หมัวมัวถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ใช่เจ้าค่ะ” ทันใดนั้นก็ชะงักไป ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เพียงแต่ ท่าทางการแสดงออกของแม่หนูเหยียนวันนี้ชวนให้รู้สึกแปลกใจยิ่งนักเจ้าค่ะ เมื่อก่อนเห็นนางขี้ขลาดอ่อนแอนัก ยังคิดว่านางไม่มีอารมณ์โกรธเสียอีกเจ้าค่ะ!”
“ต่อให้เป็นสุนัขสักตัว ถูกต้อนให้จนมุมแล้วยังรู้จักแว้งกัด!” ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มอย่างเย็นชา “ปล่อยให้นางทำตัววุ่นวายไปเถิด ถึงอย่างไรท้ายที่สุดก็มีเพียงจุดจบเดียวนั่นแหละ!”
“เกรงก็แต่ ฮูหยินคงจะไม่ยอมปล่อยนางไปง่าย ๆ สิเจ้าคะ!”
“เต๋อโหรวเป็นคนอย่างไร เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้จริงหรือ? ให้คนไปเตือนนางไว้สักหน่อย อย่าทำให้เรื่องดูแย่ไปมากกว่านี้!” ฮูหยินผู้เฒ่ายืดเอวตรง ออกคำสั่งอย่างเยือกเย็น
“เจ้าค่ะ!” หมัวมัวรับคำ ก็ประคองนางกลับไป
ทว่าด้านหลัง กลับมีเสียงร้องเรียกของบ่าวรับใช้แว่วดังขึ้นมา “นางข้าหลวงขั้นสอง กูกูสอนมารยาทจากในวังมาถึงแล้วเจ้าค่ะ!”
ฮูหยินผู้เฒ่าผุดยิ้มออกมาอย่างเย็นชา นางมิได้หันหลังกลับ ทว่ายืดเอวตรงก็สืบเท้าไปด้านหน้า
ก่อนที่กูกูสอนมารยาทจะเข้ามาถึง หลงจ่านเหยียนก็กลับไปนอนเอกเขนกที่ห้องก่อนแล้ว ไม่ปล่อยให้หลงฮูหยินได้โอกาสกลั่นแกล้งรังแกอะไรนาง
ลุ่มหลงมัวเมาในห้วงความสุขสำราญมีอะไรเลวร้าย? บ้านเมืองสงบสุขรุ่งเรืองแล้วมีอะไรเลวร้าย?
ตราบใดที่นางเข้าวังเป็นไทเฮา นางก็จะสามารถดื่มด่ำกับความสุขสำราญได้อย่างถูกต้องตามหลักทำนองคลองธรรมแล้ว
นางย่อมเข้าวังด้วยความยินดี แม้เป็นหม้ายก็มิใช่เรื่องใหญ่ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือนับจากนี้จะได้รับการปรนนิบัติอย่างฟุ้งเฟ้อทุกวันมีอาภรณ์หรูหราและอาหารชั้นเลิศโอชารส ใช้ชีวิตสุขสบายเสมือนอยู่ในถังข้าวสารอย่างที่หัวใจใฝ่ฝันมานานเพียงข้าวมาก็อ้าปากเพียงอาภรณ์มาก็ยื่นแขน
เพื่อให้มีวันนี้ นางอดทนตรากตรำมานานถึงสามร้อยปีเชียวนะ? ส่วนเรื่องศึกษาหลักธรรมขัดเกลานิสัยอะไรนั่น หาใช่เรื่องสำคัญอันใด ในเมื่อไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับการเข่นฆ่าโรมรันของสามโลกอีกแล้ว ตราบใดที่ครบวาระห้าร้อยปี นางจะอ่อนโยนเพียงใดก็ย่อมได้ จะใจดีมีเมตตาเพียงใดก็ย่อมได้
ขณะที่กำลังครุ่นคิดเพลิน ๆ สาวใช้ซึ่งสวมอาภรณ์สีเขียวสองคนก็เดินเข้ามา
“คุณหนูใหญ่ บ่าวถูกฮูหยินส่งตัวมารับใช้ท่านเจ้าค่ะ!” สาวใช้คนหนึ่งหน้าตาน่ารักอ้วนกลมเอ่ยขึ้น “บ่าวมีนามว่าจี๋เสียงเจ้าค่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง