ณ ด้านหน้าสำนักศึกษา
หยูเยียนเอ๋อร์หันศีรษะของเธอ แล้วมองไปที่กู้เฉิงด้วยรอยยิ้ม และรอเขาบอกชื่อตัวเอง
เธออายุเพียงสิบขวบต้นๆ ดูน่ารัก และแต่งตัวดี คนรอบข้างเธอต่างละสายตาจากเธอไม่ได้
กู้เฉิงไม่ได้มองเธอ แต่หันศีรษะและมองตรงไปยังระยะไกลอย่างไม่แยแส
หยูเยียนเอ๋อร์ขมวดคิ้ว
นี่ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ สิบวันก่อนเขาแสดงความเมตตาต่อเธอ แต่ทำไมวันนี้เขาถึงเฉยเมยขนาดนี้ ?
"เฮ้" เธอตะโกนอีกครั้ง "ทำไมนายไม่สนใจฉัน นายปฏิบัติต่อสาว ๆ แบบนี้หรือ ?"
กู้เฉิงหันศีรษะ มองเธออย่างเฉยเมย แล้วมองไปทางอื่น "เราไม่เคยรู้จักกัน ผมจึงไม่สะดวกที่จะตอบ"
"นาย..." หยูเยียนเอ๋อร์รู้สึกหงุดหงิด "นี่เป็นครั้งที่สองที่เราพบกัน เราเป็นคนแปลกหน้าที่ไหน ?"
เธอพึมพำอย่างสงสัย “นายจำไม่ได้เหรอว่าฉันเป็นใคร ? ฉันเป็นคนที่บังเอิญชนนายไง ? ”
กู้เฉิงขมวดคิ้ว "นั่นไม่สำคัญ"
“แล้วอะไรสำคัญ ?” หยูเยียนเอ๋อร์เบิกตากว้าง
แน่นอนว่าแม่สำคัญกว่า
กู้เฉิงไม่ได้พูดออกไป เขาเม้มปากและพูดอย่างใจเย็นว่า "คุณกับผมเพิ่งพบกันเป็นครั้งที่สองเท่านั้น ไม่เหมาะสมที่จะบอกชื่อ ขออภัยด้วย สาวน้อย"
เขากล่าวขอโทษ แต่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเฉยเมย
เห็นได้ชัดว่าเขาเองไม่ต้องการบอกชื่อ !
หยูเยียนเอ๋อร์โกรธมาก โกรธจนเธอไม่อาจก้มหน้าและอยู่ที่นีต่อไป ดังนั้นเธอจึงได้แต่กระทืบเท้า หันหลังกลับ และจากไปด้วยความโกรธ
กู้เฉิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในความเป็นจริง เขารับมือกับสาวน้อยเจ้าอารมณ์ไม่เก่งนัก ดังนั้นเขาจึงได้แต่ปฏิบัติกับเธอด้วยสีหน้าเย็นชา หวังว่าเธอจะจากไป
ใครจะรู้ว่าหยูเยียนเอ๋อร์มีไพ่อีกใบ
“ถ้านายไม่บอกชื่อ ฉันจะดูเอง” หลังจากเดินไปได้สองก้าว จู่ ๆ เธอก็หันหน้ามา เธอมองไปที่ท้ายสุดของรายชื่อ แล้วพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “หมายเลข 34 ใช่แล้ว ดูหน่อยซิ ชื่อ... กู้เฉิง”
เธอหันศีรษะและกระพริบตาอย่างเจ้าเล่ห์ "ฉันรู้จักชื่อนายแล้ว นายชื่อกู้เฉิง ส่วนฉันชื่อหยูเยียนเอ๋อร์ โปรดจำไว้"
หลังจากพูดจบ ดูเหมือนเธอจะกลัวว่ากู้เฉิงจะพูดอะไรต่อ เธอจึงเอามือไพล่หลังแล้ววิ่งหนีไปเหมือนผีเสื้อตัวน้อย
กู้เฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย และมองไปที่เฉียวเหลียนเหลียนอย่างเป็นกังวล
ตามที่คาดไว้ สีหน้าของแม่เลี้ยงแย่มาก
เฉียวเหลียนเหลียนไม่คิดมาก่อนว่าเด็กหญิงอายุสิบขวบต้น ๆ จะเป็นเจ้าเล่ห์ ฉลาด ร่าเริ่งและกล้าได้กล้าเสีย ในขณะเดียวกันก็มีสัดส่วนที่น่ารัก
พูดตรง ๆ ถ้าไม่รู้ตอนจบไว้ล่วงหน้า บางทีฉันอาจจะชอบนางเอกคนเดิมก็ได้
น่าเสียดาย
“เฉิงเอ๋อร์ ผู้หญิงคนนี้กล้าหาญเกินไปจริง ๆ ติดต่อกับเธอให้น้อยลงดีกว่า” เฉียวเหลียนเหลียตัดสินใจลงมือล้างสมองลูกชายคนโตก่อน
“ใช่ หนูก็ไม่ชอบเธอเหมือนกัน ทำไมถึงต้องอยากรู้ชื่อพี่ของหนู และทำไมพี่ของหนูต้องรู้ชื่อเธอด้วย” กู้เชวี่ยอารมณ์เสียเช่นกัน
กู้เฉิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "แม่ เชวี่ยเอ๋อร์ ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่ยุ่งกับเธออย่างแน่นอน"
ด้วยความมั่นใจในระดับนี้ ทั้งแม่และลูกสาวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
กู้เฉิงเข้าเรียนที่สำนักศึกษา และมีผลการเรียนดีขึ้นดังนั้นจะต้องมีการเฉลิมฉลอง
สาว ๆ กำลังเดินไปที่ลานบ้านอีกหลัง และพูดคุยกันว่าจะกินอะไรดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า
ตอนที่ 21-25 เนื้อหาหายไปค่ะรบกวนแก้ไขให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...
ลุ้นๆๆๆ ขนมอบต้องมา...
รัททายาทเป็นพ่อที่เลวมากๆ...
สนุกๆ รอตอนต่อไปค่ะ...
เริดๆๆ...
รอต่อค่าาา...
หลงเมียน้อยจนทำร้ายเมียเอก แถมลูกๆต้องกลายเป็นคนตายทั้งหมดอีก พอมาเจอก็สงสัยอีกว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง ไม่ควรเป็นพ่อใครเลยจริงๆ...
gเอาล่ะสิๆๆ...
ง้อเมียว่ายาก ง้อลูดยากที่สุด 5555...
คนไม่ซื่อสัตย์...