เซี่ยเชียนเกอได้แย่งพินัยกรรมจากทนายจาง แล้วรีบเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ในนั้นจะมีศัพท์เทคนิคมากมายที่เธอไม่เข้าใจ แต่เธอก็เข้าใจความหมายโดยรวมอยู่ว่า คุณท่านฝู้ได้เขียนพินัยกรรมไว้ในขณะที่เขายังมีสติว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เขาจะโอนหุ้นทั้งหมดของตัวเองให้กับฝู้เฉิงหยุนโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ
จะมอบให้ฝู้อวี้สิงเพียงบ้านหลังเก่าไว้เพื่อการเกษียณอายุ ที่เหลือก็ไม่มีอะไรแล้ว
ไม่มีเงิน และไม่มีอำนาจใดๆ
คุณท่านฝู้เป็นถึงประธานกรรมการของบริษัท ถ้าเขาโอนหุ้นทั้งหมดของตัวเองให้กับฝู้เฉิงหยุน ฝู้เฉิงหยุนก็จะกลายเป็นประธานบริษัทคนใหม่ อำนาจก็จะมากกว่าฝู้อวี้สิงเช่นกัน
เซี่ยเชียนเกอไม่เชื่อเลยว่าพินัยกรรมนี้จะเป็นของจริง เธอโยนพินัยกรรมในมือไปยังใบหน้าของทนายจาง: "เอาพินัยกรรมปลอมนี้ออกไปให้พ้น คุณอาจไม่รู้สำหรับคุณท่านฝู้แล้วฝู้อวี้สิงสำคัญมากแค่ไหน ฉะนั้นแล้วพินัยกรรมนี้ไม่ใช้ของจริงแน่นอน ต้องเป็นเฉินฮุ่ยนางผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้นปลอมแปลงขึ้นมาแน่นอน"
จมูกของคุณทนายจางถูกแฟ้มเอกสารตีจนเลือดออก และนำมือปิดจมูกของตัวเองด้วยความเจ็บปวด: "คุณเซี่ยครับ คุณเฉินได้ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบลายเซ็นบนแฟ้มเอกสารนี้แล้ว และได้รับการยืนยันว่าเป็นลายเซ็นของคุณท่านฝู้จริง นี่คือผลการตรวจสอบคุณสามารถเปิดดูได้"
"ดูอะไร? ฉันไม่เชื่อหรอกนะ! ฉันจะพูดอีกเป็นครั้งสุดท้าย เอาเอกสารปลอมนี้ออกไปให้พ้นซะ"
คุณทนายจางหมดความอดทน: "คุณเซี่ย ถ้าคุณไม่เชื่อ คุณสามารถให้คุณชายฝู้หาคนที่ไว้ใจได้มาตรวจสอบ ผมจะวางเอกสารสองเล่มนี้ไว้ที่นี่ หลังจากคุณตรวจสอบจนแน่ใจว่าไม่มีปัญหาแล้ว ผมจะให้คู่กรณีทำการดำเนินการตามที่เขียนไว้ในบนนี้"
"อีกอย่างคู่กรณีของผมฝากมาบอกคุณฝู้ ว่าควรมอบตำแหน่งประธานบริษัทฝู้ซื่อออกมาให้โดยเร็วที่สุด และอย่าก่อเรื่องมากจนเกินไป หากเป็นแบบนั้นแล้วจะไม่เป็นผลดีต่อเขาและคู่กรณีของผม"
"คุณกำลังรนหาที่ตายรึ"
เซี่ยเชียนเกอหยิบเอกสารสองฉบับด้านข้าง แล้วโยนไปยังใบหน้าของคุณทนายจางอย่างแรงอีกครั้ง ทนายจางยกมือปิดจมูกที่ออกเลือดของตัวเองและหันหลังวิ่งหนีออกจากห้องผู้ป่วยไป
เซี่ยเชียนเกอมองไปยังเอกสารที่กระจัดกระจาย แล้วก้มลงหยิบมันขึ้นมา ยังไม่ทันทิ้งลงในถังขยะ ก็ได้ยินเสียงของฝู้อวี้สิงพูดขึ้นว่า: "เอาพินัยกรรมมาให้ผมดูหน่อย"
เซี่ยเชียนเกอส่ายหัว: "ฝู้อวี้สิง พินัยกรรมนี้นายไม่ต้องดูก็รู้ว่าเป็นเอกสารที่เฉินฮุ่ยสั่งให้คนปลอมแปลงขึ้นมา เพราะฉะนั้นนายอย่าดูมันเลย"
"เอาเอกสารมาให้ผม อย่าให้ผมต้องพูดอีกเป็นครั้งที่สาม"
เซี่ยเชียนเกอกลัวว่าหลังจากฝู้อวี้สิงได้ดูเอกสารนี้แล้วจะเสียใจ
ยิ่งถ้าหากเอกสารนี้เป็นของจริงแล้ว เกรงว่าฝู้อวี้สิงนอกจากจะเสียใจแล้วยังไม่สามารถยอมรับได้อีก
เธอกำเอกสารในมือแน่นและส่งให้ฝู้อวี้สิงอย่างไม่เต็มใจ เอกสารนี้ทำไว้สำหรับคนตาบอด ดังนั้นฝู้อวี้สิงสามารถหยิบไปอ่านได้เลยทันที
สามนาทีผ่านไป ฝู้อวี้สิงได้อ่านเอกสารทั้งหมดจนจบ
"ลายเซ็นบนพินัยกรรมนี้เป็นของคุณปู่ลงนามจริงๆ แต่ผมไม่เชื่อว่าเนื้อหาในพินัยกรรมนี้จะเป็นความคิดในใจของคุณปู่ แม้ว่าคุณปู่จะไม่มอบบริษัทให้ผม แต่ก็จะไม่มอบบริษัทให้ฝู้เฉิงหยุนอย่างแน่นอน"
"แล้วหลังจากนี้จะทำยังไงต่อไปล่ะ"
ฝู้อวี้สิงปิดเอกสาร: "ทั้งเกิดเรื่องขึ้นกับคุณปู่ พร้อมกับการปรากฏของพินัยกรรมนี้ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องบังเอิญเกินไป ผู้หญิงคนนั้นใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้ผมลงจากตำแหน่งประธานบริษัท หากเธอต้องการสนับสนุนให้ฝู้เฉิงหยุนที่งี่เง่าขึ้นรับตำแหน่ง งั้นผมจะทำให้เธอสมปรารถนานั้น"
แม้เดิมทีเธอก็คิดที่จะขอให้ฝู้อวี้สิงมอบตำแหน่งประธานบริษัทให้ฝู้เฉิงหยุน แต่หลังจากได้ยินฝู้อวี้สิงพูดแบบนี้แล้ว ไม่รู้ทำไมเซี่ยเชียนเกอถึงรู้สึกเศร้าขึ้นมา
ยิ่งไปกว่านั้น เธอเชื่อว่าแท้จริงแล้วฝู้อวี้สิงก็ไม่อยากมอบตำแหน่งประธานบริษัทออกมาหรอก เพราะฝู้ซื่อกรุ๊ปเป็นเลือดเนื้อและจิตใจของเขาและคุณปู่ ซึ่งการเอาเลือดเนื้อและจิตใจที่ตัวเองทุ่มเทและปกป้องให้คนอื่นเสื่อมเสีย เป็นใครก็รับไม่ได้ทั้งนั้น
เซี่ยเชียนเกอพูดอย่างกังวล: "ฝู้อวี้สิง ถ้าคุณไม่อยากมอบตำแหน่งประธานบริษัทออกมา ฉันสามารถช่วยคุณได้นะ"
ฝู้อวี้สิงกล่าวอย่างเย็นชา: "ในใจเธอคิดว่าผมไม่สามารถปกป้องสิ่งที่ผมต้องการงั้นเหรอ?"
"คุณทำได้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติมาหารัก
เมื่อไหร่จะอัพ ตอนต่อไป....รออ่านอยู่น้าาาาาาา...