ด้านริวหลังจากที่เจนิสเอ่ยมาเช่นนั้นใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับเผยรอยยิ้มออกมาให้กับเจนิสและน้องฟรอสต์ อย่างน้อยก็นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่เจนิส นั้นหายโกรธตน ริวเสมองสองแม่ลูกที่เจนิสนั้น กอดกับลูกชาย
"น้องฟรอสต์ครับม่ามี้ ต้องไปเยี่ยมคุณตา และไปทำงานแล้วนะครับ ลูก อยู่ที่นี่น้องฟรอสต์ไม่เล่นซนนะครับ โอเค ไหม" เสียงหวานเอ่ยถามลูกชายด้วยความน่ารัก
"โอ เค ครับม่ามี้ น้องฟรอสต์จะรอให้ม่ามี้และคุณลุงใจดีมารับนะครับ" จากนั้นน้องฟรอสต์ก็วิ่งออกจากเจนิสไปหาริวที่ยืนมองเขาและเจนิสอยู่
"นะครับคุณลุงมาหาน้องฟรอสต์ อีกนะครับ" เด็กน้อยวิ่งเข้าไปหาและเอ่ยกับริว ร่างสูงถึงกับชะงัก จุกถึงกับพูดไม่ออก เขาคงเห็นเพื่อนๆ คนอื่นหลังเลิกเรียนที่มีพ่อแม่มารับพร้อมหน้าพร้อมตากันสินะ
"ได้สิครับ เดี๋ยววันนี้คุณลุงจะมารับน้องฟรอสต์นะครับ" ริวเอ่ยพร้อมกับย่อตัวนั่งลูบผมลูกชายด้วยความน่ารักและเอ็นดู ถ้าน้องฟรอสต์รู้ว่าเขาเป็นพ่อลูกจะรู้สึกยังไง ริวได้แต่เสมองใบหน้าของลูกชาย ลูกอยู่ต่อหน้าทั้งคนและเขากับเอ่ยคำว่าพ่อออกมาไม่ได้ เจ็บชิบหาย
"เย้ เย้ คุณลุงใจดีจะมารับด้วยฟรอสต์ด้วย" น้องฟรอสต์เอ่ยจบเด็กน้อยก็กระโดดเต้นด้วยความดีใจ
ด้านเจนิสที่เห็นน้องฟรอสต์วิ่งไปอ้อนริว ร่างบางที่มองสองพ่อลูกถึงกับน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว
"บายๆ นะครับม่ามี้" เด็กน้อยวิ่งไปหาพี่เลี้ยงพร้อมกับโบกมือให้กับมารดา และริวที่ยืนส่งลูกชายเข้าห้องไปกับพี่เลี้ยง
ด้านริวที่เดินเข้ามาหาเจนิส โดยที่ร่างบางนั้นไม่รู้ตัว
"ขอบคุณมากที่เธอให้โอกาสฉัน" เสียงทุ่มเอ่ยออกมาข้างหูของคนตัวเล็ก เจนิสได้แต่เสมองใบหน้าของริว
"นี้พี่เดินเข้ามาใกล้ฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ ถอยไปไกลหน่อยได้ไหม..." เจนิสเอ่ยพร้อมกับเดินหนีและเช็ดคราบน้ำตาที่ไหลอาบบนใบหน้า กลัวว่าริว นั้นจะเห็นมัน
"กับน้องฟรอสต์ฉันให้พี่ดูแลเขาได้เต็มที่ อย่างที่พี่ต้องการ" เจนิสเอ่ยขณะที่ริวนั้นเดินตามเธอมาจนกระทั้งถึงรถของเจนิสที่จอดอยู่
"กับฉันละเจนิส เธอยังต้องการฉันอยู่หรือเปล่า" ริวเอ่ยมาขณะที่เจนิสหยุดที่รถของเธอ มือเรียวบางจะเปิดประตูและริวกับขวางเอาไว้ ร่างบางเสมองใบหน้าของริวมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ เรื่องลูกฉันก็ให้สิทธิความเป็นพ่อกับเขาไปแล้วๆ นี้เขายังต้องการอะไรจากฉันอีก
"เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว อย่าได้รื้อฟื้นมันขึ้นมาอีกเลย" ร่างบางเอ่ยกับริวมาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
"ไม่ว่าเธอจะรู้สึกยังไงกับฉันอยู่แต่ฉัน แต่อยากบอกให้เธอรู้ไว้ ว่าฉันยังรักเธอ หัวใจของฉันไม่เคยเปลี่ยนใจให้ใคร" ริวเอ่ยพร้อมกับจ้องมองคนตัวเล็ก
!! ตึก ตึก !! ร่างบางรู้สึกถึงหัวใจเต้นแรง ราวกับรับรู้ความรู้สึกของใจตัวเอง
"ฉันอยากมีครอบครัว เรากับมาเป็นเหมือนเดิมกันได้ไหมเจนิส ขอแค่เธอให้โอกาสฉัน" ร่างบางที่ได้ฟังเช่นนั้น เจนิสถึงกับนิ่งค้าง ตลอดสามปีที่ผ่านมาฉันไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดจากเขาเลยซักครั้งเดียว ฉันใจแข็งมากมาตลอด ร่างบางรู้สึกสับสนเราพึ่งจะกลับมาเจอกันได้ไม่นาน ตลอดเวลาที่ห่างกันเขาไม่เคยมีใครเลยงั้นเหรอมันเกิดคำถามขึ้นมามากมายภายในใจ แต่จะให้ฉันหวนกลับไปหาเขาเร็วแบบนี้ฉันก็ทำไม่ได้เหมือนกัน ใบหน้าหวานถึงกับคิดหนัก แต่ขณะที่ทั้งสองยังคงสบตากันอยู่เช่นนั้น เสียงเรียกสมาร์ตโฟนของเจนิสก็ดังขึ้นมา
Rrrrrrr อาศักดิ์
[เจ ตอนนี้เจอยู่ไหนคุณท่านเกิดอาการช็อค เจรีบมาโรงพยาบาลด่วนเลยนะ] น้ำเสียงปลายสายเอ่ยมาด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก
[คุณพ่อ] เจนิสเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกใจ ราวกับคนไม่มีสติ
[ทำไมท่านถึงไปช๊อคอีกละคะ] เจนิสเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อยจนริวนั้นรู้สึกได้
[เจ อย่าพึ่งถามอาตอนนี้เลย เอาเป็นว่าเจรีบมานะ] ทนงค์ศักดิ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน
[ได้คะ เจจะรีบไปเดียวนี้เลยคะ] ทำไมเป็นเช่นนี้ไปได้ เมื่อสองสามวันที่แล้วก็เห็นว่าคุณพ่ออาการดีขึ้นมากแล้วพักอีกไม่กี่วันคุณหมอก็คงอนุญาตให้กับบ้านได้
ด้านริวที่ได้ฟังน้ำเสียงเจนิส ริวถึงกับอดเป็นห่วงเธอไม่ได้ ร่างบางล่วงหากุญแจในกระเป๋าราวกับคนไม่ได้สติ
"เจนิส มีเรื่องอะไรหรือเปล่า" ริวที่เห็นท่าที่ลนลานของเจนิสถึงกับอดเป็นห่วงไม่ได้ ที่ดูตอนนี้เจนิสนั้นดูสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
"คุณพ่อคะ คุณพ่อท่านช๊อค ฉันต้องไปโรงพยาบาลตอนนี้เลย" เจนิสเอ่ยขึ้นมาเสียงสั่น ขณะที่มือเรียวยังล่วงหากุญแจรถยนตร์
"เธอ ดูตกใจไม่มีสิติแบบนี้ ฉันจะปล่อยเธอขับรถได้ไง ให้ฉันไปส่งเถอะ" ริวไม่เพียงแค่พูด และไม่รอให้เจนิสนั้นอนุญาต ฝ่ามือหนาจับเข้าที่เรียวแขนเล็กจากนั้นก็ดึงแขนเจนิสไปที่รถของตนทันที
"พี่ริว แล้วรถฉันละ" เจนิสเอ่ยขัดขืนเล็กน้อย
"ไปรถฉันก่อน เธอหากุญแจไม่เจอไม่ใช่เหรอ" เมื่อริวเอ่ยมาเช่นนั่น เจนิสจึงยอมขึ้นรถมากับเขา ร่างสูงขับรถออกจากเนอสเซอรี่และมุ่งตรงมาที่โรงพยาบาลS
ร่างสูงขับรถไม่ถึงยี่สิบนาทีก็มาถึงโรงพยาบาล หลังจากที่ริวจอดรถเสร็จร่างบางก็รีบลงจากรถและวิ่งไปยังห้องหาบิดา โดยมีร่างสูงของริวที่เดินตามมาด้วยความเป็นห่วง
ด้านริวเอาจริงๆ เขาก็ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับเจนิส เลยซักนิด พึ่งจะรู้ไม่กี่วันนี้แหละ ว่าครอบครัวเจนิสนั้นมีธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง จนกระทั้งมาถึงหน้าห้องก็เจอกับทนงค์ศักดิ์ยืนรอเจนิสอยู่หน้าห้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ