“......ขอบคุณสำหรับคำชม ฉันเองก็ต้องขอตัวก่อนนะ !”
เชอร์รีนเองรู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย เธอเคลื่อนไหวนิ้วมือพิมพ์ตัวอักษรอย่างรวดเร็ว
บทเรียนในตอนนี้มีไม่มากนัก ดังนั้นจึงสามารถเตรียมการสอนอย่างสบาย ๆ ได้ เพราะมีเนื้อหาค่อนข้างน้อย
ภายในห้องโอ่โถงที่เงียบสงัด มีเพียงแค่เสียงเคาะแป้นพิมพ์ของเธอที่ดังก้องกังวานอยู่ภายในห้อง
เมื่อก่อนเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่มาตอนนี้กลับรู้สึกว่าเสียงเคาะแป้นพิมพ์ช่างฟังดูชัดเจนและก้องกังวาน
หลังจากผ่านไปอีกสักพัก บทเรียนถูกจัดเตรียมเอาไว้จนเสร็จเรียบร้อย แต่เธอกลับยังไม่รู้สึกหิว จะให้นอนก็คงนอนไม่หลับ ดังนั้น เธอจึงนั่งบนโซฟาแล้วเปิดโทรทัศน์ดู
ไม่ว่าจะเป็นซิทคอม ละคร หรือแม้กระทั่งตลก เธอกลับไม่รู้สึกสนุกเลยแม้แต่น้อย เมื่อเลื่อนไปถึงรายการบรรยายทางกฎหมาย เธอก็กดรีโมทค้างไว้
รายการบรรยายทางกฎหมายกินเวลาไม่น้อย หนึ่งเรื่องกินเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง
รอจนกระทั่งเชอร์รีนเงยหน้าขึ้นมา และมองดูนาฬิกาควอตซ์ที่สูงจากพื้นจรดเพดานในห้องนั่งเล่น ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มครึ่งแล้ว
โดยปกติแล้วเธอจะเข้านอนเวลาสี่ทุ่ม วันนี้เลยเวลาปกติมาแล้ว จนกระทั่งถึงตอนนี้ เธอเพิ่งจะรู้สึกว่าท้องของตนเองเริ่มหิว
เธอหันมองนาฬิกาอีกครั้ง แล้วลุกขึ้นยืน เธอตักข้าวขึ้นมาครึ่งถ้วย และซุปต้มกระดูกอีกหนึ่งถ้วยเล็ก ๆ จากนั้นจึงนั่งลงข้าง ๆ โต๊ะอาหาร แล้วเริ่มรับประทานอย่างเงียบ ๆ
ส่วนประตูห้องก็ยังคงไม่มีเสียงดังจนกระทั่งถึงเวลาห้าทุ่ม
เพราะวันรุ่งขึ้นมีคาบสอน ถ้าหากนอนดึกเกินไป ก็จะกระทบต่อการนอนได้
อาหารที่อยู่ในห้องครัวยังคงถูกอุ่นให้ร้อนอยู่ แต่เมื่อดูจากสถานการณ์แล้ว เขาคงไม่รับประทานอาหารเหล่านี้อีก เธอจึงเดินตรงไปที่ห้องครัวแล้วจัดเก็บข้าวของเหล่านั้นจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นเธอจึงกลับขึ้นไปบนเตียง แต่ยังคงรู้สึกกังวลใจอยู่เล็กน้อย
เธอหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง เชอร์รีนกดเบอร์โทรศัพท์ขอเขา จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู แล้วรออย่างเงียบ ๆ
ผ่านไปไม่นานนัก โทรศัพท์ก็ต่อสายติด ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุข จากนั้นจึงเอ่ยปากพูดว่า : “คุณจะกลับมาเมื่อไหร่คะ ?”
ตั้งแต่ออกไปจนกระทั่งถึงตอนนี้เป็นเวลากว่าสี่ชั่วโมงแล้ว การประชุมยังไม่เสร็จสิ้นอีกหรือ ?”
“ยังมีโครงการสำคัญอีกหลายโครงการที่จะต้องหารือ คืนนี้คงไม่กลับไปแล้ว......” น้ำเสียงของเขาเคร่งขรึม หากพยายามฟังอย่างละเอียด ก็จะพบว่ามีความหดหู่เล็กน้อยแฝงอยู่ด้วย
เมื่อได้ยินดังนั้น เชอร์รีนก็ผงะไป สักพัก เธอจึงเอ่ยถามขึ้นอีกว่า : “แล้วคุณทานอาหารเย็นหรือยังคะ ?”
“อืม......”
“อย่างนั้นก็ดีแล้วค่ะ ตอนนี้พวกคุณคงกำลังยุ่งอยู่ ฉันคงไม่รบกวนแล้ว ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ฉันวางสายก่อนนะ” เธอพูดอย่างแผ่วเบา
“ราตรีสวัสดิ์ คุณหญิงเชอร์รีน......” ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น น้ำเสียงของเขายังคงแฝงไปด้วยความอ่อนโยนเล็กน้อย
......
ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล
หยาดฝนนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ใบหน้าของเธอซีดเผือด ไม่มีเลือดฝาดเลยสักนิด แม้แต่เส้นผมที่ปรกลงมาบนหน้าผากก็เปียกปอนไปด้วยเหงื่อ
หลายวันมานี้ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และไม่ได้รับประทานอาหารอย่างเพียงพอ จึงเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบ
ตอนนี้เธอเพิ่งจะผ่าตัดเอาไส้ติ่งออกเรียบร้อย
เมื่อลืมตาขึ้น ก็เห็นเขายืนอยู่ด้านข้างเตียงผู้ป่วย ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกพึงพอใจและรู้สึกมีที่พึ่งพิง ที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจเช่นนั้นได้
แต่ออกัสยังไม่เห็นว่าเธอฟื้นขึ้นมา เพราะเขากำลังหันหลังให้เธออยู่
ปากของเธอขยับเล็กน้อยและกำลังจะพูด โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาพอดี เธอเห็นเขาเดินไปรับโทรศัพท์ที่ข้างหน้าต่าง ตอนนี้ใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขาดูอ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัด
แรกเริ่มไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด น้ำเสียงของเขาจึงฟังดูหดหู่เล็กน้อย
อีกทั้ง เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเขาอยู่ที่โรงพยาบาล แต่กลับบอกปลายวายว่าตนเองกำลังหารือเรื่องโครงการสำคัญอยู่
ในใจของเธอปรากฏความคิดออกมาอย่างหนึ่ง หรือว่าคนที่โทรมาคือเชอร์รีน ?
จากนั้น ประโยคสุดท้ายที่เขาพูดขึ้น ก็เป็นหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่เธอคิดไว้ในใจนั้นถูกต้อง เธอได้ยินเขาพูดคำสามคำออกมาอย่างชัดเจนและอ่อนโยน คุณหญิงเชอร์รีน......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง