คลั่งรักร้ายนายวิศวะ นิยาย บท 27

สรุปบท Chapter 26 หลุดปากหวง: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ

สรุปเนื้อหา Chapter 26 หลุดปากหวง – คลั่งรักร้ายนายวิศวะ โดย Kim Nayeol

บท Chapter 26 หลุดปากหวง ของ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Kim Nayeol อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ด้านเจนิสร่างบางรู้สึกงัวเงียตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงสามทุ่ม เนื่องจากมีเสียงสมาร์ตโฟนของเธอนั้นดังขึ้นมาปลุกรบกวนเวลานอนของเธอ

Rrrrrrrr

เป็นเบอร์แปลกที่ฉันไม่ได้บันทึกไว้ มือเรียวหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาพร้อมกับปิดเสียง จากนั้นก็ล้มตัวนอนลงต่อ แต่เสียงนั้นก็ยังคงดังขึ้นอีกครั้ง ถ้าโทรเข้าถึงสองรอบไม่ใช่แล้วนะ คนที่โทรมาคงจะเป็นใครซักคนที่รู้จักไม่งั้นคงไม่โทรเข้าถี่ขนาดนี้

[หวัดดีคะ] ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ออกมา

[ออกมาเจอฉันหน่อย] เสียงทุ่มอันคุ้นหูเอ่ยผ่านปลายสายมา นั้นกับทำให้ร่างบางที่งัวเงียถึงกับหายง่วงขึ้นมาทันที เพราคนที่โทรจิกและโทรไม่มีมารยาทเช่นนี้คือริวนั่นเอง

[ฉันไม่ว่าง และกำลังจะนอน แค่นี้นะ] ร่างบางเอ่ยพร้อมจะตัดสาย แต่นั่นริวกับรู้ทันเธอ

[เดินออกมาดูไรที่ระเบียงก่อนสิ ทำไมเธอตากเสื้อฉันได้น่าสงสารขนาดนี้] ริวเอ่ยเสียงเข้มออกมา ร่างบางที่นอนอยู่นั้นถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยท่าทีสงสัย นิอย่าบอกนะว่าตอนนี้เขาอยู่ที่คอนโดของฉัน บ้าแล้วไหม

เมื่อได้ยินคนปลายสายเอ่ยมาเช่นนั้น ร่างบางก็ไม่รอช้า เจนิสเปิดประตูมองจากระเบียงห้องชั้นแปดก็เจอกับร่างสูงในชุดนักศึกษา ชุดที่ริวใส่เมื่อเช้ายืนคุยโทรศัพท์กับเธอ ส่วนมืออีกข้างถือร่มอยู่ในมือยืนข้างกับรถสปอร์ตคันหรูของเขา

"ให้ตาสิ ทำไมเขาถึงมาที่คอนโดฉันอีก" เจนิสพึมพำออกมาแต่นั้นเสียงกับเข้าในสาย ร่างสูงเสมองขึ้นมายังระเบียงห้องขั้นแปดก็เจอกับร่างบางที่ยืนมองมาที่ตน ริวถึงกับยกยิ้มออกมาด้วยความพอใจ

[พี่มาทีนี่ทำไม ถ้าจะมาเอาชุดพี่คืน ตากอยู่ยังไม่แห้ง] ร่างบางเอ่ยผ่านสมาร์ตโฟนแต่สายตายังคงจับจ้องไปร่างสูงในชุดนักศึกษาที่ยืนกางร่มตากฝนที่หน้าคอนโดของเธอ

[ ไม่เป็นไรเอามาเถอะ ฉันจะเอาไปตากเอง เธอช่วยลงเอามาให้ฉันหน่อยสิ] ริวเอ่ยขณะที่สายตายังจับจ้องร่างบางบนระเบียงห้องของเธอ เมื่อเอ่ยกับปลายสายจบ ริวก็กลับเข้าไปนั่งในรถเพื่อรอเจนิส

ด้านเจนิส เขาออกจะรวยล้นฟ้าแค่เสื้อและกางเกงไม่กี่พัน ถึงกับตามมาเอาถึงที่คอนโดของฉัน หึ... ร่างบางหยิบเสื้อยืดและกางเกงของริวพับใส่ที่ถุงกะดาษจากนั้นก็เดินลงไปพบคนที่มารอเธอทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบร่มนั้นติดมือมาด้วยเพราะสายฝนกำลังโปรยลงมา

ร่างบางในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นแสนธรรมดาเดินกางร่มมาหยุดที่รถสปอร์ตคันหรูของริว ด้านริวเมื่อเห็นเจนิสเดินมาหยุดที่หน้ารถของตน ร่างสูงกับเดินสาวเท้าลงมาจากรถ ขณะที่สายฝนยังตกโปรยปรายลงมาอย่างหนัก ริวเดินมาเผชิญหน้ากับเจนิสพร้อมกับเหลือบมองร่างบางขณะที่ยื่นถุงกระดาษในมือนั้นให้กับตน แต่นั้นใช่ว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาจะสนใจสิ่งที่เธอกำลังยื่นให้ ฝ่ามือหนากับจับเข้าที่แขนของเจนิสและในจังหวะนั้นกับเปิดประตูและดันร่างบางนั้นเข้ามาภายในรถของตน

ด้านเจนิสที่ตั้งตัวไม่ทันร่างบางถึงกับตาเปิดกว้างออกมาด้วยความตกใจ เธอไม่น่าหลงกลคนอย่างเขาเลย ไม่ว่าจะพยายามเปิดยังไงริวก็ยังคงล็อคประตูเอาไว้

"นิเปิดเลยนะคนบ้า ชุดพี่ฉันก็ซักมาคืนแล้ว ยังจะอะไรกับฉันอีก" เจนิสเอ่ยพร้อมกับจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลาที่มีหยดน้ำฝนเกาะติดที่ใบหน้าของเขามาด้วยท่าทีไม่พอใจ

"ฉันหิวข้าว ไปทานข้าวด้วยกันแล้วจะกลับมาส่ง" ร่างสูงเอ่ยจบจากนั้นก็ขับรถออกจากคอนโดโดยที่ร่างบางนั้นนั่งหน้าบึ่งด้วยความโกรธจัด

ด้านเจนิสฉันอยากจะซัดหมัดเข้ากับใบหน้าของเขานัก เขาทั้งชอบออกคำสั่ง และโครตจะเผด็จการกับฉัน ร่างบางได้แต่นั่งเคียงคู่ไปกับคนขับด้วยสีหน้าไม่พอใจ ที่ริวนั้นเอาแต่ตามและยังวุ่นวายกับเธอไม่เลิก เจนิสได้แต่นั่งใบหน้าบึ่งตึงและไม่ปริปากเอ่ยคุยกับริวแม้แต่คำเดียว

ร่างสูงเหลือบมองคนตัวเล็กเป็นพักๆ หึ...สงสัยรอบนี้คงจะโกรธเขาจริง เอาแล้วสิยัยหน้าหยิ่งของเขาเกิดมาก็ไม่เคยง้อผู้หญิงที่ไหน แล้วแม่ง ต้องทำยังไงวะ ทำไงได้เมื่อเขานั้นสนใจและอยากนั่งทานข้าวกับเธอ แต่ก็ฟอร์มจัดไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยชวนไปตามตรง ร่างสูงได้แต่ครุ่นคิดภายในใจแต่ก็ไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมา จนกระทั้งขับรถเข้ามาถึงร้านอาหารภัตตาคารสุดหรูแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง

ริวเดินลงจากรถโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ด้านเจนิสร่างบางก็ยังนิ่งนั่งไม่มีท่าทีจะลงจากรถแต่อย่างใด เจนิสเสมองร่างสูงที่ยืนกวักมือเรียกเธอให้ตามเขาไป

!! หึ...นิ อย่าบอกนะว่าเขาจะพาฉันมาทานทีนี่ ให้ตายเถอะ ฉันมองดูสภาพตัวเองฉันจะกล้าเดินเข้าที่ดูหรูหราแบบนี้ได้ยังไงกัน เมื่อเห็นว่ามันหรูหราเกินไปสำหรับคนอย่างฉัน ร่างบางก็ยังเลือกที่จะนั่งนิ่งอยู่ที่รถต่อ

"นิเขาคงไม่ได้หลอกล้อ ปล่อยฉันไว้ที่ร้านนี้คนเดียวใช่ไหม ถ้าเป็นเช่นนั้นฉันไม่ยอมแน่" เจนิสได้แต่นึกคาดโทษคนที่พามา แต่นั่งได้ไม่นานร่างสูงในชุดนักศึกษาก็ตามเข้ามา เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้หายไป

ร่างบางของเจนิสนั่งลงที่โต๊ะ นั่งสับขาไปมา ด้านริวที่เดินเข้ามาในจังหวะนั้นกับมีผู้ชายกลุ่มนึ่งที่นั่งโต๊ะฝั่งตรงข้าม โต๊ะของเจนิสนั่ง ผมมองพวกมันที่เล่นมองใต้โต๊ะจนตาเยิ้ม ส่วนคนของผมก็นั่งโดยท่าทีสบายไม่รู้สึกอะไร

เจนิสมองร่างสูงเดินมาด้วยสีหน้าบึ่งตึงพร้อมกับมองฉันด้วยสีหน้าไม่พอฉัน ต้องเป็นฉันแล้วไหมที่ต้องเป็นฝ่ายไม่พอใจเขาก่อน ฉันมองใบหน้าของคนใจร้ายตรงหน้าจากนั้นเขาก็โยนเสื้อคลุมสีเข้มคลุมลงบนหัวของฉัน

" ให้ตายเถอะคนบ้า นี่เขาเล่นอะไรของเขา ฉันหยิบเสื้อคลุมที่มีกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่บดบังออกจากใบหน้าของฉัน ก็เจอกับสายตาคู่ดุของเจ้าของเสื้อที่มองฉันมา

"มีเสื้อก็คลุมไป เธอจะใส่สั้นอะไรหนักหนา รู้ตัวรู้เปล่าว่าคนอื่นมองไปทั่วทั้งร้านแล้ว" ริวเอ่ยเสียงรอดไรฟันออกมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด

!! อึก...!! ด้านเจนิสที่ได้ฟังจากปากของเขาร่างบางถึงกับสะอึกขึ้นมาทันที แต่นั้นก็ทำทีหน้านิ่ง

"มองไร ฉันมีอะไรให้หน้ามองงั้นเหรอ" ร่างบางเอ่ยมาอย่างไม่คิดจะสนใจ ก็แค่มองไหม...ทำไมเขาต้องทำท่าทีไม่พอใจขนาดนี้ ป่วยการกับแบบเขามาก

"ใครก็ห้ามมอง ฉันหวง" ริวเอ่ยขึ้นมาเสียงดุ และแสดงออกด้วยความหึงหวงกับคนตัวเล็กออกมาอย่างชัดเจน ร่างบางถึงกับชะงัก

!! ตึบ ตึบ !! พร้อมกับหัวใจเต้นรัวอย่างถี่ยิบ

!! เขาเนี้ยนะบอกว่าหวงฉัน!! ร่างบางได้แต่คิดในใจพร้อมกับเบื่องหน้าหนีเมื่อริวนั้นหลุดปากออกมาว่าเขานั้นหวงฉัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ