ข้ามมิติมาหารัก นิยาย บท 70

สรุปบท บทที่ 70 ไม่ใช่อาจจะ แต่ต้องแน่นอน: ข้ามมิติมาหารัก

อ่านสรุป บทที่ 70 ไม่ใช่อาจจะ แต่ต้องแน่นอน จาก ข้ามมิติมาหารัก โดย หนานกวาโจว

บทที่ บทที่ 70 ไม่ใช่อาจจะ แต่ต้องแน่นอน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ข้ามมิติมาหารัก ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย หนานกวาโจว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ดังนั้น ซือเฉินจึงได้เข้าไปแย่งไมค์โครโฟนในมือของเธอมาแล้วทำการสารภาพรักเพื่อไม่ให้เธอรู้สึกอึดอัดใจ "ฉินฮวน ฝู้อวี้สิงเป็นคนที่ไม่มีหัวจิตหัวใจ อีกอย่างถ้าเขายอมรับผู้หญิงคนไหนแล้วละก็ เขาจะมีเพียงผู้หญิงคนนั้นคนเดียวตลอดไป และผมซือเฉินก็เช่นกัน ถ้าผมรักใครแล้วล่ะก็ ผมจะรักไปตลอดชีวิต"

"คุณบอกว่าคุณรู้จักกับฝู้อวี้สิงมาสิบสามปีแล้ว ที่จริงผมก็รู้จักคุณมาถึงยี่สิบสามปีเหมือนกันครับ เพราะว่าตั้งแต่คุณเกิดมาผมก็รู้จักคุณแล้ว ตอนนั้นหน้าของคุณยังยับยู่ยี่อยู่เลย น่าเกลียดที่สุด และตอนนั้นผมรังเกียจคุณมากเลยนะ"

แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป คุณเองก็โตขึ้นเรื่อยๆ คุณเปลี่ยนไปเป็นคนที่โดดเด่นยอดเยี่ยม เปลี่ยนไปเหมือนกับฝู้อวี้สิงที่เต็มไปด้วยแสงเจิดจ้าและดึงดูดผมจากก้นบึ้งของหัวใจ ฉินฮวน วันนี้คุณสารภาพรักกับฝู้อวี้สิง แต่ถูกเขาปฏิเสธ ดังนั้นผมเองก็อยากจะถามคุณว่า จะลองคบกับผมดูไหม?"

"ผมยินดีที่จะมอบความรักทั้งหมดให้แก่คุณ และยินดีที่จะมอบหัวใจทั้งดวงให้แก่คุณ ดังนั้นฉินฮวนครับ คุณยินดีจะเป็นผู้หญิงของผมซือเฉินไหม?"

เมื่อคำพูดเหล่านี้ของซือเฉินถูกกล่าวออกไป ฉินฮวนก็ขจัดความเก้กังไปได้ไม่น้อย เพราะอย่างน้อยซือเฉินก็ทำให้ทุกคนรู้ว่าเธอฉินฮวนไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครชอบ

เธอเป็นคนดีจะตาย การที่ฝู้อวี้สิงไม่ชอบเธอเป็นเพราะเขาตาบอด

และที่จริงเขาก็ตาบอดด้วย!

ฉินฮวนมองไปทางซือเฉิน แล้วพูดกับเขาว่า "ขอโทษนะคะ" แล้วเธอก็เดินทางจากไป ซือเฉินยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น แล้วหันไปถามฝู้อวี้สิงว่า "นายรู้ตั้งนานแล้วว่าในวันนี้ฉินฮวนจะสารภาพรักกับนาย ดังนั้นนายจึงไม่อยากจะเดินทางมางานเลี้ยงวันเกิดของเธอใช่ไหม?"

ฝู้อวี้สิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า "ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอตั้งใจจะสารภาพรักกับฉัน แต่เหตุผลที่ฉันปฏิเสธไม่อยากมางานเลี้ยงวันเกิดของเธอนั่นเป็นเพราะว่าฉันไม่อยากจะใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่นนอกเหนือจากเซี่ยเชียนเกอ ซือเฉิน ไม่ว่านายจะเชื่อหรือไม่ แต่ฉันไม่เคยคิดอะไรกับฉินฮวนเลยแม้แต่น้อย"

เขารู้

เพราะถ้าหากว่าฝู้อวี้สิงมีความคิดอื่นใดกับฉินฮวนละก็ คงจะไม่รอจนเนิ่นนานขนาดนี้แต่ไม่ไปตามจีบเธอหรอก

อีกอย่าง ตอนนี้ฝู้อวี้สิงก็มีเซี่ยเชียนเกอแล้วไม่ใช่หรือไง ดังนั้นเขาคงยิ่งจะไม่เข้ามาแย่งฉินฮวนกับตน

หลังจากที่ซือเฉินยื่นไมค์โครโฟนในมือของตนไปให้กับฝู้อวี้สิงแล้วก็ได้วิ่งตามฉินฮวนออกไป ส่วนเซี่ยเชียนเกอ ฝู้อวี้สิงและเย่หยิ่งที่อยู่ในห้องโถง ทั้งสามคนไม่อยากจะอยู่ร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของฉินฮวนแล้ว ดังนั้นเซี่ยเชียนเกอจึงได้เอ่ยเสนอ ออกจากงานเป็นคนแรก

ฝู้อวี้สิงก็ไม่ได้ปฏิเสธ ดังนั้นทั้งสามคนจึงพากันเดินทางออกจากตระกูลฉิน

แต่ว่าเมื่อพวกเขาเดินทางออกมาถึงที่ประตู ก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาล้อมเอาไว้ เย่หยิ่งพูดขึ้นกับเซี่ยเชียนเกอว่า "คุณนายครับ คุณพาท่านเก้าออกไปก่อน ที่นี่ผมจัดการเอง"

เดิมทีเซี่ยเชียนเกอก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่นัก เนื่องจากกำลังภายในของเธอยังไม่ฟื้นฟูดี ต่อให้เธอจัดการกับคนกลุ่มนี้ได้ แต่ก็คงจะเปลืองแรงน่าดูไม่ใช่เหรอ?

ดังนั้นเซี่ยเชียนเกอจึงเข็นฝู้อวี้สิงออกไปขึ้นรถโดยไม่ลังเล

บริเวณไกลออกไป เย่หยิ่งจัดการกับคนกลุ่มหนึ่งได้เพียงเวลาไม่นาน คนร่างกายกำยำเหล่านั้นพวกเขาคิดว่าก็เพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง คนพิการคนหนึ่งและผู้ชายคนหนึ่งจะเท่าไรเชียว แต่คิดไม่ถึงว่า ชั่วพริบตาเย่หยิ่งจะหยิบกริชสั้นออกมาแล้วจี้ไปที่คอของชายคนหนึ่งเอ่ยถามว่า "บอกมานะ ใครเป็นคนส่งพวกแกมา!"

ชายผู้นั้นไม่ลังเลที่จะขายฉินเยว่ "คะ คะ คุณหนูรองตระกูลฉิน"

ฉินเยว่เหรอ?

เธอรนหาที่ตายหรือไงกัน กล้าดีอย่างไรให้คนกลุ่มนี้มาทำร้ายท่านเก้า

มองดูแล้วตระกูลฉินคงจะเอาไว้ไม่ได้แล้วล่ะ

เย่หยิ่งจากการกับคนกลุ่มนั้นจนสลบไปแล้วโยนเอาไว้ข้างๆ ก่อนจะขึ้นไปบนรถแล้วรายงานให้แก่ฝู้อวี้สิงฟัง "ท่านเก้าครับ คนกลุ่มนั้นให้การยอมรับแล้ว พวกเขาบอกว่าเป็นคนคุณหนูรองตระกูลฉิน ฉินเยว่ที่ส่งพวกเขามา"

ฉินเยว่?

ดูเหมือนว่าเป้าหมายของคนกลุ่มนั้นจะไม่ใช่เขาแต่เป็นเซี่ยเชียนเกอที่กำลังอยู่ในอ้อมอกของเขาและมือไม้ซุกซนไปทั่วอยู่ตอนนี้

มุมปากของฝู้อวี้สิงเผยอยิ้มขึ้นเเฝงไปด้วยความอาฆาต "ผมจะไม่อนุญาตให้ใครมาแตะต้องผู้หญิงของผมทั้งนั้น เย่หยิ่ง ต่อจากนี้นายควรจะรู้สินะว่าต้องทำอย่างไร"

เย่หยิ่งหันไปสบตากับฝู้อวี้สิงอย่างมุ่งมั่น จากนั้นก็พยักหน้าเป็นความหมายว่าเขารู้ดีว่าควรทำเช่นไร

ในไม่ช้ารถก็ขับกลับมาถึงคฤหาสน์

ล้อเล่นกับเธอหรืออย่างไรกัน?

เขาสั่งให้เธอไปอ้อนวอนร้องขอเซี่ยเชียนเกอ? ไม่ เธอจะไม่ไปอ้อนวอนขอผู้หญิงคนนั้นแน่ ต่อให้ตายเธอก็ไม่ทำ

ฉินเยว่ลุกขึ้นจากพื้น ดวงตาของเธอแดงเรื่อ ท่าทางเปลี่ยนจากเมื่อครู่ที่ทำเป็นน่าสงสาร ดวงตาของเธอแน่วแน่แล้วพูดว่า "พ่อคะ ทั้งชีวิตนี้คนที่หนูจะไม่ไปร้องขอนั่นก็คือเซี่ยเชียนเกอ ต่อให้หนูต้องตายก็จะไม่อ้อนวอนเธออย่างแน่นอน ในเมื่อพ่อไม่ยอมช่วยหนู ถ้าอย่างนั้นหนูก็จะช่วยเหลือตนเอง!"

"หนูจะช่วยเหลือตัวหนูเอง!"

ฉินเยว่กล่าวเอาไว้ประโยคหนึ่งทิ้งท้ายจากนั้นก็วิ่งออกไปจากคฤหาสน์อย่างไม่หันหลังกลับมาเหลียวมองใคร แม่ฉินมองไปที่พ่อฉินด้วยท่าทางเป็นกังวล "คุณคะ เสี่ยวเยว่เป็นลูกสาวของเรานะคะ คุณจะทนเห็นเธอตายไปแบบนี้เหรอ คุณทำใจได้เหรอคะ?"

พ่อฉินขมวดคิ้วเข้าหากัน "ต่อให้ผมทำใจไม่ได้แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ วิธีการจัดการของฝู้อวี้สิงคุณเองก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้!"

"ใครก็ตามที่ขัดใจเขาล้วนมีจุดจบที่ไม่ดี คุณดูผมเป็นตัวอย่างสิ ตอนนี้ผมไม่มีงาน ไม่เหลืออะไรแล้ว ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะฝู้อวี้สิงไม่ใช่หรือไง!"

"คุณบอกผมมาสิว่าตอนนี้ต่อให้ฝู้อวี้สิงไม่ได้เป็นประธานของฝู้ซื่อกรุ๊ปแล้ว แต่เขาก็ยังเชื่อว่าฝู้อวี้สิง ไม่มีใครจะขยับเขยื้อนตำแหน่งของเขาได้เลย ตอนนี้ฉินเยว่ทำให้ผู้หญิงของเขาต้องขุ่นเคืองใจ เธอก็ควรจะได้รับบทเรียนบ้าง มันสมควรแล้ว"

"แต่ว่า......"

"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เรื่องนี้คุณอย่าเข้าไปข้องเกี่ยวอีกเลย กลับไปที่ห้องคุณแล้วไปนอนเสีย"

เมื่อพ่อฉินพูดจบก็เดินทางออกไปจากห้องรับแขก แม่ฉินเต็มไปด้วยความกังวลใจ ฉินฮวนเองกล่าวขึ้นในทันใดว่า "แม่คะอย่ากังวลใจไปเลย หนูกับพี่อวี้สิงก็รู้จักกันมาตั้งหลายปี พรุ่งนี้หนูจะไปหาเขาและบอกกับเขาว่าปล่อยเสี่ยวเยว่ไปเถอะ"

แม้ฉินพูดออกมาว่า "เวลาสำคัญแบบนี้ ฮวนฮวนจัดการเรื่องราวได้ดีเสมอ หากเราจะมัวพึ่งพาพ่อของลูก ไม่รู้ว่าน้องของลูกจะตายไปกี่รอบแล้ว!"

ฉินเยว่......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติมาหารัก