วันต่อมา
ด้านริวและตอนนี้ผมก็ขับรถมาส่งเจนิสที่คอนโดของเธอ จริงๆ ผมตั้งใจจะพาเธอกลับพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ แต่ติดอย่างเดี่ยวคือคุณพ่อไม่สบาย ไอ้ริกโทรตามผมๆ จึงต้องรีบกลับกรุงเทพก่อนกำหนดหนึ่งวัน
ส่วนเจนิสยัยตัวแสบก็เอาแต่นั่งนิ่ง ตั้งแต่ที่เธอก้าวเข้ามาขึ้นเจนิสเธอคุยกับผม ถามคำตอบคำ ที่เป็นเช่นนี่เพราะตื่นมาช่วงเช้าโดนผมจัดหนักไปหนึ่งรอบ โทษฐานที่ไอ้ห่าเลย์แฟนเก่าของเธอยังทีหน้าโทษมาหาเธอ ยัยหน้านิ่งของผมพอเห็นว่ามีคนโทรเข้าเธอก็รับสายทันที มันกล้ามากที่เข้ามายุ่งกับเมียผม แบบนี้จะไม่ให้หงุดหงิดได้ไงครับ เมียทั้งคน
ร่างสูงขับมาจนกระทั้งถึงคอนโด ด้านเจนิสถามว่าฉันโกรธเขาไหม มันก็โกรธนะที่เขากระชากโทรศัพท์ของฉันไปคุยกับเลย์ ไม่ใช่ว่าฉันปิดบังอะไรหรอกนะ เลย์เปลี่ยนเบอร์ใหม่และโทรเข้ามาอีกอย่าง พี่ริวเขาทั้งโกรธและโมโหฉันถึงกับเขวี้ยงสมาร์ตโฟนของจนหน้าจอแตก ไม่พอเขายังขั้นทำเรื่องบ้าๆ จับฉันกดลงบนเตียง แบบนั้นจะไม่ให้ฉันโกรธได้ไง ตั้งแต่ออกมาจากพัทยาฉันคุยกับเขาไม่ถึงสิบคำ
มือเรียวหวังจะเปิดประตูลงจากรถของเขา แต่กับโดยฝ่ามือหนาของริวนั้น จับเอาไว้
"จะไปแบบนี้ โดยที่จะไม่คุยกับฉันเลยหรือไง" เสียงทุ่มเอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก เขาตั้งใจที่จะพาเธอไปเที่ยวเผื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แต่กับกลายว่าเขาและเธอนั้นทะเลาะกัน ยิ่งหนักไปกว่านั้น เจนิสนั้นนิ่งมากๆ ซะเขาไม่เคยเจอเธอในเวอร์ชั่นนี้ นิ่งซะริวเองรู้สึกใจหาย ยอมรับว่าเมื่อเช้าเผลอทำรุ่นแรงกับเธอจนเกินไปแต่เจนิสก็ไม่ควรคุยกับมันทั้งที่เธออยู่กับผม แบบนั้นเลือดบ้าผมก็เดือดสิครับริวเสมองร่างบางแต่นั้นทันกับมีแต่ความว่างเปล่า
"ในเมื่อฉันพูดไปแล้วพี่เองก็ไม่คิดจะฟังฉันๆ เองก็ไม่ทีอะไรจะพูด" เจนิสเอ่ยตัดบท พร้อมกับเสมองใบหน้าของริว เธอรู้สึกผิดหวังมากที่เขานั้นทำรุนแรงกับเธอขณะที่เราอยู่ในโรงแรมด้วยกัน
ด้านริวที่โดนเจนิสมองมาด้วยสีสายตาที่ว่างเปล่าร่างสูงรู้สึกราวกับหัวใจหล่นหาย
!! ปัง !! ร่างบางเดินลงจากรถและเดินเข้าคอนโดไปจนกระทั้งลับตา
!! โธ่...โว้ย ให้มันได้แบบนี้สิ" ร่างสูงได้แต่สบถออกมาอย่างหัวเสียสุดๆ ยอมรับเจนิสเป็นผู้หญิงอีกคนที่เขาแคร์เธอมาก แต่ในเมื่อเขาและเธอพยายามที่จะพูดคุยและปรับตัวจูนเข้าหากันแต่ทุกอย่างมันกับดูแย่ลง
1 สัปดาห์ต่อมา
@มหาลัย
ด้านเจนิสและวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันนั้นมาเรียนช่วงนี้เพื่อนๆ ในกลุ่มแต่ละคนเองก็ดูยุ่งเนื่องจากอีกไม่กี่สัปดาห์ก็เป็นช่วงสอบ แต่ตอนนี้พวกฉันทั้งสี่คน อยู่ที่โรงอาหารของคณะ เนื่องจากเป็นช่วงพักเที่ยงโรงอาหารค่อนข้างแน่น
"แกฉันว่าพวกเราออกไปทานข้างนอกเถอะ คนเยอะไม่มีที่นั่งเลยอะ" ยัยน้ำอุ่นหันมาบอกกับพวกฉัน
"เอา ดิฉันก็เบื่อข้าวที่โรงอาหารแล้วเหมือนกัน" ยัยเฟย์ตอบยัยน้ำอุ่น จากนั้นพวกเราก็เดินมาที่ตึกคณะวิศวะที่เป็นประตูด้านหลังออกไปร้านอาหารแถวหลังมอ แต่ขณะที่ร่างบางเดินมากับเพื่อนๆ นั้น สายตากับสะดุดเข้ากับร่างสูงของริวที่เดินเคียงคู่มากับริก ส่วนข้างกายของริวไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นพี่แป้งพี่สาวของฉันนั้นเอง
ด้านเจนิสที่สบตาเข้ากับทั้งริวและแป้งนั้นร่างบางถึงกับชะงัก ตั้งแต่ที่กลับมาจากพัทยานี้ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ริวและเธอก็ไม่ได้เจอ และคุยกัน อีกอย่างเรื่องวันนั้นที่เราทะเลาะกันฉันเองก็ไม่ได้ผิด ที่จะให้ฉันเป็นฝ่ายเข้าไปคุยกับเขาก่อน มันก็คงจะไม่ใช่ ฉันเสมองพวกเขาเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น ณ ตอนนี้ฉันพอจะเข้าใจเหตุผลของเขาแล้วแหละ ที่ผ่านมามันคืออะไรกัน ฉันคงเป็นได้แค่เด็กเลี้ยงของเขาจริง ถ้าเขาคิดจริงใจกับฉันช่วงเวลาที่อยู่พัทยาเขาคงขอฉันคบไปแล้ว อยู่ๆ ฉันก็รู้สึกแปลบขึ้นมาในอกนี่ฉันหวังอะไรไปมากกว่านั้นหรือเปล่า ฉันรู้สึกสมเพชให้กับตัวเอง จากนั้นก็เลือกที่จะเดินผ่านพวกเขาไปทันที
ด้านริวยอมรับว่าทะเลาะกับเจนิส ถึงขั้นที่เราไม่ได้คุยกัน อีกอย่างที่วันนี้ผมเข้ามหาลัยมาพร้อมกับแป้ง เพราะเรื่องครั้งก่อนที่เธออยากจะเลี้ยงข้าวผม ผมเองก็เป็นคนปฎิเสธผู้หญิงไม่เป็น อีกอย่างผมกับแป้งเราก็รู้จักกันเคยนั่งดื่มด้วยกันบ่อยๆ ช่วงที่ไอ้ริกมันคบกับริต้า ร่างสูงสบตาเข้ากับคนตัวเล็กขณะที่เจนิสกำลังเดินผ่านหน้าเขาไป ให้ตายเถอะเจนิสเธอสบตาเขาเพียงแค่แว่บเดียวเท่านั้น และหลายวันมานี้ผมเองก็ไม่ได้โทร หรือติดต่อกับเธอ แต่พอวันนี้เราบังเอิญเจอกัน ผมกับไม่ชอบท่าทีที่เธอนั้นเมินเฉยต่อผม ร่างสูงได้แต่คิดในใจขณะเดินไปกับไอ้ริกและแป้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ