หลงจ่านเหยียนสบสายตาอันคมกริบของนาง “ฮูหยินผู้เฒ่าไหว้พระสวดมนต์มานานหลายปี ไม่ทราบว่าได้เรียนรู้อะไรมาจากพระพุทธองค์บ้าง? ความใจดำอำมหิตไร้ซึ่งความเมตตา? ความไร้น้ำใจไร้ความชอบธรรม? หรือความโหดเหี้ยมทารุณ? หรือว่า จะเป็นการส่งหลานสาวแท้ ๆ ของตนเองไปตายเพื่อแลกกับเกียรติยศและความมั่งคั่งมาสู่ตระกูล?”
“หือ?” ฮูหยินผู้เฒ่ายังคงยิ้ม “เจ้าคิดจะพูดอะไร? พูดออกมาให้หมดเถิด!”
อ้อ? แบบนี้ก็ไม่โมโหหรือ ดูเหมือนที่ศึกษาคำสอนพระพุทธองค์มาจะมีประโยชน์อยู่หน่อย ๆ
หลงฮูหยินตะโกนห้ามหลงจ่านเหยียนทันที “ไร้มารยาท รีบขอขมาท่านย่าซะ!”
หลงจ่านเหยียนไม่สนใจหลงฮูหยิน เอ่ย “ข้ายอมตกปากรับคำว่าเข้าวังก็ได้ เพียงแต่ ฮูหยินผู้เฒ่าท่านต้องยอมรับเงื่อนไขหนึ่งข้อของข้าเสียก่อน!”
ฮูหยินผู้เฒ่าหัวเราะออกมาเบา ๆ ขนคิ้วที่ยาวและมีสีขาวเลิกขึ้นเล็กน้อย แฝงความโกรธกรุ่นไว้อย่างเลือนราง “เจ้ามีสิทธิ์จะมาตั้งเงื่อนไขต่อรองกับข้าอย่างนั้นหรือ?”
“เช่นนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าก็สวดภาวนาอ้อนต่อเบื้องหน้าองค์พระพุทธไปเสียเถิด อธิษฐานให้ฝ่าบาทสวรรคตทันทีหลังข้าเข้าวังไปแล้วกัน มิเช่นนั้น ต่อให้ข้าได้เป็นฮองเฮาแม้เพียงวันเดียว ก็อย่าได้หวังเลยว่านับจากนี้จวนแม่ทัพจะได้อยู่อย่างสุขสงบ”
หลงฮูหยินขึงตาจ้องนาง รอยยิ้มบนใบหน้าพลันหายไปในพริบตา คิ้วขมวดลงอย่างดุดัน ดวงตาขุ่นมัวคู่หนึ่งสะท้อนประกายอำมหิตสว่างวาบออกมา
หลงจ่านเหยียนกลับไม่รู้สึกกลัวนาง เพียงแต่ยกดวงตาใสกระจ่างคู่นั้นสบตากับนางตรง ๆ คิดจะอวดอำนาจอะไรต่อหน้าผู้เฒ่าที่มีชีวิตอยู่มานานหลายร้อยปีอย่างนางงั้นหรือ?
คิดจะอวดเบ่งด้วยความอาวุโสใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่ก็ควรดูอีกฝ่ายด้วย นางหลงจ่านเหยียนผู้คุมกฎของสามโลกจนถึงบัดนี้ มีอายุสามร้อยกว่าปี ไม่ว่าภูตผีวิญญาณปีศาจร้ายที่บำเพ็ญเพียรมาแล้วหลายพันปีสักกี่ตนเมื่ออยู่ต่อหน้านาง ก็มีแต่ตกใจกลัวตัวสั่นสะท้านทั้งสิ้น ไหนเลยจะกล้าท้าทายอำนาจซึ่งหน้าเช่นนี้? ชัดเจนว่ายายแก่คนนี้ขาดการอบรมสั่งสอน!
ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มออกมา แววตายังคงเยือกเย็นเหมือนเก่า แต่กลับเอ่ยปากว่า “น่าสนใจ น่าสนใจจริง ๆ ดูเหมือนยายแก่อย่างข้าจะสูงวัยแล้วจริง ๆ ถึงได้มีตาหามีแววไม่ มองไม่ออกว่าแม่หนูเหยียนของพวกข้าเก็บซ่อนความสามารถได้ลุ่มลึกเพียงนี้มาตลอด ว่ามาเถิด เจ้ามีเงื่อนไขอะไร!”
ฮูหยินผู้เฒ่าหลงรับคำในลำคอ “เช่นนั้นก็ทำตามนี้เถิด!”
พูดจบ นางก็มองหลงจ่านเหยียนด้วยสายเรียบเฉย ก่อนจะเอ่ยว่า “แม่หนูเหยียน สิ่งที่เจ้าขอเป็นไปดังปรารถนาแล้ว เรื่องต่อจากนี้ จัดการเองตามความเหมาะสมเถิด ยายแก่อย่างข้าไม่สนใจเรื่องในจวนนานแล้ว ถึงวันออกเรือน ก็ไม่ต้องมาโขกศีรษะกล่าวลาด้วย!”
หลงจ่านเหยียนผุดยิ้มออกมาบาง ๆ ย่อมไม่จำเป็นอยู่แล้ว ถึงวันออกเรือน นางคือฮองเฮา ส่วนนางก็แค่ฮูหยินเก้ามิ่งขั้นสอง อยู่ในสายตาของคนในวัง ขุนนางเก้ามิ่งขั้นสองอย่างนางครั้นถึงคราวส่งหลานสาวออกเรือน ก็จำเป็นต้องคุกเข่าลงน้อมส่งเสด็จตามพิธีการของกษัตริย์และราษฎร คนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นนาง มีหรือจะยอมทำเช่นนี้? ทว่า คนอย่างหลงจ่านเหยียนมีหรือจะยอมให้เป็นไปอย่างที่นางต้องการ?
บ่าวรับใช้ประคองนางเดินออกไป ครั้นเดินมาถึงระเบียงทางเดิน หมัวมัวข้างกายก็เอ่ยถามขึ้นว่า “ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านจะให้มารดาของแม่หนูเหยียนขึ้นบนโต๊ะบูชาเทพจริงหรือเจ้าคะ? ตั้งแต่โบราณมาถึงวันนี้ ไม่เคยมีสาวใช้ต้นห้องคนใดได้รับการจุดธูปสักการะในฐานะฮูหยินใหญ่มาก่อน หากเรื่องนี้แพร่ออกไป จะไม่กลายเป็นที่ขบขันของผู้อื่นหรือเจ้าคะ?”
ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยอย่างรังเกียจ “สำหรับคนใกล้ตาย ทุกคำสัญญาล้วนเป็นคำพูดลวงได้ทั้งสิ้น !”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้ คงไม่ได้อ่านนิยายอีกแล้ว ขอบคุณที่ให้อ่านมาเป็นเวลานาน...