เฉียวเหลียนเหลียนไม่สนใจสิ่งเหล่านี้
เธอบอกหานจ้าวและออกไปซื้ออาหารกลับบ้าน ลูกชายคนโตต้องสอบ เขาจึงต้องกินข้าว
หานมู่ตะโกนอย่างไม่เต็มใจ “คุณเฉียว คุณต้องพาผมไปด้วยนะ”
จากนั้นหานจ้าวก็บิดหูเขาและพาเขากลับ
เฉียวเหลียนเหลียนแบกตะกร้าแล้วเดินไปที่ธนาคารเมืองซีหยาง
แน่นอนว่าเธอไม่ฝากเงินหรอก
ฝากเงินไว้ที่คนอื่นไม่ปลอดภัย เอาไว้กับตัวเองสบายใจกว่า
เช่น โยนเงินพวกนี้ไว้ที่ห้องทดลองของเธอ
เพียงแค่คิดเงินสี่ร้อยตำลึงก็หายไปในทันใด ไม่มีใครเชื่อหรอก ดังนั้นเฉียวเหลียนเหลียนจึงเดินไปรอบๆ ธนาคาร จากนั้นก็ซ่อนตัวในตรอกอันเงียบสและหยิบตะกร้าไม้ไผ่ใบเล็กๆ ขึ้นมา
หลังจากผ่านไปแล้ว เงินสี่ร้อยตำลึงก็ไปรวมกับเงินหนึ่งร้อยตำลึงแล้วก็หายไปอยู่ในห้องทดลอง
เฉียวเหลียนเหลียนหลับตาลง จากนั้นความคิดของเธอก็เปลี่ยนไป และเธอก็แปลกใจที่พบว่าเธอสามารถเห็นภาพทั้งหมดในห้องทดลองได้
แต่ก่อนภาพเหล่านั้นแค่ตัดไปมา เพียงเพราะเธอคุ้นเคยกับห้องทดลองเป็นอย่างดี เธอจึงอาศัยความทรงจำสร้างมโนภาพขึ้น แต่ก็ไม่เหมือนกับเห็นด้วยตาตัวเอง
เธอมองดูการออกแบบที่ทันสมัย ขนมปังที่บรรจุห่อ แก้วที่ใส่น้ำจนเต็ม และเมื่อหลับตาลงทุกอย่างก็มีแต่ความว่างเปล่า
เฉียวเหลียนเหลียนถอนหายใจ นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้สัมผัสกับความทันสมัย?
เธออาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน หากไม่ใช่เพราะมีห้องทดสองหนึ่งห้อง เธอคงคิดว่าเธอเป็นคนสมัยราชวงศ์
ความคิดของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในห้องทดลอง และเธอก็เห็นข้าวและบะหมี่ที่เธอเก็บเอาไว้ในตอนแรก จำได้ว่าตอนนั้นเธอพากู้เกอมาด้วยและซื้อของค่อนข้างเยอะ
ใครจะรู้ว่าเด็กๆ ในครอบครัวนี้ฉลาดเกินไป เฉียวเหลียนเหลียนกลัวความลับจะหลุดรอด เธอจึงไม่ได้เอาของออกมาจากห้องทดลอง
ของเหล่านั้นก็เลยตกหล่นอยู่ในห้องทดลอง
จู่ ๆ ก็มีความคิดผุดออกมาจากใจของเฉียวเหลียนเหลียน
เธอรู้มาตลอดว่าของในห้องทดลองกำลังถูกนำมาใช้ และเมื่อผ่านไปซักระยะหนึ่งก็ถูกเติมเต็มอัติโนมัติ แล้วสิ่งที่เธอเพิ่งเอาเข้าไปหล่ะ? จะถูกเติมเข้าไปอัตโนมัติหรือไม่?
ถ้าเป็นเช่นนั้น เงินที่เธอใส่เข้าไปหล่ะ...
ด้วยความตื่นเต้น เฉียวเหลียนเหลียนจึงหยิบเส้นบะหมี่ออกมาโยนลงในตะกร้าไม้ไผ่
แล้วไปดูที่ห้องทดลอง
ไม่มีเส้นบะหมี่ปรากฏ
เฉียวเหลียนเหลียนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเฉพาะห้องทดลองเดิมของเธอเท่านั้นที่จะเติมเต็มโดยอัตโนมัติ
เธอแบกข้าวกับบะหมี่ไว้บนหลัง แล้วเดินออกไปช้าๆ
พอเดินไปที่ปากซอยก็ได้ยินเสียงดังขึ้น “ฉันเห็นผู้หญิงคนนั้นมาแถวๆธนาคาร เธอไง ผงอร่อยนั้นเธอเป็นคนทำ ผงอร่อยที่เป็นเหตุให้อาหารเป็นพิษต้องเป็นเธอทำมันแน่ นอกจากเธอแล้วไม่มีใครทำเป็น”
“ไปหามา นำตัวเธอมาได้ ภัตตาคารหยุนซีจะไว้ชีวิตแก” ใครบางคนกล่าว
“ได้ ฝากขอบคุณหุ้นส่วนด้วย ขอบคุณมาก” คนแรกกล่าวขอบคุณ
เฉียวเหลียนเหลียนหยุดในใจ ถอดตะกร้าไม้ไผ่ลงเพื่อใช้เป็นอาวุธ และมองไปข้างหน้าอย่างตื่นตัว
เพียงไม่กี่ลมหายใจ คนไม่กี่คนก็เดินเข้ามาพร้อมกับไม้เท้า
ดวงตาของพวกเขาทั้งหมดจับจ้องอยู่ที่ใจกลางของตรอก พวกเขายังคงอยู่ตรงทางเข้าออก เมื่อเห็นเธอปรากฏตัวขึ้นพวกเขาก็ตกใจ
เฉียวเหลียนเหลียนใช้โอกาสนี้เขวี้ยงตะกร้าไม้ไผ่และบะหมี่ลงพื้น
เธอไม่รู้สึกเจ็บปวด เธอหยิบบะหมี่ขึ้นมาแล้วโยนขึ้นในอากาศ ผงสีขาวก็ลอยขึ้นไปบนฟ้า พวกคนเหล่านั้นถูกบังคับให้หลับตาโดยปริยาย
เฉียวเหลียนเหลียนหยิบแว่นกันฝุ่นออกมาจากห้องทดลองและสวมใส่มัน จากนั้นก็เดินไปด้านหน้า
“หยุดนะ ผู้หญิงคนนี้กำลังจะหนี” ทันใดนั้นมีคนตะโกน
เฉียวเหลียนเหลียนขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าคนพวกนี้จะมีความสามารถจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า
ตอนที่ 21-25 เนื้อหาหายไปค่ะรบกวนแก้ไขให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...
ลุ้นๆๆๆ ขนมอบต้องมา...
รัททายาทเป็นพ่อที่เลวมากๆ...
สนุกๆ รอตอนต่อไปค่ะ...
เริดๆๆ...
รอต่อค่าาา...
หลงเมียน้อยจนทำร้ายเมียเอก แถมลูกๆต้องกลายเป็นคนตายทั้งหมดอีก พอมาเจอก็สงสัยอีกว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง ไม่ควรเป็นพ่อใครเลยจริงๆ...
gเอาล่ะสิๆๆ...
ง้อเมียว่ายาก ง้อลูดยากที่สุด 5555...
คนไม่ซื่อสัตย์...