยวเป้ย ทว่านางก็ไปร่วมงานวันเกิดของเขาเพื่อเห็นแก่หลีลี่ แต่ปีนี้เธอถูกล่อลวงโดยซู่อวี่ นางไปที่จวนสกุลซูเพื่อดูแลซูอีอี น้องสาวคนสุดท้องของนาง และไม่ได้ไปงานวันเกิดของเสี่ยวเป้ย
คืนนั้นเสี่ยวเป้ยรอนางอยู่ที่ประตูตลอดทั้งคืน จนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้นเขาก็หมดสติและล้มลงกับพื้นเพราะจับไข้
หลีลี่โกรธจัดและสั่งให้นางคุกเข่าในห้องโถงบรรพบุรุษเป็นเวลาสามวันสามคืน นางเป็นลมในห้องโถงบรรพบุรุษเพราะนางร่างกายอ่อนแอและจับไข้
เมื่อนางฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง นางได้ข่าวว่าเสี่ยวเป้ยยังไม่หายจากอาการป่วยหนักและชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย
หลังจากถามเหตุผลแล้ว นางก็ทราบว่าจือชวีใช้ชื่อนางซื้อยาทั้งหมดจากร้านขายยาทุกแห่งในเมืองหลวงเพื่อรักษาอาการหวัดและส่งยาไปที่จวนสกุลซู่ เพื่อรักษาซู่อีอี อย่างไรก็ตาม หลีลี่เข้าใจผิดกับซู่จื่อเพราะเหตุนี้ หลีลี่คิดว่านางตั้งใจจะฆ่าเสี่ยวเป้ย ด้วยความโกรธ นางลงโทษซู่จื่อคุกเข่าเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืนและลั่นวาจาว่าในวันข้างหน้าเสี่ยวเป้ยจะไม่นับว่าเป็นลูกชายของนางอีก
เมื่อนึกถึงเรื่องโง่เขลาที่นางทำในชีวิตที่แล้ว ซู่จื่อก็รู้สึกปวดใจ
ถ้านางไม่สูญเสียจิตวิญญาณ ถูกทำให้ตามืดบอดโดยคนที่เกลียดนางและถูกล่อลวงโดยคนทรยศ นางจะฆ่าล้างคนใจวนสกุลจิ่งทั้งหมดได้อย่างไร ทั้งยังได้เห็นความตายอันน่าเศร้าของเสี่ยวเป้ยด้วยตาของนางเอง...
ซู่จื่อสูดหายใจเข้าลึก กำหมัดแล้วระงับความเกลียดชังที่เดือดดาลในอกของนาง
ในชีวิตนี้ นางจะไม่ยอมให้ตัวเองทำผิดพลาดซ้ำอีก!
เสี่ยวเป้ย ครอบครัวของนาง นางต้องปกป้องพวกเขาอย่างดี นางจะไม่ปล่อยให้พวกเขาต้องทนทุกข์อีกต่อไป!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: การแก้แค้นของจักรพรรดินี
สนุกมากค่ะ อยากอ่านค่ะ ขอบคุณมากนะคะไรท์...
ไม่อัพต่อแล้วหรอคะ สนุกมากเลยอัพต่อเถอะนะคะ...