ตระกูลกู้มีลูกชายสามคน
ลูกชายคนโตกำลังศึกษาระดับซิ่วไฉ โดยหวังว่าจะเป็นผู้ถูกคัดเลือกให้เป็นชุนเหว่ยรอบหน้า
ลูกชายคนสุดท้องกำลังศึกษาอยู่ที่สำนักศึกษาย่อย และคาดว่าจะสามารถสอบระดับต้นผ่านในปีนี้
เหลือเพียงเด็กอ้วนตัวน้อยอีกหนึ่งคนซึ่งเดิมเรียนศิลปะการต่อสู้กับปี้ซงและเจียงชุน แต่ตอนนี้ทั้งคู่มีงานที่ต้องทำ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถสอนเด็กอ้วนกู้โหลวได้
โชคดีที่นี่คือเมืองหลวง แม้ว่าจะไม่มีสำนักศิลปะการต่อสู้มากเท่ากับโรงเรียนเอกชน แต่ก็ไม่น้อยเกินไป
เฉียวเหลียนเหลียนพบสำนักศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงแล้ว และตั้งใจส่งเด็กอ้วนตัวน้อยไปเรียน
เด็กอ้วนตัวน้อยที่น่าสงสารเอาแต่ร้องไห้ แต่ก็ต้องไปเรียน
ตอนนี้ในบ้านมีเพียงแม่และลูกสาว กู้เชวี่ยมีเหตุผลและฉลาด ส่วนกู้เกอเป็นเด็กน่ารัก เฉียวเหลียนเหลียนรู้สึกสบายใจ
สิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยก็มีเพียงจี้หยุนชูที่ตามติดเฉียวเหลียนเหลียนอย่างใกล้ชิด
ชายคนนี้เหมือนน้ำตาลก้อนหนึ่ง คอยเกาะติดเธอตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ปรารถนาที่จะอยู่เคียงข้างเธอ ยกเว้นในยามหลับใหล
เขาซักผ้า ทำอาหาร และจัดสวน ไม่เคยห่างกายเลย
ในที่สุด เฉียวเหลียนเหลียนก็ทำอะไรไม่ถูก "คุณไม่มีอะไรทำเหรอ ?"
หากกจี้หยุนชูเป็นคนธรรมดาไม่มีอะไรทำ เธอสามารถเข้าใจได้
แต่เขาเป็นถึงอ๋องแห่งชิงผิงผู้สง่างาม เขาบอกว่าไม่มีอะไรจะทำ คงเป็นไปไม่ได้
"แน่นอน" จี้หยุนชูเลิกคิ้ว ไม่เพียงแต่เขามีเรื่องต้องทำเท่านั้น เขายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ เห็นแก่เฉียวเหลียนเหลียน เขาจึงเก็บทุกอย่างไว้ทำเวลากลางคืน
สวรรค์รู้ดีว่าทุกครั้งที่เขากลับมาจากหอสานรัก เขาจะต้องต่อสู้ในตอนกลางคืนนานแค่ไหน ?
แต่ไม่เป็นไร ตราบใดที่เขาสามารถยืนเคียงข้างเฉียวเหลียนเหลียน และได้มองดูรอยยิ้มของเธอได้ ไม่ว่าจี้ว่างชูจะเหนื่อยแค่ไหนก็คุ้มค่า
บริเวณหอสานรักมีลมพัดอ่อน ๆ จี้หยุนชูยิ้มกับตัวเอง
วินาทีต่อมา เฉียวเหลียนเหลียนก็ตะโกนเสียงดังทำให้ร่างกายของเขาแข็งทื่อ และรอยยิ้มของเขาก็เลือนหายไป
“มีเรื่องต้องสะสางก็ไปทำสิ ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ตลอดเวลา” หญิงสาวพูดเบา ๆ “พวกเรายังมีงานต้องทำ ไม่มีเวลาคอยต้อนรับคุณหรอก"
จี้ว่างชูมุมปากกระตุก และในที่สุดเขาก็พูดว่า "ไม่ต้องต้อนรับผมหรอก เพราะผมคุ้นเคยกับที่นี่ดี"
“แต่จะอยู่ที่นี่ตลอดเวลาก็ไม่ใช่” เฉียวเหลียนเหลียนนึกขึ้นได้ว่าที่นี่คือจวนของเขา น้ำเสียงของเธอจึงสุภาพขึ้นเล็กน้อย "ท่่านอ๋องไปทำธุระของท่านเถิดเพคะ เราแม่ลูกอยู่นี่สุขสบายดี ไม่จำเป็นต้องดูแลทุกวัน"
จี้ว่างชูเม้มปากและนิ่งเงียบ
กู้เชวี่ยมองไปที่พ่อและมองไปที่แม่ของเขา เธอจึงรีบพูดว่า "พ่อ ถ้าพ่อมีงานที่ต้องสะสาง พ่อก็ไปทำเถอะ พ่อค่อยมาหาเมื่อเสร็จงานแล้ว ดีกว่าอยู่ที่นี่ตลอดเวลา ถ้าพ่อไม่รีบไป แม่จะรู้สึกผิดกว่านี้”
คำพูดนี้เป็นคำพูดที่ฉลาด และสวยงาม
ดวงตาของจี้ว่างชูเป็นประกาย เขาชำเลืองมองลูกสาวคนโตด้วยความชื่นชม พยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินออกไป "งั้นพ่อไปทำงานก่อน ทำเสร็จแล้วจะมาหาใหม่ "
เฉียวเหลียนเหลียนถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก "เดินทางโดยสวัสดิภาพเพคะ ท่านอ๋อง"
จี้ว่างชูลูบศีรษะของลูกสาวคนโตจากนั้นกอดเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่น่ารัก และเดินไปที่ประตูบ้านอย่างไม่เต็มใจ
เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะต้องทำงานของตนเองให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อมารับประทานอาหารกลางวัน
แต่ใครจะรู้ล่ะว่าสวรรค์ไม่เป็นใจ
ทันทีที่ไปถึงหน้าประตูหอสานรัก เจียงชุนก็วิ่งมาหา "นายท่าน องค์รัชทายาทเชิญเข้าพบ"
เรื่องธรรมดา ๆ ไม่อาจบอกด้วยวาจาได้
ผู้ที่สามารถแจ้งให้คนมาเชิญเขาโดยเฉพาะนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่
จี้หยุนชูขมวดคิ้วเล็กน้อย และมองไปที่หอสานรักอย่างเป็นกังวล "เจียงชุน ฉันจะไปที่พระราชวังตะวันออกก่อน นายอยู่ที่นี่ดูแลคุณผู้หญิงและเด็ก ๆ ถ้าใครมาหารายงานทันที "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า
ตอนที่ 21-25 เนื้อหาหายไปค่ะรบกวนแก้ไขให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...
ลุ้นๆๆๆ ขนมอบต้องมา...
รัททายาทเป็นพ่อที่เลวมากๆ...
สนุกๆ รอตอนต่อไปค่ะ...
เริดๆๆ...
รอต่อค่าาา...
หลงเมียน้อยจนทำร้ายเมียเอก แถมลูกๆต้องกลายเป็นคนตายทั้งหมดอีก พอมาเจอก็สงสัยอีกว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง ไม่ควรเป็นพ่อใครเลยจริงๆ...
gเอาล่ะสิๆๆ...
ง้อเมียว่ายาก ง้อลูดยากที่สุด 5555...
คนไม่ซื่อสัตย์...