ข้ามมิติมาหารัก นิยาย บท 46

สรุปบท บทที่ 46 อะไรที่ฉันอยากได้ ก็ต้องได้!: ข้ามมิติมาหารัก

สรุปตอน บทที่ 46 อะไรที่ฉันอยากได้ ก็ต้องได้! – จากเรื่อง ข้ามมิติมาหารัก โดย หนานกวาโจว

ตอน บทที่ 46 อะไรที่ฉันอยากได้ ก็ต้องได้! ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ข้ามมิติมาหารัก โดยนักเขียน หนานกวาโจว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

" ถ้าเขาไม่มีสิทธิ์ออกความเห็น งั้นฉันก็คงมีสินะ? "

ร่างของเซี่ยเชียนเกอ ปรากฏขึ้นกลางห้องประชุม

เธอเดินตรงไปเข้าใกล้กับฝู้อวี้สิง: " ตอนนี้ ฉันขอแนะนำตัวกับทุกคนก่อน ฉันชื่อเซี่ยเชียนเกอเป็นภรรยาของฝู้อวี้สิง เย่หยิ่งเป็นผู้ช่วย เลยไม่มีสิทธิ์ออกความเห็น ถ้าอย่างนั้นในฐานะที่เป็นภรรยาของฝู้อวี้สิง ฉันคงจะมีสิทธิ์พอที่จะออกความเห็นแล้วใช่ไหม? "

การปรากฏตัวของเซี่ยเชียนเกอ ทำให้รัศมีกดดันทุกคนในทันที

พวกผู้ถือหุ้นถูกเซี่ยเชียนเกอจ้องเขม็งขนาดนี้ ก็ทำให้รู้สึก ราวกับว่าถูกดวงตาของงูพิษเยือกเย็นจับจ้องอยู่ รู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว

น้ำเสียงของพวกผู้ถือหุ้นค่อยๆ แผ่วลง: "ฉันจำได้ภรรยาใหม่ที่ฝู้อวี้สิงเหมือนจะชื่อเซี่ยหาน เธอเซี่ยเชียนเกอ โผล่มาจากไหนอีกล่ะ? "

"ไม่นึกเลยว่าคุณจะเอาคนปัญญาอ่อนอย่างเซี่ยหานมาเปรียบเทียบกับฉันเหรอ? "

สายตาเซี่ยเชียนเกอดูเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง: "หล่อนเหมาะสมเหรอ? "

ผู้ถือหุ้นกลืนน้ำลายแล้วพูดว่า: "ต่อให้เธอจะเป็นภรรยาใหม่ของฝู้อวี้สิง แล้วยังไง? แม้แต่หุ้นของบริษัทเราเธอก็ไม่มีเลย เธอจะเอาสิทธิ์จากไหนมาออกความเห็น? "

หุ้นเหรอ?

เซี่ยเชียนเกอเปล่งเสียงออกมาด้วยความอวดดี: " อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันก็ต้องได้! "

คนสนิทของแม่ฝู้ก็เปล่งเสียงออกมาอีกรอบ: "ถ้างั้นรอให้เธอมีก่อน แล้วค่อยมาออกความเห็นแล้วกัน ตอนนี้เธอรีบออกจากห้องประชุมไปซะ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เธอควรมา"

"ผมจะดูสิว่าใครกล้าไล่เธอไป "

ฝู้อวี้สิงที่เงียบมาโดยตลอดทันใดนั้นก็ดึงเซี่ยเชียนเกอเข้ามาในอ้อมแขนของตัวเอง น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง: "ตั้งแต่วินาทีที่ผมแต่งงานกับภรรยา หุ้นของผมและเธอ ก็ใช้ร่วมกัน ยิ่งไปกว่านั้น ผมกับเธอ ไม่แบ่งแยกของใครของมัน ทุกอย่างของผม เธอก็สามารถครอบครองได้ ถ้าเธออยากได้หุ้นของผม ผมสามารถที่จะยกหุ้นยี่สิบสิบเปอร์เซ็นต์ในนามของผมให้กับเธอทั้งหมด"

เซี่ยเชียนเกอไม่รู้เลยว่าไอ้หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่ออกมาจากปากฝู้อวี้สิงนั้นเป็นเท่าไหร่กัน แต่ดูจากสีหน้าที่เหลือเชื่อของพวกกลุ่มผู้ถือหุ้นนั้น ก็รู้แล้วว่า หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์นั้นคงเยอะมาก

ฝู้อวี้สิงช่างดีกับเธอมากจริงๆ

เซี่ยเชียนเกอมองฝู้อวี้สิงที่อยู่ตรงหน้าตัวเองด้วยความซาบซึ้งใจ หลังจากที่มองเสร็จแล้ว เซี่ยเชียนเกอก็นั่งอยู่ในอ้อนแขนของฝู้อวี้สิง แล้วใช้น้ำเสียงที่ยั่วโมโหพูดกับผู้ถือหุ้นที่อยู่ตรงหน้าของตัวเอง: "ตอนนี้ ฝู้อวี้สิงของฉันยกหุ้นให้กับฉันยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ฉันก็คงมีสิทธิ์พอที่จะออกความเห็นแล้วสินะ?"

ผู้ถือหุ้นหุบปากไม่พูดไม่จา

เพราะพวกเขานึกไม่ถึงเลยว่า ฝู้อวี้สิงจะมาไม้นี้กับพวกเขา

พวกผู้ถือหุ้นกำลังคิดคำพูดที่จะใช้โต้ตอบฝู้อวี้สิงอยู่ในสมอง จากนั้นไม่นาน เพราะพวกผู้ถือหุ้นก็ผลัดกันพูด: "ฝู้อวี้สิง หุ้นเป็นของคุณ คุณอยากจะให้ใคร ก็ให้คนนั้น ตอนนี้เรากลับเข้าประเด็นกันดีกว่า เกี่ยวกับการที่คุณก็ต้องสละตำแหน่งประธาน ตกลงว่าคุณจะยอมหรือไม่ยอม?"

"ในเมื่อฝู้ซื่อกรุ๊ปนามสกุลฝู้ งั้นมันก็ควรเป็นของผม"

พวกผู้ถือหุ้นต่างพูดเย้ยหยัน: " ฝู้อวี้สิง นายอย่าลืมสิ ว่าตระกูลฝู้ไม่ได้มีแค่นายคนเดียวที่ใช้นามสกุลฝู้ ฝู้เฉิงหยุนก็นามสกุลฝู้เหมือนกัน ดังนั้นตอนนี้ เราอยากให้นาย สละตำแหน่งประธานบริษัท ให้ฝู้เฉิงหยุนซะ นายมีปัญหาอะไรไหม?"

ฝู้อวี้สิงตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: "เขาไม่มีคุณสมบัตินั่งในตำแหน่งของผม"

"ฝู้เฉิงหยุนมีหรือไม่มีคุณสมบัติในการเป็นประธาน นายก็แค่สละตำแหน่งประธานนี้ให้เขาให้เขาลองดูก็ได้? หรือว่า นายไม่อยากเสียตำแหน่งสูงสุดนี้ไป เลยไม่ยอมสละตำแหน่งประธานให้ใคร? ถ้าหาก นายไม่ยอมเป็นคนสละตำแหน่งประธานก่อน งั้นพวกเราก็จะไม่บีบบังคับนาย ผู้ถือหุ้นอย่างพวกเราจะโหวตตัดสินว่ายังไงล่ะ? "

ตอนนี้ผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัท ต่างถูกแม่ที่แสนดีของเขาเป่าหูจนหมด แต่บุคคลเพียงผู้เดียวที่ยังคอยสนับสนุนเขาก็คือคุณปู่ แต่ตอนนี้ถูกผู้ถือหุ้นทำให้โมโหจนต้องเข้าโรงพยาบาลตำแหน่งประธานบริษัทของฝู้ซื่อกรุ๊ป เขาไม่มีทางยกให้ฝู้เฉิงหยุน

เพราะเขาเป็นคนปัญญาอ่อนไม่มีอะไรดี หากบริษัทตกอยู่ในมือของเขา ต้องพินาศย่อยยับเป็นแน่

"ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ตำแหน่งประธานฝู้ซื่อกรุ๊ป มีแค่ผมฝู้อวี้สิง! ถึงพวกคุณจะใช้วิธีโหวตเพื่อปลดผมออก ก็ไม่มีประโยชน์ "

"แก! "

"ใช่ๆๆ ท่านเก้าของพวกเราไม่ใช่คนตาบอดพิการอะไร ดวงตาท่านเก่าของพวกเรานั้นปราดเปรื่องยิ่งกว่าสายฟ้าเสียอีก ขาทั้งสองข้างของเขา ยังยาวกว่าWispด้วย"

ผู้ถือหุ้นคนพูดจบ ผู้ถือหุ้นอีกคนก็กระแทกไปที่แขนของเขา: "ไอ้หลี่ นายพูดบ้าอะไร? ขาของไอ้หลี่จะเหมือนWispได้ไงกัน? ขาของท่านเก้า เหมือนMortosชัดๆ! โดยเฉพาะใบหน้านั้นของท่านเก้า ช่างหล่อเหมือนกับTulenในเกมทุกประการจริงๆ"

เซี่ยเชียนเกอที่ได้ยินคำเยินยอของเราผู้ถือหุ้น ก็ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงฟังไม่เข้าใจซักประโยค คำชมของคนในยุคนี้ เขาชมกันแบบนี้เหรอ?

เย่หยิ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ เมื่อฟังคำพูดของพวกผู้ถือหุ้นจบ ก็รู้สึกน่ารังเกียจมาก

ผู้ถือหุ้นกลุ่มนี้ วันๆ ไม่ทำอะไร ก็เอาแต่เล่นเกม ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้ตัวละครในเกมมาบรรยายถึงท่านเก้าของเขาอีกต่างหาก

ท่านเก้าของเขา ต่อให้เหมือนตัวละครในเกม งั้นก็ต้องเป็นTaaraสิ

ทั้งแข็งแกร่งและทนทาน

ฝู้อวี้สิง: " ...... "

!!!

เซี่ยเชียนเกอเห็นว่าพวกผู้ถือหุ้นกลุ่มนั้นยังคงเยินยอฝู้อวี้สิงอยู่ตรงนั้น เธอก็ส่งเสียงห้าม: "พอแล้ว อย่ามัวแต่พูดจาประจบประแจงอยู่ที่นี่เลย อาศัยจังหวะตอนที่ฉันยังอารมณ์ดีอยู่ พวกคุณรีบไสหัวไปซะ ไม่อย่างงั้น ถ้าฉันอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา คนแก่อย่างพวกคุณ คงจะทนกับความทรมาน ที่ฉันมอบให้ไม่ไหว!"

ทันทีที่เซี่ยเชียนเกอพูดแบบนี้ไป พวกผู้ถือหุ้นต่างวิ่งเตลิดออกไปอย่างรวดเร็วราวมาก

หนึ่งนาทีต่อมา ก็มีผู้ถือหุ้นสองคนวิ่งกลับเข้ามาอย่างรวดเร็วแล้วลากตัวคนสนิทแม่ฝู้ที่โดนเซี่ยเชียนเกอกระทืบจนกระอักเลือดออกไป

เป็นการลากทั้งหมดจริงๆ เดิมทีคนสนิทคนนั้นของแม่ฝู้ก็แทบจะไม่ไหวแล้ว พอถูกพวกผู้ถือหุ้นลากไปอีก จึงกระอักเลือดกระแทกประตู และสลบไป

เซี่ยเชียนเกอ: " .... "

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติมาหารัก