แววตาของชายหนุ่มดูลึกซึ้ง เขาดึงเธอเข้ามาจูบอย่างรวดเร็ว
เกิดความคิดแปรปรวนขึ้นในสมองของเธอทันที แต่กว่าจะตั้งสติได้ เธอก็ลงไปนอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น
กว่าที่เชอร์รีนจะตื่นขึ้นมา ภายในห้องก็หลงเหลือเพียงเธอแค่คนเดียว
เห็นได้ชัดว่า ชายหนุ่มออกไปทำงานแล้ว กางเกงชั้นในของชายหนุ่ม รวมไปถึงชุดชั้นในของหญิงสาว เสื้อโค้ตยาว และกางเกงขายาว ยังคงกองรวมกันอยู่บนพื้นอย่างระเกะระกะ
นอกจากนี้ ยังมีกระดาษชำระที่แห้งกรังทิ้งเกลื่อนกลาดอยู่ แต่หลักฐานของเรื่องราวคึกคะนองที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้เห็นอยู่บนกระดาษชำระเหล่านั้น
เชอร์รีนขยับร่างกายที่ปวดเมื่อยของเธอแล้วลุกขึ้นนั่ง จากนั้นจึงค่อย ๆ ลุกลงจากเตียง และเก็บกวาดสิ่งสกปรกที่อยู่บนพื้นด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
ระหว่างนั้น จักรกฤษโทรศัพท์เข้ามาหาเธอ ให้เธอกลับไปที่บ้านตอนเที่ยง โดยให้เหตุผลว่าประกันชีวิตทั้งหมดที่ทำเอาไว้กำลังจะครบสัญญา เงินทุนสะสมที่จ่ายไปตลอดหลายปีกำลังจะได้กลับคืนมา ซึ่งมีมูลค่าประมาณหนึ่งแสน ให้เธอทำไปให้กับยู่ยี่
เชอร์รีนรับคำ แล้วประคองร่างกายที่อ่อนแรงเดินทางไปที่โรงเรียน โชคดีที่ในช่วงเช้าไม่มีคาบสอน เธอจึงมีเวลานั่งพักผ่อนอยู่ภายในห้องทำงานสักระยะ
จนกระทั่งถึงช่วงพักเที่ยง เธอจึงเดินทางกลับบ้าน จักรกฤษยื่นสมุดคู่ฝากให้กับเธอ และให้เธอคืนเงินให้กับยู่ยี่บางส่วน ส่วนที่เหลือค่อย ๆ ทยอยคืนให้
เชอร์รีนรับคำ และรับสมุดคู่ฝากมา จากนั้นจึงเดินทางไปที่ธนาคาร แล้วถอนเงินในบัญชีออกมาทั้งหมด และมุ่งหน้าไปที่บ้านของยู่ยี่
ตอนนี้ยู่ยี่และหัสดินเองก็พักอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ชั้นหรู ทั้งห้องครัวและห้องนอนเป็นแบบเปิดโล่ง ตอนที่เธอไปถึง ทั้งสองคนต่างอยู่พร้อมหน้า เพียงแต่บรรยากาศภายในดูไม่ค่อยปกตินัก
เธอรีบอธิบายความตั้งใจของเธอ และยื่นเงินให้กับยู่ยี่
ยู่ยี่ไม่ยอมรับไว้ เชอร์รีนเองก็ไม่ยอมเช่นกัน และยืนกรานออกมาอย่างหนักแน่นกว่าทุกครั้ง : “เป็นเรื่องปกติที่เมื่อเป็นหนี้ก็ต้องคืน ถ้าหากเธอยังทำเช่นนี้อีก ต่อไปหากฉันเดือดร้อนเรื่องเงิน จะไม่มารบกวนเธออีกเด็ดขาด”
เป็นเพื่อนกันมาก็หลายปี จึงย่อมรู้นิสัยของเธอเป็นอย่างดี ยู่ยี่จึงได้แต่รับไว้อย่างช่วยไม่ได้
“ส่วนที่เหลือฉันไม่อาจหามาคืนเธอได้ทันในคราวเดียว ดังนั้นฉันจะค่อย ๆ ทยอยผ่อนคืนให้เธอ” เชอร์รีนยิ้ม
“ฉันไม่รีบ เธอจะคืนเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องรีบร้อน เธอจะจ่ายคืนในอีกยี่สิบปีข้างหน้าก็ย่อมได้ ถึงตอนนั้นอย่าลืมจ่ายดอกเบี้ยให้ฉันก็แล้วกัน” ยู่ยี่พูดหยอกล้อ
“ไม่มีปัญหา เธอจะคิดดอกเบี้ยอย่างไร ไหนลองว่ามาซิ”
เชอร์รีนรู้ดีว่าเธอกำลังพูดหยอกล้อ ดังนั้น จึงเออออไปกับคำพูดของเธอ
ยู่ยี่ครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นจึงพูดออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ : “ต่อไปทุกครั้งที่ฉันดื่มเหล้า หากฉันต้องการเธอต้องรีบมาดื่มเป็นเพื่อนฉันทันที”
ได้ยินดังนั้น คิ้วของเชอร์รีนก็กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นจึงรีบโบกมือ : “ฉันไม่มีทางไปดื่มเหล้ากับเธออีกเด็ดขาด !”
“ทำไม ?” ยู่ยี่รู้สึกไม่พอใจ
“เธอมันไว้ใจไม่ได้นะสิ ครั้งก่อนที่ฉันไปดื่มเหล้า ฉันเมาจนหัวราน้ำ นอนหมดสภาพที่อยู่ที่นั่น แต่เธอกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย”
ผับไม่ใช่ที่ปลอดภัยอะไรนัก ผู้หญิงตัวคนเดียวที่ดื่มจนเมามายนอนไม่ได้สติอยู่ที่นั่น ใครจะรู้ว่าอาจจะเกิดเรื่องร้ายอะไรขึ้นบ้าง ?
ยู่ยี่กระแอมออกมาอย่างรู้ผิดเล็กน้อย : “แต่สุดท้ายเธอก็กลับบ้านอย่างปลอดภัยไม่ใช่หรือ ? ใครเป็นคนไปรับเธอล่ะ ? ออกัสหรือ ?”
“ไม่ใช่ เพื่อนสมัยมัธยมของฉันคนหนึ่งน่ะ เขาพาฉันไปที่บ้านของเขา”
ถ้าหากในคืนนั้นไม่มีองค์ชาย ก็ไม่แน่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ดังนั้นเรื่องทำนองนี้เธอไม่มีวันทำอีกเด็ดขาด
แต่สิ่งที่ยู่ยี่รู้สึกสนใจไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็น : “เพื่อนสมัยมัธยมของเธอเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง