" ถ้าเขาไม่มีสิทธิ์ออกความเห็น งั้นฉันก็คงมีสินะ? "
ร่างของเซี่ยเชียนเกอ ปรากฏขึ้นกลางห้องประชุม
เธอเดินตรงไปเข้าใกล้กับฝู้อวี้สิง: " ตอนนี้ ฉันขอแนะนำตัวกับทุกคนก่อน ฉันชื่อเซี่ยเชียนเกอเป็นภรรยาของฝู้อวี้สิง เย่หยิ่งเป็นผู้ช่วย เลยไม่มีสิทธิ์ออกความเห็น ถ้าอย่างนั้นในฐานะที่เป็นภรรยาของฝู้อวี้สิง ฉันคงจะมีสิทธิ์พอที่จะออกความเห็นแล้วใช่ไหม? "
การปรากฏตัวของเซี่ยเชียนเกอ ทำให้รัศมีกดดันทุกคนในทันที
พวกผู้ถือหุ้นถูกเซี่ยเชียนเกอจ้องเขม็งขนาดนี้ ก็ทำให้รู้สึก ราวกับว่าถูกดวงตาของงูพิษเยือกเย็นจับจ้องอยู่ รู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว
น้ำเสียงของพวกผู้ถือหุ้นค่อยๆ แผ่วลง: "ฉันจำได้ภรรยาใหม่ที่ฝู้อวี้สิงเหมือนจะชื่อเซี่ยหาน เธอเซี่ยเชียนเกอ โผล่มาจากไหนอีกล่ะ? "
"ไม่นึกเลยว่าคุณจะเอาคนปัญญาอ่อนอย่างเซี่ยหานมาเปรียบเทียบกับฉันเหรอ? "
สายตาเซี่ยเชียนเกอดูเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง: "หล่อนเหมาะสมเหรอ? "
ผู้ถือหุ้นกลืนน้ำลายแล้วพูดว่า: "ต่อให้เธอจะเป็นภรรยาใหม่ของฝู้อวี้สิง แล้วยังไง? แม้แต่หุ้นของบริษัทเราเธอก็ไม่มีเลย เธอจะเอาสิทธิ์จากไหนมาออกความเห็น? "
หุ้นเหรอ?
เซี่ยเชียนเกอเปล่งเสียงออกมาด้วยความอวดดี: " อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันก็ต้องได้! "
คนสนิทของแม่ฝู้ก็เปล่งเสียงออกมาอีกรอบ: "ถ้างั้นรอให้เธอมีก่อน แล้วค่อยมาออกความเห็นแล้วกัน ตอนนี้เธอรีบออกจากห้องประชุมไปซะ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เธอควรมา"
"ผมจะดูสิว่าใครกล้าไล่เธอไป "
ฝู้อวี้สิงที่เงียบมาโดยตลอดทันใดนั้นก็ดึงเซี่ยเชียนเกอเข้ามาในอ้อมแขนของตัวเอง น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง: "ตั้งแต่วินาทีที่ผมแต่งงานกับภรรยา หุ้นของผมและเธอ ก็ใช้ร่วมกัน ยิ่งไปกว่านั้น ผมกับเธอ ไม่แบ่งแยกของใครของมัน ทุกอย่างของผม เธอก็สามารถครอบครองได้ ถ้าเธออยากได้หุ้นของผม ผมสามารถที่จะยกหุ้นยี่สิบสิบเปอร์เซ็นต์ในนามของผมให้กับเธอทั้งหมด"
เซี่ยเชียนเกอไม่รู้เลยว่าไอ้หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่ออกมาจากปากฝู้อวี้สิงนั้นเป็นเท่าไหร่กัน แต่ดูจากสีหน้าที่เหลือเชื่อของพวกกลุ่มผู้ถือหุ้นนั้น ก็รู้แล้วว่า หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์นั้นคงเยอะมาก
ฝู้อวี้สิงช่างดีกับเธอมากจริงๆ
เซี่ยเชียนเกอมองฝู้อวี้สิงที่อยู่ตรงหน้าตัวเองด้วยความซาบซึ้งใจ หลังจากที่มองเสร็จแล้ว เซี่ยเชียนเกอก็นั่งอยู่ในอ้อนแขนของฝู้อวี้สิง แล้วใช้น้ำเสียงที่ยั่วโมโหพูดกับผู้ถือหุ้นที่อยู่ตรงหน้าของตัวเอง: "ตอนนี้ ฝู้อวี้สิงของฉันยกหุ้นให้กับฉันยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ฉันก็คงมีสิทธิ์พอที่จะออกความเห็นแล้วสินะ?"
ผู้ถือหุ้นหุบปากไม่พูดไม่จา
เพราะพวกเขานึกไม่ถึงเลยว่า ฝู้อวี้สิงจะมาไม้นี้กับพวกเขา
พวกผู้ถือหุ้นกำลังคิดคำพูดที่จะใช้โต้ตอบฝู้อวี้สิงอยู่ในสมอง จากนั้นไม่นาน เพราะพวกผู้ถือหุ้นก็ผลัดกันพูด: "ฝู้อวี้สิง หุ้นเป็นของคุณ คุณอยากจะให้ใคร ก็ให้คนนั้น ตอนนี้เรากลับเข้าประเด็นกันดีกว่า เกี่ยวกับการที่คุณก็ต้องสละตำแหน่งประธาน ตกลงว่าคุณจะยอมหรือไม่ยอม?"
"ในเมื่อฝู้ซื่อกรุ๊ปนามสกุลฝู้ งั้นมันก็ควรเป็นของผม"
พวกผู้ถือหุ้นต่างพูดเย้ยหยัน: " ฝู้อวี้สิง นายอย่าลืมสิ ว่าตระกูลฝู้ไม่ได้มีแค่นายคนเดียวที่ใช้นามสกุลฝู้ ฝู้เฉิงหยุนก็นามสกุลฝู้เหมือนกัน ดังนั้นตอนนี้ เราอยากให้นาย สละตำแหน่งประธานบริษัท ให้ฝู้เฉิงหยุนซะ นายมีปัญหาอะไรไหม?"
ฝู้อวี้สิงตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: "เขาไม่มีคุณสมบัตินั่งในตำแหน่งของผม"
"ฝู้เฉิงหยุนมีหรือไม่มีคุณสมบัติในการเป็นประธาน นายก็แค่สละตำแหน่งประธานนี้ให้เขาให้เขาลองดูก็ได้? หรือว่า นายไม่อยากเสียตำแหน่งสูงสุดนี้ไป เลยไม่ยอมสละตำแหน่งประธานให้ใคร? ถ้าหาก นายไม่ยอมเป็นคนสละตำแหน่งประธานก่อน งั้นพวกเราก็จะไม่บีบบังคับนาย ผู้ถือหุ้นอย่างพวกเราจะโหวตตัดสินว่ายังไงล่ะ? "
ตอนนี้ผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัท ต่างถูกแม่ที่แสนดีของเขาเป่าหูจนหมด แต่บุคคลเพียงผู้เดียวที่ยังคอยสนับสนุนเขาก็คือคุณปู่ แต่ตอนนี้ถูกผู้ถือหุ้นทำให้โมโหจนต้องเข้าโรงพยาบาลตำแหน่งประธานบริษัทของฝู้ซื่อกรุ๊ป เขาไม่มีทางยกให้ฝู้เฉิงหยุน
เพราะเขาเป็นคนปัญญาอ่อนไม่มีอะไรดี หากบริษัทตกอยู่ในมือของเขา ต้องพินาศย่อยยับเป็นแน่
"ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ตำแหน่งประธานฝู้ซื่อกรุ๊ป มีแค่ผมฝู้อวี้สิง! ถึงพวกคุณจะใช้วิธีโหวตเพื่อปลดผมออก ก็ไม่มีประโยชน์ "
"แก! "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติมาหารัก
เมื่อไหร่จะอัพ ตอนต่อไป....รออ่านอยู่น้าาาาาาา...