ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า นิยาย บท 265

เสียงของไก่ขัน แสงแรกของรุ่งอรุณสาดส่องเข้ามาในเรือน

หยาจื่อเปิดหน้าต่างออก ส่วนฉินจือเก็บผ้าม่านเตียง แสงที่ทั้งพร่ามัวและอ่อนกลับสอดส่องลงมาที่ใบหน้าของเฉียวเหลียนเหลียน

ขนตายาวขยับเล็กน้อย ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน

เมื่อคืนพลิกตัวไปมาจนค่ำจนผล็อยหลับ เธอฝันดีมากเมื่อคืน

ในฝันพวกเขาทั้ง 7 คนอยู่ด้วยกันที่หมูบ้านกู้เจีย มีป้าหลิวผู้ใจดี พี่ชายรองหลิว พี่สะใภ้รองและเหล่าหลานตัวน้อยๆของพวกเขา

ทั้งหมดล้วนมีแต่ความสุข

แต่แล้วแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาก็ปลุกเธอ ทุกอย่างเป็นเหมือนกระจกที่แตกเป็นเสี่ยงๆ จนรอยร้าวที่แหลกละเอียด

เฉียวเหลียนเหลียนตื่นแล้ว

เมื่อเธอลืมตาขึ้น เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน

เมื่อว่าฝันเมื่อครู่มันเป็นความจริงทั้งหมด ความสุขและความหอมหวานนั่น แม้จะตอนนี้จะตื่นแล้วแต่ก็รู้สึกเหมือนความรู้สึกนั้นมันฝังลงไปในกระดูก เธอรู้สึกถึงได้ทุกครั้งที่นึกถึง

เฉียวเหลียนเหลียนถอนหายใจด้วยความผิดหวัง

จนกระทั่งเสียงของลูกชายที่อยู่ด้านนอกดังเข้ามา

เธอลุกขึ้นมานั่งกับเตียง

"เกิดอะไรขึ้นกับโหลวเอ๋อ เกิดเรื่องอะไรขึ้น"

ขณะที่ฉินจื่อเข้ามาสวมเสื้อให้เธอพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย

"นี่เป็นถึงจวนของท่านอ๋อง จะเกิดอะไรขึ้นได้ล่ะเจ้าคะ ฮูหยินวางใจเถอะเจ้าค่ะ"

ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่เฉียวเหลียนเหลียนก็ยังไม่วางใจ

ทันทีที่แต่งตัวเสร็จก็รีบไปเปิดประตูทันที

ภาพตรงหน้าเป็นภาพที่สวยงามที่สุดในชีวิตเธอ

แสงแดดเหลืองอ่อนที่แสนสะอาดและอบอุ่น

ลูกชายคนโตที่นำมือไพล่หลังคล้ายกับต้นไม้ใหญ่ที่รากฝักลึกลงกับดินแน่น

ลูกสาวคนรองที่ยิ้มอย่างขี้เล่น ในมือถือลูกขนไก่ที่เฉียวเหลียนเหลียนทำขึ้นมาให้เธอ ขาเล็กนั่นวิ่งอย่างซุกซน

ลูกชายสามในตอนนี้เป็นเหมือนเสือดาวตัวเล็ก ๆ วิ่งวนรอบพี่ชายและน้องสาวไปมาและก็คำรามอย่างมีความสุข

ลูกชายสี่นั่งบนเก้าอี้หวายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ในมือถือหนังสืออยู่ม้วนหนึ่ง จ้องมองไปที่พี่น้องของเขา

และสุดท้ายลูกสาวคนเล็กที่วิ่งไล่ตามพี่สาวที่ถือลูกขนไก่ ทั้งวิ่งและยิ้มในขณะเดียวกัน เสียงหัวเรานั่นทั้งชัดเจนและคมชัดเหมือนระฆังเงิน

มันช่างงดงามเสียจริง

เฉียวเหลียนเหลียนยืนอยู่ที่ประตู ในตอนนี้สมองของเธอเริ่มจดจำภาพตรงหน้าและจำมันไว้อย่างไม่มีทางลืม

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ต่อให้เธอจะกลายเป็นคุณยายและเด็กๆนั้นเติบใหญ่ เฉียวเหลียนเหลียนคนนี้ก็จะยังจำภาพที่งดงามและน่าประทับใจนี้ได้และยังจำความรู้สึกที่สั่นสะท้านจนไม่สามารถมีอะไรมาแทรกแซงนี้ได้

ในเวลานี้หยูเฟยเฉิงหันมาเห็นเฉียวเหลียนเหลียน เขาหันหน้ามาส่งยิ้มพร้อมกับส่งเสียงเรียก

"ท่านแม่"

เสียงเรียกนี้มันช่างอัศจรรย์จริงๆ

หยูเฟยเชว่ที่กำลังเตะขนไก่ พี่สาวหยูเฟยเชว่ที่กำลังเล่นซ่อนหากับพี่สาว ทุกคนล้วนหยุดนิ่งและหันศรีษะไปพร้อมกัน

เมื่อมองเห็นเฉียวเหลียนเหลียนยืนยิ้มอยู่ที่หน้าประตู เด็กสาวสองคนก็วิ่งไปหาพร้อมทั้งน้ำตา

"ท่านแม่ ฮึก ข้าคิดถึงท่าน คิดถึงท่านจนนอนไม่หลับเลย"

"ท่านแม่ เมื่อวานท่านแม่ไม่ได้นอนกอดเกอเอ๋อเลย ฮือ"

ถ้าจะให้พูดว่าเด็กผู้หญิงนั้นแตกต่างจากเด็กผู้ชาย ดูทั้งเจ้าเด็กสามคนนั่น ยกเว้นกู่โหลวที่มีอารมณ์อ่อนไหวเล็กน้อย ลูกชายคนโตและลูกชายคนที่สี่กลับไม่แสดงออกเลยสักนิด มีเพียงหางตาของพวกเขาที่ดูแปลกไปเล็กน้อย

เมื่อมองที่เด็กสาวสองคนที่อยู่ในอ้อมแขนทั้งคู่ในตอนนี้นั้นก็เหมือนน้ำก็อกที่เปิดอยู่ เฉียวเหลียนเหลียนก็ทำอะไรไม่ถูก

"เอาล่ะๆ ไม่ร้องๆ"เธอปลอบคนโตเสร็จก็ปลอบคนเล็กต่อ แต่ทว่าเด็กสาวทั้งสองคนก็ยังไม่หยุดร้อง เฉียวเหลียนเหลียนหมดหนทางจึงได้แต่ส่งสายตาไปยังจี้อวิ๋นชู

อวิ๋นชูไม่ได้กล่าวอะไร

เมื่อครู่พวกเจ้าแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันก็ทำราวกับข้าเป็นอากาศ ตอนนี้กลับเริ่มเรียกหา

ข้าไม่สนใจหรอก!

เขาตะโกนในใจพลางหันศรีษะเล็กน้อย ทำเป็นไม่เห็นเฉียวเหลียนเหลียนขอความช่วยเหลือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า