หลงฉางเทียนยังไม่ตอบคำถาม ทว่านางหานอนุภรรยาของหลงฉางอี้ชิงตอบไปก่อน “เรียกฮูหยินผู้เฒ่า มีราชโองการลงมาแล้วเจ้าค่ะ เพียงแต่ คุณหนูใหญ่ของพวกเราเป็นตายอย่างไรก็ไม่ยินยอมเจ้าค่ะ!”
ฮูหยินผู้เฒ่าเหลือบตาขึ้นเล็กน้อย “อ้อ? อย่างนั้นหรือ?” นางมองไปทางหลงจ่านเหยียน สายตาอันคมกริบเลื่อนไปบนใบหน้าของหลงฉางเทียนช้า ๆ “เช่นนั้นก็เป็นที่เจ้าจัดการไม่เรียบร้อยแล้ว แม้แต่ลูกสาวของเจ้าเองยังเกลี้ยกล่อมให้ทำตามไม่ได้ ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าเจ้าควบคุมสามเหล่าทัพในสนามรบได้อย่างไร”
ต้องเผชิญคำตำหนิของมารดาเช่นนี้แล้ว หลงฉางเทียนเอ่ยด้วยความหวาดกลัว “ความจริง มิใช่ว่าไม่ยินยอมขอรับ เมื่อครู่นางตอบรับยินยอมแล้วขอรับ!”
ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยอย่างราบเรียบ “ในเมื่อยินยอมแล้ว เช่นนั้นก็รีบย้ายที่พักให้นางเสีย อย่าให้คนในวังรู้สึกว่าจวนตระกูลหลงของเราใจดำอำมหิตไร้ความเมตตา!”
“ขอรับ!” หลงฉางเทียนเงยหน้ามองหลงจ่านเหยียนปราดหนึ่ง “ยังไม่รีบไสหัวกลับไปเก็บข้าวของอีกหรือ? ฮูหยินผู้เฒ่ามีบุญคุณ ให้เจ้าได้ย้ายไปที่พำนักใหม่ ถือว่าให้เกียรติเจ้าแล้ว!”
หลงจ่านเหยียนยืนขึ้นด้วยท่าทางหยิ่งยโส พลางเอ่ยอย่างเยือกเย็น “ขอบคุณ แต่อยู่ที่เรือนคนใช้ก็สบายใจดีอยู่แล้ว ข้าไม่ได้ยินยอมเข้าวัง!”
ฮูหยินผู้เฒ่าหัวเราะออกมาเบา ๆ คล้ายกับได้ฟังเรื่องตลกโปกฮาเข้าอย่างไรอย่างนั้น ก่อนจะใช้สายตาแปลกประหลาดประเมินนางปราดหนึ่ง “แม่หนูเหยียนของพวกข้ามีได้ความแล้ว!”
ปลายเสียงของนางสิ้นสุดลง พร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันที สายตาที่แฝงด้วยความเยือกเย็นต้องมองไปยังหลงฉางเทียน “เห็นได้ชัดว่าเจ้ายังทำงานไม่น่าเชื่อถือ นางไม่รู้ความ เจ้าก็ต้องไม่รู้ความด้วยหรือ? ประเดี๋ยวคนจากในวังจะมาถึงแล้ว หากเห็นท่าทีเช่นนี้ของนาง กลับวังไปจะทูลรายงานต่อไทเฮาว่าอย่างไร? เจ้าขอราชโองการให้นางเข้าวัง ถือว่ามีความตั้งใจดีแล้ว ถึงอย่างไรก็นำพาประโยชน์มาสู่จวนแม่ทัพของเรา ทว่าในเมื่อเจ้าทูลขอราชโองการ เจ้าก็ควรจะทำให้นางเข้าวังด้วยจิตใจยินดีอย่างแท้จริง อย่าให้เสียแรงที่ตระกูลหลงเราอุตส่าห์เลี้ยงดูนางมาตั้งสิบหกปี!”
“ขอรับ ขอรับ!” หลงฉางเทียนรับคำอย่างนอบน้อม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง