“ข้ากลับไม่คิดว่าเจ้าไม่ค่อยฉลาดนัก”
ขอทานชะงัก “ทำไม?”
“พักบ้านของข้า กินข้าวของข้า แต่กลับช่วยคนอื่น”
ขอทานหัวเราะแห้ง ๆ “มีเรียกว่ามีอะไรก็พูด อยากผายลมก็ปล่อย”
“ตอนสมควรอดกลั้นก็ต้องทำ ไม่ใช่ใครก็อยากถูกเจ้ารมควัน”
หลิวอวิ๋นเซียงพูดจบก็กลับห้องด้วยความไม่พอใจ
หลายวันต่อมา ขอทานถูมือเข้ามาอุทานว่า “กองทัพของเหยียนมู่จะย้ายจากด่านทางเหนือเปลี่ยนเป็นซั่วซีเสริมด่านจินซี
หลิวอวิ๋นเซียงขมวดคิ้ว “ทำไมถึงเปลี่ยนไปซั่วซี?”
ขอทานก็ทำหน้างง “หลายปีมานี้พวกเรากับซีเย่ว์ต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งกันมันไม่เห็นจำเป็นเลย”
ระหว่างที่พูด เหยียนมู่สวมชุดเกราะเข้ามาแล้ว
เขาผิงไฟที่หน้ากระถางไฟก่อน จากนั้นรับสิงอี้จากหลิวอวิ๋นเซียงที่อุ้มอยู่ โน้มตัวไปหอมแก้มลูกสาวแล้ว
“ข้าจะไปซั่วซีแล้ว แต่ก่อนจะไป” เหยียนมู่หันไปมองหลิวอวิ๋นเซียง “ข้าทำการค้าหนึ่งกับเจ้า”
เหยียนมู่กลัวเกราะบนตัวจะทำให้สิงอี้หนาว จึงวางสิงอี้บนเตียงอุ่น จากนั้นไปถอดเกราะหลังฉากกั้นลม
สาวน้อยนั่งได้แล้ว เตะขาน้อยอย่างมีความสุข ผลปรากฏว่าได้ใจจนลืมตัว ร่างเล็กหน้าหงายล้มไปบนหมอนแล้ว
“ตายแล้ว ทำไมล้มแบบนี้” หลิวอวิ๋นเซียงรีบประคองสาวน้อยขึ้นมา
เหยียนมู่ถอดเกราะกลับมาแล้วอุ้มลูกสาวอีกครั้ง แต่สาวน้อยเบะปาก น้ำตาไหลเป็นทางแล้ว
“เป็นอะไร?” เหยียนมู่ถามเสียงอ่อนโยน
ปรากฏว่าสาวน้อยร้องหนักกว่าเดิมแล้วมุดหน้าไปในอ้อมกอดของเหยียนมู่ เหมือนถูกรังแกหนัก
เหยียนมู่อดมองไปทางหลิวอวิ๋นเซียงไม่ได้ หลิวอวิ๋นเซียงก็งงเล็กน้อย แต่คิดทบทวน หรือหน้าหงายเมื่อครู่แล้วตกใจ?
คงไม่ใช่หรอก ปกติขอทานดูแลนางก็โยนสูงตลอด สาวน้อยก็ไม่กลัวยังหัวเราะอย่างมีสนุกสนาน
สาวน้อยเหมือนกับลูกบอลเนื้อขนาดเล็กลูกหนึ่ง ทั้งขาวและเด้ง เมื่อร้องไห้หน้าก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูแล้วเหมือนลูกท้อยักษ์หนึ่งลูก และยิ่งโอ๋นางก็ยิ่งร้องไห้หนัก สะอึกสะอื้นจนไม่เป็นเสียงแล้ว
เหยียนมู่ปวดใจรีบอุ้มเดินเป็นวงกลม “สิงอี้บอกพ่อมาใครรังแกเจ้าแล้ว?”
ที่จริงสาวน้อยอายุหนึ่งขวบสามเดือนแล้ว ฉลาดมาก และเข้าใจคำพูดของเหยียนมู่ด้วยยื่นมือน้อยชี้ไปทางหลิวอวิ๋นเซียงแล้ว
หลิวอวิ๋นเซียงเลิกคิ้ว “ข้าเคยรังแกเจ้าที่ไหน?”
สาวน้อยบีบจมูกน้อยทำเสียงเหอะ ๆ ใส่หลิวอวิ๋นเซียง เห็นได้ชัดว่ามีที่พึ่งแล้ว ใจกล้าขึ้นแล้ว
หลิวอวิ๋นเซียงทบทวนอีกครั้งพอจะเดาได้แล้ว “หรือเพราะเมื่อครู่เจ้าหน้าหงาย ข้าประคองเจ้าขึ้นแต่ไม่ได้โอ๋เจ้า?”
สาวน้อยมุดหน้าไปที่หน้าอกเหยียนมู่ ดวงตากลมโตแวววาวจ้องหลิวอวิ๋นเซียง “เหอะ!”
“หา สิงอี้เจ้าเก่งขึ้นแล้ว” หลิวอวิ๋นเซียงพูดด้วยรอยยิ้ม


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน