“ถ้าอย่างนั้นเมื่อไหร่จะมีลมล่ะคะ?” ร่างเล็กคว่ำหน้าลงบนหน้าอกกว้างที่อบอุ่นของออกัส ซารางมีท่าทางที่จะซักถามไปจนถึงที่สุด
“ดูพยากรณ์อากาศก็รู้แล้ว.....”สายตาของเขายังคงมองตามร่างนั้นไป เมื่อเห็นว่าเธอเอาของใช้ของผู้ชายเดินเข้าห้องน้ำไปนั้น ความโมโหก็ปรากฏขึ้นมา แม้กระทั่งบีบซารางแน่นอย่างไม่รู้ตัว
ซารางเจ็บ ร่างบิดไปไม่หยุด : “คุณอาเจ็บนะคะ คุณอาบีบหนูแล้ว แล้วก็รีโมตค่ะ คุณอารีบดูพยากรณ์อากาศสิคะ”
มือใหญ่ปล่อยมือทันที ออกัสหยิบรีโมตขึ้นมา หลังจากนั้นก็กดไปยังช่องที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศอยู่ รับมือกับเจ้าเด็กจอมเซ้าซี้
“ซาราง หนูไม่ได้บอกว่าอยากจะดูเจ้าหัวล้านไม่ใช่หรอ คุณอาทำคอมพิวเตอร์เอาไว้ให้แล้ว หนูมาดูสิ”อีกทางด้านหนึ่งที่กำลังพยายามหมุนรถเข็นอยู่ องค์ชายก็ออกมาจากในห้อง เมื่อเห็นผู้ชายที่สง่างาม สูงส่งและหล่อเหลานั่งอยู่บนโซฟา เขาก็อึ้งไปเล็กน้อย
มือใหญ่ยกก้นซารางให้ร่างเล็กของเธอมานั่งลงบนตักของเขา แล้วโอบเข้ามาในอ้อมแขนอีกครั้ง จากนั้นออกัสถึงได้มองไปยังองค์ชาย กระตุกมุมปากขึ้น น้ำเสียงทุ้มต่ำ และยังมีความยั่วยุและลำพองใจมากอีกด้วย : “ผมมาหาลูกสาวของผม........”
มีเจตนา คำพูดของเขาเน้นน้ำเสียงตรงในตอนที่เขาพูดคำว่าลูกสาวของผม
เชอร์รีนยุ่งเสร็จแล้วเดินออกมาพอดี จึงเอ่ยพูดขึ้นกับซาราง : “ดูพยากรณ์อากาศเสร็จแล้ว หนูก็ควรไปอาบน้ำนอนได้แล้วนะคะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน”
สองสามวันมานี้เล่นเสียจนบ้าเป็นหลัง พอพูดถึงไปเรียนนั้นก็ดูจะไม่มีความสุข อ่อนปวกเปียกดูไม่มีชีวิตชีวาเลยอย่างไรอย่างนั้น
“หนูไม่อยากจะให้คุณครูเอาดอกไม้แดงดอกเล็กๆให้แล้วใช่ไหม? หรือว่าอยากจะให้พวกเพื่อนพูดกันว่าหนูเป็นพวกชอบโดดเรียนกันคะ?”
ซารางทำปากมุ่ย ถึงแม้จะไม่เต็มใจ แต่ก็ยังพยักหน้าลงแรงๆ : “รู้แล้วค่ะ หม่ามี๊!”
จากนั้น เชอร์รีนก็มองไปยังออกัสอีกครั้ง : “ถ้าหากยังดูไม่พอพรุ่งนี้ค่อยมาหาใหม่ แต่ตอนนี้พวกเราจะต้องพักผ่อนแล้ว คุณเองก็ควรกลับไปได้แล้ว”
หลังจากนั้นยังไม่รอให้ออกัสได้พูด ซารางก็ชิงเอ่ยพูดขึ้นก่อนแล้ว : “หม่ามี๊ ข้างนอกฝนตกหนาวมากเลยนะคะแล้วก็มืดมากด้วย วันนี้คุณอาพักอยู่ที่นี่ ดีไหมคะ?”
“ที่นี่ไม่มีที่พักของคุณอาค่ะ แล้วอีกอย่างคุณอาเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่กลัวความมืดแล้วก็ไม่กลัวหนาวด้วย คุณอาหาที่พักเองได้นะคะ”
เขามองแล้วคิ้วหน้าก็ขมวดขึ้นมา พลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา : “ผู้ใหญ่ก็เป็นคนเหมือนกันนะคุณ กลัวความมืดกลัวหนาวเป็นเหมือนกัน”
ได้ยินแล้ว เชอร์รีนอดที่จะโมโหไม่ได้ จ้องมองเขา นี่เป็นคำพูดที่คนเป็นผู้ใหญ่ควรพูดใช่ไหม?
“ฟ้ามืดแล้วจริงๆ แล้วฝนก็ตกด้วย คุณออกัสก็ไม่คุ้นกับเมืองทะเลหทัยด้วย เชอร์รีน ให้พักที่นี่ซักคืนเถอะ”องค์ชายเอ่ยขึ้น
หึ ออกัสพ่นเสียงหัวเราะเยาะผสมกับความดูถูกออกมา ออกัสจะต้องให้เขามาพูดคำพูดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
มองเขาแล้ว เชอร์รีนจึงทิ้งคำพูดเอาไว้อย่างเย็นชา : “ตอนกลางคืนนอนโซฟาแล้วกัน”
จากนั้นเธอก็อุ้มซารางเดินไปห้องน้ำ ส่วนองค์ชายก็กลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง ในห้องรับแขกจึงเหลือเพียงแค่ออกัสคนเดียวเท่านั้น
ตอนกลางคืนยิ่งมืดลง ภายในห้องก็กลับสู่ความเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาดังขึ้น คิดไม่ถึงเลยว่าฤดูร้อนของเมืองทะเลหทัยตอนกลางคืนจะหนาวขนาดนี้ ร่างสูงที่อยู่บนโซฟานั้นขยับไปมา ดวงตาเรียวหรี่ขึ้นอย่างนอนไม่หลับ
หลังจากนั้น เสียงเดินย่องก็ดังขึ้นมา ซารางเดินกอดผ้าห่มที่สูงกว่าตัวเองเข้ามา เซไปเซมา แล้ววางลงบนโซฟาอย่างยากลำบาก : “คุณอา ให้ค่ะ!”
ออกัสจูบลงบนหน้าผากของเด็กน้อยสองครั้งอย่างใจอ่อน น้ำเสียงทุ้มต่ำมีความอ่อนโยนเป็นอย่างมาก : “รีบไปนอนได้แล้วครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง