คลั่งรักร้ายนายวิศวะ นิยาย บท 51

วันต่อมา

ด้านริวและตอนนี้ผมก็ขับรถมาส่งเจนิสที่คอนโดของเธอ จริงๆ ผมตั้งใจจะพาเธอกลับพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ แต่ติดอย่างเดี่ยวคือคุณพ่อไม่สบาย ไอ้ริกโทรตามผมๆ จึงต้องรีบกลับกรุงเทพก่อนกำหนดหนึ่งวัน

ส่วนเจนิสยัยตัวแสบก็เอาแต่นั่งนิ่ง ตั้งแต่ที่เธอก้าวเข้ามาขึ้นเจนิสเธอคุยกับผม ถามคำตอบคำ ที่เป็นเช่นนี่เพราะตื่นมาช่วงเช้าโดนผมจัดหนักไปหนึ่งรอบ โทษฐานที่ไอ้ห่าเลย์แฟนเก่าของเธอยังทีหน้าโทษมาหาเธอ ยัยหน้านิ่งของผมพอเห็นว่ามีคนโทรเข้าเธอก็รับสายทันที มันกล้ามากที่เข้ามายุ่งกับเมียผม แบบนี้จะไม่ให้หงุดหงิดได้ไงครับ เมียทั้งคน

ร่างสูงขับมาจนกระทั้งถึงคอนโด ด้านเจนิสถามว่าฉันโกรธเขาไหม มันก็โกรธนะที่เขากระชากโทรศัพท์ของฉันไปคุยกับเลย์ ไม่ใช่ว่าฉันปิดบังอะไรหรอกนะ เลย์เปลี่ยนเบอร์ใหม่และโทรเข้ามาอีกอย่าง พี่ริวเขาทั้งโกรธและโมโหฉันถึงกับเขวี้ยงสมาร์ตโฟนของจนหน้าจอแตก ไม่พอเขายังขั้นทำเรื่องบ้าๆ จับฉันกดลงบนเตียง แบบนั้นจะไม่ให้ฉันโกรธได้ไง ตั้งแต่ออกมาจากพัทยาฉันคุยกับเขาไม่ถึงสิบคำ

มือเรียวหวังจะเปิดประตูลงจากรถของเขา แต่กับโดยฝ่ามือหนาของริวนั้น จับเอาไว้

"จะไปแบบนี้ โดยที่จะไม่คุยกับฉันเลยหรือไง" เสียงทุ่มเอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก เขาตั้งใจที่จะพาเธอไปเที่ยวเผื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แต่กับกลายว่าเขาและเธอนั้นทะเลาะกัน ยิ่งหนักไปกว่านั้น เจนิสนั้นนิ่งมากๆ ซะเขาไม่เคยเจอเธอในเวอร์ชั่นนี้ นิ่งซะริวเองรู้สึกใจหาย ยอมรับว่าเมื่อเช้าเผลอทำรุ่นแรงกับเธอจนเกินไปแต่เจนิสก็ไม่ควรคุยกับมันทั้งที่เธออยู่กับผม แบบนั้นเลือดบ้าผมก็เดือดสิครับริวเสมองร่างบางแต่นั้นทันกับมีแต่ความว่างเปล่า

"ในเมื่อฉันพูดไปแล้วพี่เองก็ไม่คิดจะฟังฉันๆ เองก็ไม่ทีอะไรจะพูด" เจนิสเอ่ยตัดบท พร้อมกับเสมองใบหน้าของริว เธอรู้สึกผิดหวังมากที่เขานั้นทำรุนแรงกับเธอขณะที่เราอยู่ในโรงแรมด้วยกัน

ด้านริวที่โดนเจนิสมองมาด้วยสีสายตาที่ว่างเปล่าร่างสูงรู้สึกราวกับหัวใจหล่นหาย

!! ปัง !! ร่างบางเดินลงจากรถและเดินเข้าคอนโดไปจนกระทั้งลับตา

!! โธ่...โว้ย ให้มันได้แบบนี้สิ" ร่างสูงได้แต่สบถออกมาอย่างหัวเสียสุดๆ ยอมรับเจนิสเป็นผู้หญิงอีกคนที่เขาแคร์เธอมาก แต่ในเมื่อเขาและเธอพยายามที่จะพูดคุยและปรับตัวจูนเข้าหากันแต่ทุกอย่างมันกับดูแย่ลง

1 สัปดาห์ต่อมา

@มหาลัย

ด้านเจนิสและวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันนั้นมาเรียนช่วงนี้เพื่อนๆ ในกลุ่มแต่ละคนเองก็ดูยุ่งเนื่องจากอีกไม่กี่สัปดาห์ก็เป็นช่วงสอบ แต่ตอนนี้พวกฉันทั้งสี่คน อยู่ที่โรงอาหารของคณะ เนื่องจากเป็นช่วงพักเที่ยงโรงอาหารค่อนข้างแน่น

"แกฉันว่าพวกเราออกไปทานข้างนอกเถอะ คนเยอะไม่มีที่นั่งเลยอะ" ยัยน้ำอุ่นหันมาบอกกับพวกฉัน

"เอา ดิฉันก็เบื่อข้าวที่โรงอาหารแล้วเหมือนกัน" ยัยเฟย์ตอบยัยน้ำอุ่น จากนั้นพวกเราก็เดินมาที่ตึกคณะวิศวะที่เป็นประตูด้านหลังออกไปร้านอาหารแถวหลังมอ แต่ขณะที่ร่างบางเดินมากับเพื่อนๆ นั้น สายตากับสะดุดเข้ากับร่างสูงของริวที่เดินเคียงคู่มากับริก ส่วนข้างกายของริวไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นพี่แป้งพี่สาวของฉันนั้นเอง

ด้านเจนิสที่สบตาเข้ากับทั้งริวและแป้งนั้นร่างบางถึงกับชะงัก ตั้งแต่ที่กลับมาจากพัทยานี้ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ริวและเธอก็ไม่ได้เจอ และคุยกัน อีกอย่างเรื่องวันนั้นที่เราทะเลาะกันฉันเองก็ไม่ได้ผิด ที่จะให้ฉันเป็นฝ่ายเข้าไปคุยกับเขาก่อน มันก็คงจะไม่ใช่ ฉันเสมองพวกเขาเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น ณ ตอนนี้ฉันพอจะเข้าใจเหตุผลของเขาแล้วแหละ ที่ผ่านมามันคืออะไรกัน ฉันคงเป็นได้แค่เด็กเลี้ยงของเขาจริง ถ้าเขาคิดจริงใจกับฉันช่วงเวลาที่อยู่พัทยาเขาคงขอฉันคบไปแล้ว อยู่ๆ ฉันก็รู้สึกแปลบขึ้นมาในอกนี่ฉันหวังอะไรไปมากกว่านั้นหรือเปล่า ฉันรู้สึกสมเพชให้กับตัวเอง จากนั้นก็เลือกที่จะเดินผ่านพวกเขาไปทันที

ด้านริวยอมรับว่าทะเลาะกับเจนิส ถึงขั้นที่เราไม่ได้คุยกัน อีกอย่างที่วันนี้ผมเข้ามหาลัยมาพร้อมกับแป้ง เพราะเรื่องครั้งก่อนที่เธออยากจะเลี้ยงข้าวผม ผมเองก็เป็นคนปฎิเสธผู้หญิงไม่เป็น อีกอย่างผมกับแป้งเราก็รู้จักกันเคยนั่งดื่มด้วยกันบ่อยๆ ช่วงที่ไอ้ริกมันคบกับริต้า ร่างสูงสบตาเข้ากับคนตัวเล็กขณะที่เจนิสกำลังเดินผ่านหน้าเขาไป ให้ตายเถอะเจนิสเธอสบตาเขาเพียงแค่แว่บเดียวเท่านั้น และหลายวันมานี้ผมเองก็ไม่ได้โทร หรือติดต่อกับเธอ แต่พอวันนี้เราบังเอิญเจอกัน ผมกับไม่ชอบท่าทีที่เธอนั้นเมินเฉยต่อผม ร่างสูงได้แต่คิดในใจขณะเดินไปกับไอ้ริกและแป้ง

แต่นั้นท่าทีของเจนิสและริว ที่ทั้งสองนั้นมีท่าทีที่เมินเฉยต่อกัน ก็ไม่รอดพ้นสายตาของทั้งสามสาวเพื่อนของเจนิสไปได้

ด้านเจนิสขณะที่ยัยเฟย์พาพวกฉันมานั่งที่ร้านอาหารซึ่งเป็นร้านอาหารตามสังธรรมดาที่ก่อนหน้านี่ฉันเคยมานั่งทานข้าวกับพี่ริว จู่ๆ มันกับทำให้ฉันคิดถึงใบหน้าของคนใจร้ายที่ผุดขึ้นในหัว ฉันพยายามที่จะไม่คิดถึงกับแต่มันก็ไม่ง่ายเลย ยิ่งเห็นเขาไปกับผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าต่อตาฉัน จู่ๆ มันกับรู้สึกเจ็บแปลบๆ ขึ้นมาในอกราวกับไม่รู้ตัวว่าฉันนั้นมีใจให้กับเขาตั้งแต่ตอนไหน แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ถึงฉันจะมีใจให้เขาสุดท้ายแล้วฉันก็คงเป็นได้แค่เด็กเลี้ยงของเขา ที่เขาอยากให้เป็นและยัดเยียดมันให้กับฉัน ร่างบางได้แต่นั้นครุ่นคิดใจลอยขณะที่เพื่อนๆ ของเธอนั้นกำลังเมาท์มอยกัน

ด้านแซมมี่คงไม่ต้องบอกว่าระหว่างเจนิสเพื่อนของเธอกับรุ่นพี่หนุ่มสุดฮอต นั้นเกิดอะไร เพราะสองสามวันมานี่เพื่อนเธอนั้นสีหน้าดูไม่สดใสเอาเสียเลย อีกอย่างทั้งสองเจอกันวันนี้ทั้งเจนิสและพี่ริว พวกเขาสองคนต่างทำเป็นไม่รู้จักกัน อีกอย่างพี่ริวก็มากับยัยพี่แป้งเน่านั้นอีก ฉันว่ามันต้องมีอะไรแล้วแหละ และที่นี่ร้านอาหารไม่เหมาะที่จะถามเพื่อนตรงนี้

ด้านริก ที่เดินมากับริวและแป้ง ท่าทีของริวและเจนิสนั้นก็ไม่รอดพ้นสายตาของริกไปได้ มิน่าละพักนี้น้องชายถึงได้ดูซึมๆ แปลกๆ ที่ไหนได้ทะเลาะกับสาวมาชัวร์ แต่อีกใจก็อดสงสัยไม่ได้ที่วันนี้ก่อนออกจากคอนโดมาเจอแป้งที่รอริวที่คอนโดของพวกเขา

!! หึ...นิอย่าบอกนะ ว่าทะเลาะกับน้องเจนิสแล้วแม่งมันดันประชดน้อง ด้วยการไปกับผู้หญิงอีกคน มึงพลาดแล้วไอ้สัสริว" ผมอยากจะบอกมันไปแบบนี้ แต่ก็เรื่องส่วนตัวของน้องขอดูมันห่างๆ ก็พอ

ห้านาทีที่แล้ว

ด้านแป้งนับว่าวันนี้เป็นโชคของฉัน เมื่อสองวันที่แล้วฉันดันบังเอิญเจอกับริวที่งานปาร์ตี้วันเกิดของดีเอ็มรุ่นน้องต่างคณะ และวันนั้นริวเองก็มานั่งดื่มกับกลุ่มพวกฉันๆ เลยถือโอกาสคุยเรื่องทานข้าวและวันนี้ริวก็ตอบตกลงกับฉัน เราคุยกันถึงแม้กระทั้งเรื่องภาพถ่ายของฉันและเขาที่ฉันจงใจบ่อยมัน แต่ริวเขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างจะเฟรนรี่ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเรื่องภาพพวกนั้น ขณะที่ฉันมากับริวก็เจอกับเจ นิสที่เดินมาที่ตึกวิศวะ ยัยเจนิสเห็นเต็มสองตาว่าฉันและริวนั้นมาด้วยกัน อีกอย่างวันที่ฉันเจอกับริวที่งานของดีเอ็ม ยัยริต้าแกล้งถามริว เขายังบอกกับเพื่อนของฉันว่าโสด แบบนี้ก็เท่ากับว่ายัยเจนิสไม่ใช่แฟนของริวอย่างแน่นอน หึ...ฉันเคยเดาผิดที่ไหนอยากมากกว่าเป็นได้แค่เด็กเลี้ยงของริว แป้งรู้สึกสะใจได้แต่ยกยิ้มออกมาและเสมองใบหน้าของเจนิสขณะที่พวกเธอนั้นเดินสวนกัน

ด้านริวหลังจากที่แยกตัวออกจากแป้งแล้วนั้น ร่างสูงเดินเข้ามาที่ห้องพักภายในตึกคณะด้วยสีหน้าอันหงุดหงิด โดยมีริกนั้นที่เดินตามหลัง

!! ปัง !! ร่างสูงที่เดินเข้ามาภายในห้องก็เจออรัณ และเรียวตะ ทั้งสองหนุ่มที่นั่งเล่นเกมส์ขณะที่รอเรียนในช่วงบ่าย เรียวตะที่เห็นริวเดินเข้ามาไม่พูดไม่จา ถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมา

"เชี่ย รัณ เมียมึงเป็นไรวะ" เรียวตะเอ่ยถามอรัณด้วยท่าทีสงสัย แปลกที่คนพูดมากอย่างริวจะนิ่งได้มากขนาดนี้ แต่วันนี้เพื่อนกับเดินเข้าห้องด้วยสีหน้าอันหงุดหงิดโดยที่ไม่เอ่ยทักพวกเขา

"แม่งมันไปแตกรังแตนที่ไหนมา...วะ " ด้านอรัณเองก็สงสัยท่าทีของริว ไม่ต่างจากเรียวตะ แต่ก็ไม่ทราบเช่นกัน

"เชี่ยไอ้ริวแม่งเป็นห่าไรวะ มันทะเลาะไรกับมึงมาปะ" อรัณเอ่ยถามริกมาด้วยท่าทีสงสัย แม้สองสามวันมานี่ริวดูแปลกๆ แต่ก็ไม่แสดงท่าทีหงุดหงิดออกมาอย่างวันนี้

"สงสัยแม่งทะเลาะกับเมียมัน เดินผ่านกันแต่ไม่ทักกันซักคำ และไอ้เชี่ยริว แม่งเสือกมากับแป้งเพื่อนของริต้าอีก เจนิสแม่งก็เห็นเต็มๆ" ริกได้แต่เอ่ยอย่างที่คิด พร้อมกับส่ายหัวให้กับน้องชาย

"ไหนมึงบอกว่ามันพึงพาสาวไปเที่ยวมาไง ไมเป็นแบบนี้อะ" อรัณยังคงถามต่อ

"ไม่รู้ ก็เห็นแม่งเป็นหมานั่งงอยมาหลายวันและ" ริกเอ่ยไปตรงๆ อย่างที่ตนนั้นสังเกตุ

ส่วนร่างสูงคนที่อยู่ในห้องนั้น

" หึ...เจนิสนะเจนิส กับผัวอย่างเขา เธอยังเมินและทำหน้าหยิ่งใส่แบบนี้ ไม่คิดจะสนใจกันบ้างเลย" เอาจริงตั้งแต่รู้จักกับผู้หญิงมานักต่อนักผมไม่เคยเจอใครที่หยิ่งใส่แม้กระผัวตัวเอง สายตาที่เธอมองผมราวกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทั้งที่เราห่างกันเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์เอง ส่วนผมรู้ว่าผิดที่รุ่นแรงกับเธอในวันนั้น แต่ก็ปากหนักไม่อยากจะขอโทษเธอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ