ดังนั้น ซือเฉินจึงได้เข้าไปแย่งไมค์โครโฟนในมือของเธอมาแล้วทำการสารภาพรักเพื่อไม่ให้เธอรู้สึกอึดอัดใจ "ฉินฮวน ฝู้อวี้สิงเป็นคนที่ไม่มีหัวจิตหัวใจ อีกอย่างถ้าเขายอมรับผู้หญิงคนไหนแล้วละก็ เขาจะมีเพียงผู้หญิงคนนั้นคนเดียวตลอดไป และผมซือเฉินก็เช่นกัน ถ้าผมรักใครแล้วล่ะก็ ผมจะรักไปตลอดชีวิต"
"คุณบอกว่าคุณรู้จักกับฝู้อวี้สิงมาสิบสามปีแล้ว ที่จริงผมก็รู้จักคุณมาถึงยี่สิบสามปีเหมือนกันครับ เพราะว่าตั้งแต่คุณเกิดมาผมก็รู้จักคุณแล้ว ตอนนั้นหน้าของคุณยังยับยู่ยี่อยู่เลย น่าเกลียดที่สุด และตอนนั้นผมรังเกียจคุณมากเลยนะ"
แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป คุณเองก็โตขึ้นเรื่อยๆ คุณเปลี่ยนไปเป็นคนที่โดดเด่นยอดเยี่ยม เปลี่ยนไปเหมือนกับฝู้อวี้สิงที่เต็มไปด้วยแสงเจิดจ้าและดึงดูดผมจากก้นบึ้งของหัวใจ ฉินฮวน วันนี้คุณสารภาพรักกับฝู้อวี้สิง แต่ถูกเขาปฏิเสธ ดังนั้นผมเองก็อยากจะถามคุณว่า จะลองคบกับผมดูไหม?"
"ผมยินดีที่จะมอบความรักทั้งหมดให้แก่คุณ และยินดีที่จะมอบหัวใจทั้งดวงให้แก่คุณ ดังนั้นฉินฮวนครับ คุณยินดีจะเป็นผู้หญิงของผมซือเฉินไหม?"
เมื่อคำพูดเหล่านี้ของซือเฉินถูกกล่าวออกไป ฉินฮวนก็ขจัดความเก้กังไปได้ไม่น้อย เพราะอย่างน้อยซือเฉินก็ทำให้ทุกคนรู้ว่าเธอฉินฮวนไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครชอบ
เธอเป็นคนดีจะตาย การที่ฝู้อวี้สิงไม่ชอบเธอเป็นเพราะเขาตาบอด
และที่จริงเขาก็ตาบอดด้วย!
ฉินฮวนมองไปทางซือเฉิน แล้วพูดกับเขาว่า "ขอโทษนะคะ" แล้วเธอก็เดินทางจากไป ซือเฉินยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น แล้วหันไปถามฝู้อวี้สิงว่า "นายรู้ตั้งนานแล้วว่าในวันนี้ฉินฮวนจะสารภาพรักกับนาย ดังนั้นนายจึงไม่อยากจะเดินทางมางานเลี้ยงวันเกิดของเธอใช่ไหม?"
ฝู้อวี้สิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า "ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอตั้งใจจะสารภาพรักกับฉัน แต่เหตุผลที่ฉันปฏิเสธไม่อยากมางานเลี้ยงวันเกิดของเธอนั่นเป็นเพราะว่าฉันไม่อยากจะใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่นนอกเหนือจากเซี่ยเชียนเกอ ซือเฉิน ไม่ว่านายจะเชื่อหรือไม่ แต่ฉันไม่เคยคิดอะไรกับฉินฮวนเลยแม้แต่น้อย"
เขารู้
เพราะถ้าหากว่าฝู้อวี้สิงมีความคิดอื่นใดกับฉินฮวนละก็ คงจะไม่รอจนเนิ่นนานขนาดนี้แต่ไม่ไปตามจีบเธอหรอก
อีกอย่าง ตอนนี้ฝู้อวี้สิงก็มีเซี่ยเชียนเกอแล้วไม่ใช่หรือไง ดังนั้นเขาคงยิ่งจะไม่เข้ามาแย่งฉินฮวนกับตน
หลังจากที่ซือเฉินยื่นไมค์โครโฟนในมือของตนไปให้กับฝู้อวี้สิงแล้วก็ได้วิ่งตามฉินฮวนออกไป ส่วนเซี่ยเชียนเกอ ฝู้อวี้สิงและเย่หยิ่งที่อยู่ในห้องโถง ทั้งสามคนไม่อยากจะอยู่ร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของฉินฮวนแล้ว ดังนั้นเซี่ยเชียนเกอจึงได้เอ่ยเสนอ ออกจากงานเป็นคนแรก
ฝู้อวี้สิงก็ไม่ได้ปฏิเสธ ดังนั้นทั้งสามคนจึงพากันเดินทางออกจากตระกูลฉิน
แต่ว่าเมื่อพวกเขาเดินทางออกมาถึงที่ประตู ก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาล้อมเอาไว้ เย่หยิ่งพูดขึ้นกับเซี่ยเชียนเกอว่า "คุณนายครับ คุณพาท่านเก้าออกไปก่อน ที่นี่ผมจัดการเอง"
เดิมทีเซี่ยเชียนเกอก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่นัก เนื่องจากกำลังภายในของเธอยังไม่ฟื้นฟูดี ต่อให้เธอจัดการกับคนกลุ่มนี้ได้ แต่ก็คงจะเปลืองแรงน่าดูไม่ใช่เหรอ?
ดังนั้นเซี่ยเชียนเกอจึงเข็นฝู้อวี้สิงออกไปขึ้นรถโดยไม่ลังเล
บริเวณไกลออกไป เย่หยิ่งจัดการกับคนกลุ่มหนึ่งได้เพียงเวลาไม่นาน คนร่างกายกำยำเหล่านั้นพวกเขาคิดว่าก็เพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง คนพิการคนหนึ่งและผู้ชายคนหนึ่งจะเท่าไรเชียว แต่คิดไม่ถึงว่า ชั่วพริบตาเย่หยิ่งจะหยิบกริชสั้นออกมาแล้วจี้ไปที่คอของชายคนหนึ่งเอ่ยถามว่า "บอกมานะ ใครเป็นคนส่งพวกแกมา!"
ชายผู้นั้นไม่ลังเลที่จะขายฉินเยว่ "คะ คะ คุณหนูรองตระกูลฉิน"
ฉินเยว่เหรอ?
เธอรนหาที่ตายหรือไงกัน กล้าดีอย่างไรให้คนกลุ่มนี้มาทำร้ายท่านเก้า
มองดูแล้วตระกูลฉินคงจะเอาไว้ไม่ได้แล้วล่ะ
เย่หยิ่งจากการกับคนกลุ่มนั้นจนสลบไปแล้วโยนเอาไว้ข้างๆ ก่อนจะขึ้นไปบนรถแล้วรายงานให้แก่ฝู้อวี้สิงฟัง "ท่านเก้าครับ คนกลุ่มนั้นให้การยอมรับแล้ว พวกเขาบอกว่าเป็นคนคุณหนูรองตระกูลฉิน ฉินเยว่ที่ส่งพวกเขามา"
ฉินเยว่?
ดูเหมือนว่าเป้าหมายของคนกลุ่มนั้นจะไม่ใช่เขาแต่เป็นเซี่ยเชียนเกอที่กำลังอยู่ในอ้อมอกของเขาและมือไม้ซุกซนไปทั่วอยู่ตอนนี้
มุมปากของฝู้อวี้สิงเผยอยิ้มขึ้นเเฝงไปด้วยความอาฆาต "ผมจะไม่อนุญาตให้ใครมาแตะต้องผู้หญิงของผมทั้งนั้น เย่หยิ่ง ต่อจากนี้นายควรจะรู้สินะว่าต้องทำอย่างไร"
เย่หยิ่งหันไปสบตากับฝู้อวี้สิงอย่างมุ่งมั่น จากนั้นก็พยักหน้าเป็นความหมายว่าเขารู้ดีว่าควรทำเช่นไร
ในไม่ช้ารถก็ขับกลับมาถึงคฤหาสน์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติมาหารัก
เมื่อไหร่จะอัพ ตอนต่อไป....รออ่านอยู่น้าาาาาาา...