คลั่งรักร้ายนายวิศวะ นิยาย บท 10

สรุปบท Chapter 9 สะดุดเป็นเหตุ: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ

อ่านสรุป Chapter 9 สะดุดเป็นเหตุ จาก คลั่งรักร้ายนายวิศวะ โดย Kim Nayeol

บทที่ Chapter 9 สะดุดเป็นเหตุ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Kim Nayeol อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ด้านริวในจังหวะที่ผมวิ่งมาเตะลูกฟุตบอตส่งให้ไอ้เรียวตะนั้น สายตาผมเสมองออกไปยังลูกบอลที่วิ่งออกไปที่ขอบสนาม ผมถึงกับชะงักเพราะไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอกับยัยขี้เมาที่นั่งเชียร์พวกผมอยู่ขอบสนาม ผมสบตากับใบหน้าสวยของยัยนั้นเข้าอย่างจัง ริวเสมองเจนิสอย่างไม่ยอมละสายตาจนกระทั่ง

!! ปิ๊ด ปิ๊ด !! จากนั้นเสียงนกหวีดก็ดังขึ้น

"หมดเวลาในครึ่งแรก" เสียงประกาศจากกรรมการ ผมจึงยอมละสายตาออกจากใบหน้าของเธอ

ด้านเจนิส อ่า...เมื่อกี้เราสบตากันฉันปฏิเสธผู้ชายคนนั้นไม่ได้เลยว่าเขาหล่อและเท่มาก เล่นเอาซะฉันเองถึงกับเสียอาการไปชั่วขณะ จู่ๆ ภาพที่เราร่วมเตียงกันในคืนนั้นก็วิ่งเข้ามาในหัวของฉันถึงกับรู้สึกหน้าแดงขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่ตนนอนด้วยนั้นอยู่ในสนามนี้ด้วย

"แก...เจ ยัยเจนิส" เสียงเรียกของยัยเฟย์ทำเอาฉันถึงกับสะดุ้งตัวขึ้นมา

"ฉันเรียกแกตั้งนาน เป็นไรป่าว นั่งใจลอยไปได้" เฟย์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้แต่เสมองใบหน้าของเจนิสด้วยท่าทีสงสัย หรือที่เพื่อนเป็นแบบนี้เพราะไอ้เลย์กัน

"ป่าว ฉันไม่เป็นไร" ฉันรีบตอบยัยเฟย์ด้วยสีหน้าปกติทั้งที่ในใจตอนนี้ในใจฉันตื่นเต้นมาก ถึงกับใจเต้นโครมคราม

"พักครึ่งแรกแล้วไปห้องน้ำกันไหมแก" ยัยเฟย์และยัยน้ำอุ่นลุกขึ้นยืนและหันมาถามฉัน

"ไปดิฉันกำลังปวดฉี่อยู่พอดี" จากนั้นพวกฉันก็เดินไปยังห้องน้ำทันทีพอมาถึงห้องน้ำตอนนี้คือคนเยอะมากถ้ารอก็คงจะนาน

"แกฉันว่าคนเยอะอะ เราไปซื้อน้ำกันก่อนค่อยกลับมาเข้าดีกว่าไหม" ยัยน้ำอุ่นเสนอมา

"ก็ได้นะฉันยังทนไหว" เพราะฉันเองไม่ได้ปวดหนักมากนัก

"พวกแกจะไปทนทำไม เดินออกจากซุ้มดอกไม้ข้างหน้าก็ทะลุกับตึกวิศวะ ไปเข้าที่นั้นกัน" ยัยเฟย์ที่รู้ดีกว่าใครนั้นว่ามา จากนั้นพวกฉันก็เดินตามเพื่อนไปทันที

ฉันผู้ที่ไม่ค่อยได้ไปที่คณะไหนเลยนอกจากบริหารนิเทศและก็ตึกหอสมุดที่ฉันมักจะสิงตัวอยู่ที่นั้น แต่ขณะที่พวกเราเดินเข้ามายังตึกคณะวิศวะ กับมีสายตาหลายคู่ที่จ้องมาทางพวกฉัน นี่ไงที่ฉันไม่ค่อยอยากจะไปที่คณะอื่น ไม่ใช่ว่าสวยหรืออะไรหรอกนะ แต่เข้าใจไหมคณะที่มีผู้หญิงน้อยๆ พอมีสาวๆ หน้าใหม่ๆ เดินหลงเข้ามาก็จะตกเป็นเป้าสายตาและถูกแซวขึ้นมาทันที ซึ่งตอนนี้มีหนุ่มๆ นั่งส่งยิ้มและเอ่ยแซวพวกฉันมาราวๆ ประมาณสิบคน ที่นั่งรวมกันเป็นกลุ่ม แต่ดูท่าแล้วยัยเฟย์น่าจะรู้จักใครคนนึงนะ

"เฟย์เธอมาทำไรอะ" ผู้ชายคนนั้นที่นั่งอยู่เดินเข้ามาหายัยเฟย์

"ฉันมาเข้าห้องน้ำนะ ห้องน้ำหญิงคณะนายอยู่ทางไหนเหรอ ตรงนี้ปิดปรับปรุงหนะ" ยัยเฟย์บอกกับผู้ชายคนนั้นไป

"พวกเธอเดินขึ้นไปชั้นสองเดินไปสุดทางจะอยู่ฝั่งขวามือ"

"โอเค ขอบใจนายมาก" ยัยเฟย์เอ่ยจบก็เดินนำหน้าพวกฉันสองคนไปทันที

"อืม...คนสวยเบอร์แปดสิบแปดอะครับ ชื่อไรเอ่ย น่ารักจังเลย" เสียงที่ตะโกนตามหลังพวกฉันเดินมา

"เบอร์แปดสิบแปด ก็แกไงยัยเจ แม๊...พอโสดหนุ่มๆ เนื้อหอม รุมแซวกันเต็มเลยนะยะ" ยัยน้ำอุ่นหันมาว่าให้กับฉัน แต่แล้วไงยัยนี้ยังไม่ชินอีกเหรอ ที่ตัวฉันเป็นพวกไม่สนใจใครแซวไปก็เท่านั้นแหละ หลายคนที่ไม่รู้จักมักคิดว่าฉันหยิ่ง

"โสดแล้วสวยออร่ามาก" ยัยเฟย์ว่ามาอีกเสียง

"เพื่อนไอ้ทอยสงสัยชอบแกแล้ววะเจ มองกันตาเยิ้มเชียว"

"พวกเขาก็มองไปงั้นแหละ มองแค่ฉันที่ไหนกัน มาด้วยกัน พวกเขามองพวกแกสองคนด้วยแหละ" เจนิสเอ่ยกับสองสาวขณะที่ยังเดินขึ้นบันไดและขณะที่หันมองสองสาวนั้นกับก้าวขาพลาดจนแทบจะหงายหลัง แต่ยังโชคดีที่มีร่างสูงของใครบางคนที่เดินลงมาจากชั้นบน สัญชาตญาณของคนที่จะพลัดตกจับเข้าที่แขนแกร่งของคนที่เดินผ่านมาอย่างไม่รู้ตัว เจนิสจับแขนเอาไว้แน่นด้วยความตกใจจับแน่นจนแทบจะกอดร่างสูงเอาไว้

ด้านริวที่เดินลงบันได้มาจากห้องพักพร้อมกับริกและอรัณ ริวที่ถูกร่างบางดึงแขนเอาไว้ถึงกับชักสีหน้าขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ ที่ตนนั้นจะตกบันได

"ขอ...ขอโทษค่ะ" เจนิสเอ่ยพร้อมกับเสมองคนตรงหน้า แต่นั้นใบหน้าหวานกับต้องตกใจอีกครั้ง เพราะคนที่เธอเกาะแขนอยู่นั่นคือผู้ชายที่เธอพลาดมีอะไรด้วยในคืนนั้น

ด้านริวเองก็ตกใจไม่ต่างจากเธอนัก อ่า...เขาคิดว่าเธออยู่สนามซะอีกไม่คิดว่าเราจะเจอกันที่นี่ ทั้งสองสบตากันด้วยไม่รู้ถึงสายตาอีกหลายคู่ของเพื่อนสนิทที่จ้องมองมาที่ทั้งคู่

ด้านริวเองเจนิสแทบจะตกลงบันได ถ้าเธอไม่กระชากแขนผมเอาไว้ ริวเองยิ่งมองใกล้ๆ คนตรงหน้านั้นสวยหวานจับใจ แม่ง...ดึงดูดชิบหาย เห็นว่าเป็นยัยขี้เมาหรอกนะ ถึงยอมให้อภัย

"แต่เมื่อกี้ฉันยังได้ยินพี่ริกเรียกแก ราวกับแกสนิทกับพวกพี่เขาเลยอะ และพี่อรัณก็ยังยิ้มให้แกอีก ปกตินะแก๊งค์นี้นะขึ้นชื่อว่าเสือยิ้ม"

"ใช่มะ...ฉันก็รู้สึกเหมือนกันแก" ยัยเฟย์เอ่ยตามยัยน้ำอุ่นมาอีกเสียง

"ยิ่งสายตาที่พี่ริวเขามองแก เหมือนว่าแกกำลังตกพี่เขาอะ ฉันเห็นที่ริวเขาดึงแกตอนที่แกกำลังจะล่วงนะ อร้าย...ทำไมไม่เป็น ฉันๆ นิปลื้มพี่ริวสุดๆ คนอะไรหล่อดูดีไปหมด ตั้งแต่เข้ามหาลัยมานะแกวันนี้ฉันเห็นใบหน้าเขาชัดและใกล้สุดก็ตอนที่แกจะตกบันไดนิแหละ อ้าก...ฟินเวอร์" ยัยเฟย์ยังทำหน้าเพ้อฝันกับพี่ริวของนางไม่หยุด

"หึ...นิแกไม่ได้ห่วงว่าฉันจะพลัดตกบันไดเลยใช่ไหม ห่วงแต่หน้าหล่อๆของพวกนั้น" ฉันได้แต่มองค้อนให้ยัยเฟย์ไปด้วยความหมั่นใส้

"เอาน่า แกก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว อีกอย่างเป็นแต้มบุญของแกนะที่ได้ใกล้ชิดอกอุ่นๆ ของพี่ริวแบบนั้น"

"ฉันว่าแกอาการท่าจะหนักขึ้นทุกวัน จนแกไม่เป็นห่วงฉันเลย" เจนิสเอ่ยได้แต่ส่ายหน้าให้กับเฟย์ที่คลั่งไคล้พี่ริวอะไรนั้นจนขึ้นสมอง ถ้ายัยเฟย์รู้เรื่องของฉันกับเขาคนนั้นมีหวังฉัน โดนเพื่อนแหกอกแน่

"ยัยเจ นิแกยังตอบพวกฉันไม่ครบเลยนะ แล้วกับพี่ริวของฉันละ แกรู้จักเขาหรือเปล่า"

"ไม่...ฉันไม่รู้จักเขา"

"แต่เมื่อกี้ตอนที่พวกเราขึ้นบันไดมา ฉันเห็นนะว่าพวกเขาเหลียวหลังหันมามองแก" ยัยเฟย์ยังสงสัยไม่หยุด

"ไม่รู้จัก ก็ไม่รู้จักสิ พวกแกนิยังไงกัน" เจนิสแกล้งเอ่ยมาเสียงแข็ง ให้ตายเถอะนอกจากพวกนี้เป็นเพื่อนสนิทฉันแล้ว สองคนนิจะทำหน้าที่เป็นโคนันสืบเรื่องของฉันกับพี่ริวไม่ได้นะ เราตกลงกันแล้วก่อนที่ฉันจะออกจากห้องในวันนั้น แต่ตอนนี้แค่รู้ว่าฉันต้องกลับไปสนามบอลเพื่อดูพวกเขาแข่งฟุตบอลในครึ่งหลังฉันก็ไม่อยากเจอสายตาดุดันของเขาที่เอาแต่จ้องมองฉันแล้วละ

"ทำไมคนที่ฉันพลาดมีอะไรด้วย ต้องเรียนอยู่ในมหาลัยเดียวกับฉันด้วย ฉันอุตส่าห์รู้สึกดีที่ไม่ได้เจอเขาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ไง...วันนี้กลายเป็นเช่นนี้ไปได้ละ โชคไม่ได้เข้าข้างฉันเลยซักนิด

ถ้าบอกว่าเขาจำฉันไม่ได้ เป็นไปไม่ได้แน่นอน คืนนั้นฉันเมา แต่เขานิสิ สติอาจจะไม่ถึงขั้นเต็มร้อย แต่เขาคงไม่เมาหนักเท่ากับฉัน ฉันกลัวว่าเขาจะหลุดปากเอ่ยเรื่องนี้ออกไป ให้ตายเถอะตอนนี้ฉันรู้สึกกังวลมากกว่าเขาจะไม่เก็บเรื่องนั้นเป็นความลับ ถ้าเป็นเช่นนั้นคนที่อายมากที่สุดก็คือฉันเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ