ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง นิยาย บท 201

สรุปบท บทที่ 201 เขา ทำไมจู่ๆถึงมา: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

ตอน บทที่ 201 เขา ทำไมจู่ๆถึงมา จาก ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 201 เขา ทำไมจู่ๆถึงมา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง ที่เขียนโดย candy cat เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“มองคนอื่นไปเรื่อยเปื่อยได้ยังไงกัน!” เลอแปงพูดเบาๆอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็มีเสียงสตาร์ทรถดังขึ้น เขาตบลงบนขาตัวเอง : “เล็กซัสของฉัน!”

หลังจากผ่านไปซักพักหนึ่งแล้ว ประกาศมีการแจ้งเริ่มตรวจตั๋ว มือหนึ่งจูงซาราง ส่วนอีกมือหนึ่งก็ดันรถเข็นเดินเข้าไปในขบวนรถไฟ

ตอนที่ซื้อตั๋วนั้นเนื่องจากว่าไม่มีตั๋วที่นั่งติดกัน ดังนั้นเชอร์รีนจึงซื้อได้เพียงแค่ตั๋วแยก3ใบ พอดีที่นั่งข้างๆซารางเป็นชายหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง ก็เลยขอเปลี่ยนที่นั่ง และที่นั่งของทั้งสองคนกับองค์ชายก็ห่างกันเพียงไม่กี่แถว ไม่ได้ไกลกันนัก สะดวกมาก

ศีรษะน้อยๆพิงอยู่ตรงหน้าต่าง มือของซารางกำลังแกะว่าวอยู่ : “หม่ามี๊ ต่อไปจะไม่ได้เจอคุณอาแล้วใช่ไหมคะ?”

“ไม่ใช่ว่าหนูไม่ชอบเขาหรอคะ หนูยังบอกว่าเขาเป็นคนไม่ดีอยู่เลยไม่ใช่หรอ?” เชอร์รีนละสายตากลับมา ก้มลงมองเธอ

“ตอนแรกก็ไม่ชอบมากๆค่ะ เขาโมโหเสียงดังใส่หนู ดุหนู เอาเจ้าดิ๊กมาขู่หนู แล้วก็ยังไม่ให้หนูโทรหาหม่ามี๊ด้วย!”

พูดถึงความผิดเหล่านั้น ปากเล็กๆของเธอก็ปิดลง จำได้อย่างชัดเจนมาก

“แต่ เขาป้อนข้าวให้หนู สอนหนูเล่นกับเจ้าดิ๊ก ตอนกลางคืนก็นอนกับหนู ให้ว่าวหนู หม่ามี๊หนูคิดถึงคุณอาแล้ว!”

หัวใจสั่นไหวเล็กน้อย เชอร์รีนยื่นมือออกมาลูบผมของเธออย่างอ่อนโยน เธอคิดว่าหรือบางทีจะเป็นเพราะเลือดย่อมข้นกว่าน้ำจริงๆ

พาซารางจากไปแบบนี้ แต่กลับไม่ได้บอกเขาเลยแม้แต่คำเดียว จะดูเป็นการทำเกินไปหรือเปล่า?

ไม่พูดถึงเรื่องราวเหล่านั้นระหว่างสองคนเป็นการชั่วคราว เพราะถึงอย่างไร เขาก็คือพ่อแท้ๆของซาราง แล้วก็เอาสิทธิการเลี้ยงดูซารางให้เธอ เห็นแก่หน้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความรู้สึกหรือเหตุผลแล้วนั้นเธอก็ควรจะทักเขาไป

ถึงแม้ว่าระหว่างเขาสองคนจะไม่มีความสัมพันธ์ต่อกันอีกในอนาคต เหมือนเป็นคนแปลกหน้า แต่เขาเองก็มีสิทธิที่จะรู้ทิศทางและแหล่งการเดินทางของซารางเช่นกัน

หว่างนิ้วกระชับขึ้นเล็กน้อย เธอหยิบโทรศัพท์มือถือจะกดส่งข้อความถึงเขา แต่หยิบออกมาแล้วถึงได้พบว่าแบตหมดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ช่างเถอะ กลับไปถึงเมืองทะเลหทัยแล้วค่อยส่งก็แล้วกัน

ตัดซารางออกไปแล้ว เธอกับเขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ต่อกันอีกเลยแม้แต่นิดเดียว.....

แล้วจู่ๆหัวใจก็เหมือนกับถูกมือใหญ่จับเอาไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกเจ็บปวด เธอยกมือขึ้นมาตบลงเบาๆ บางทีรอให้ชีวิตเข้าร่องเข้ารอยแล้ว ตอนที่ทุกอย่างกลับมาสงบเหมือนปกติ ก็จะค่อยๆลืมเลือนไปเองเช่นกัน.....

ถึงสถานีรถไฟความเร็วสูง ดวงตาที่หรี่ลงของออกัสจ้องมองอยู่บนหน้าจอที่กำลังเลื่อนในห้องโถง เห็นสถานะขบวนรถไฟที่จะไปเมืองทะเลหทัยนั้นการตรวจตั๋วเสร็จสิ้นแล้ว

แววตาและใบหน้ายังคงมืดมน แม้กระทั่ง มีความเย็นชาแผ่ออกมาด้วย

มือใหญ่กระชับแน่น ดวงตาของเขาหรี่ลงอย่างเย็นชา ความเยือกเย็นกระจายออกมาจากร่างของเขา

เธอนี่ดีจริงๆเลย! พาลูกสาวของเขาจากไปโดยไม่บอกกล่าวกันซักคำ!

เธอยอมให้สิทธิเลี้ยงดูซาราง แต่ไม่ใช่ให้เธอมากำเริบเสิบสานแบบนี้!

เช็คดูตั๋วรถไฟความเร็วสูงที่จะไปเมืองทะเลหทัย เป็นหลังจากนี้อีกสามชั่วโมงแล้ว ใบหน้าเย็นชานั้นมองไม่เห็นถึงอารมณ์ใดๆเลยแม้แต่นิดเดียว เขาซื้อตั๋วไปเมืองทะเลหทัยจากเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ

สี่ชั่วโมงครึ่ง เป็นเวลาที่ไม่ยาวและไม่สั้นไป แต่กลับทำให้นอนหลับได้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อเนื่องติดๆกันในช่วงเวลานี้ทำให้เชอร์รีนอ่อนล้ามาก เธอนั่งพิงที่นั่งของเธอแล้วหลับไป

บ่ายโมงครึ่งถึงเมืองทะเลหทัยตรงเวลา เดินออกมาจากสถานีรถไฟความเร็วสูง ซารางกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเหมือนกับนกตัวน้อยๆ กระโดดไปมา

อากาศในช่วงสี่ฤดูของที่เมืองทะเลหทัยนี้เท่าๆกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นฤดูร้อน แต่ก็ไม่ได้ร้อนอบอ้าวเหมือนกับเมืองs ประกอบกับฝนที่กำลังตกด้วยแล้วทำให้รู้สึกหนาวๆอยู่บ้าง

องค์ชายไม่ใช่ครั้งแรกที่มาที่เมืองทะเลหทัย ในช่วงสี่ปีนี้เขามาที่เมืองทะเลหทัยนี้อยู่หลายครั้ง ดังนั้นจึงรู้สึกคุ้นเคยกับเมืองทะเลหทัยนี้เป็นอย่างมาก

ในห้องที่ไม่มีคนพักอยู่หลายวัน จึงดูสกปรกอย่างเห็นได้ชัด เชอร์รีนให้ซารางเปิดทีวีให้กับองค์ชาย หลังจากนั้นเธอก็จัดเก็บห้อง

จากด้านในจนถึงด้านนอก จัดเก็บไปทีละห้อง มีอยู่สองห้องพอดี เธอกับซารางพักห้องหนึ่ง แล้วองค์ชายก็พักอีกห้องหนึ่ง

เปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ เอาเสื้อผ้าขององค์ชายแขวนเข้าตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็ไปทำอาหารกลางวัน

ซารางน่ารักมากจริงๆ รอหลังจากที่เชอร์รีนทำซุปเสร็จแล้วนั้น เธอก็ถือไปให้องค์ชาย หลังจากนั้นก็เอาให้หม่ามี๊แล้วสุดท้ายถึงให้ตัวเอง

บรรยากาศในการทานข้าวด้วยกันของทั้งสามคนนั้นเป็นไปอย่างมีความสุขและความสนิทสนมกัน ระหว่างนั้น ทางตำรวจโทรมาหาองค์ชาย บอกว่าต้องการให้เขารวบรวมเรื่องรายงานวิเคราะห์ของคดีสองสามคดีให้

เมื่อได้ยินแล้ว เชอร์รีนก็ขมวดคิ้วขึ้นมา : “เพิ่งจะผ่าตัดเสร็จก็จะดูรายงานวิเคราะห์อะไรกันคะ ถึงแม้จะดูรายงานวิเคราะห์ก็ต้องหลังจากนี้ครึ่งเดือนเหมือนกันนะ!”

องค์ชายยิ้ม : “คดีฉุกเฉินน่ะครับ ตั้งคดีเพื่อตรวจสอบมาเป็นปีแล้ว ตอนนี้กว่าจะได้เบาะแสมาก็ไม่ใช่ง่ายๆ จะต้องรีบคว้าโอกาสเอาไว้ก่อน แค่สองชั่วโมงก็รวบรวมเสร็จแล้วล่ะครับ”

“ได้ค่ะ งานของคุณฉันไม่ขัด แต่จะต้องมีกฎระเบียบนะคะ วันนึงคุณทำงานสองชั่วโมง หลังจากนั้นสามชั่วโมงก็ใช้สำหรับการออกกำลังกายช่วงขา”

“ครับ” องค์ชายพยักหน้า เขาเองก็รู้สถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้ ไม่เหมาะกับการทำงานเป็นระยะเวลาที่นานเกินไปด้วยเช่นกัน

หลังจากที่ทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วนั้น เชอร์รีนก็เก็บถ้วยชามและตะเกียบ ซารางทำการบ้าน ส่วนองค์ชายก็จัดแจงเอกสารในโน๊ตบุ๊ค

ยังคงรู้สึกง่วงนอนอยู่บ้าง เธอยื้อต่อไปไม่ไหว จึงกลับมาที่ห้องนอนแล้วนอนหลับไปสองสามชั่วโมง และรอจนตอนที่ลืมตาขึ้นมาแล้ว ก็เป็นเวลาหกโมงแล้ว เนื่องจากฝนตก ท้องฟ้าจึงมืดลงแล้ว

น้ำเสียงที่เขาเปล่งออกมานั้นเย็นชามาก และลดลงต่ำมาก ราวกับว่าหากทุบเข้าไปลึกๆในก้นบึ้งของหัวใจแล้ว ทำให้อดที่จะสั่นเทาขึ้นมาไม่ได้

“อืม ซื้อครบถ้วนเลยนี่ แต่คุณเชอร์รีนไม่เห็นว่าซื้อของสำคัญที่สุดขาดไปอย่างนึงหรอ ที่คุมกำเนิด.....”

จ้องมองเธออย่างดุเดือดและลึกซึ้ง ออกัสรู้สึกเพียงแค่เลือดที่อยู่ในร่างกายกำลังไหลเชี่ยวนั้นพุ่งเข้าไปด้านบนสุดของศีรษะ รู้สึกร้อนไปทั้งร่างกาย มีความรู้สึกใจร้อนอยากจะบดขยี้เธอแบบนั้น.....

เขารีบมาติดต่อกันหลายวัน ประโยคแรกที่ได้ยินกลับเป็นการปกป้องผู้ชายคนอื่นของเธอ!

ไปตายซะ! เธอนี่ดีจริงๆ ยั่วยุความอดทนและการล้ำเส้นของเขามาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาอยากจะใช้มือบีบคอเรียวๆนั่นของเธอให้หักเสียเลย แล้วถือโอกาสตีขาขาวๆสองข้างของเธอนั้นให้หักอีกด้วย!

“ตอนนี้พวกเรามีความสัมพันธ์เป็นอดีตสามีภรรยากันแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าฉันจะซื้ออะไร คุณก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง ไม่ใช่หรอคะ?”

ไม่ได้โกรธ ไม่ได้โมโห สีหน้าท่าทางของเชอร์รีนนั้นนิ่งมาก เอ่ยพูดอย่างเชื่องช้า

ดังนั้นไม่ว่าเธอจะซื้ออะไร เขาก็ไม่มีสิทธิ์จะมายุ่ง ได้ยินคำพูดนี้ของเธอหมายความว่า ตั้งใจจะซื้อที่คุมกำเนิดจริงๆ?

เขาจ้องมองใบหน้าที่นิ่งเฉยของเธออย่างเย็นชา ฝ่ามือใหญ่ที่อยู่ข้างลำตัวนั้นกำหมัดแน่น บนหลังมือปรากฏเป็นเส้นเลือดขึ้นมา รู้สึกโมโหเสียจนยากที่จะควบคุม

“ถ้าหากคุณอยากจะมาหาซารางไม่ใช่จะมาทะเลาะด้วย ถ้าอย่างนั้นก็เข้ามาข้างในได้”เธอมองเขาพลางเอ่ยขึ้น หลังจากนั้นก็หันหลังแล้วเปิดประตูไป

ดวงตาที่เย็นชาของออกัสหรี่ลง จ้องมองเบื้องหลังร่างบางของเธออย่างเย็นชา ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็งที่เยือกเย็น เพียงพอที่จะสามารถทำให้คนกลายเป็นน้ำแข็งได้

มองเธอแบบนั้นแล้วก็ตามหลังเธอไป และด้วยความโมโหที่ปะทุอยู่นั้น ก็กลั้นเอาไว้ แล้วเดินเข้าไป

ได้ยินเสียงฝีเท้า ซารางที่อยู่ในห้องนั้นก็วิ่งออกมา และยังร้องเรียกหม่ามี๊ด้วยเสียงหวานๆ แต่หลังจากที่เห็นออกัสแล้วนั้น เธอก็เหมือนกับนกน้อยที่เบิกบานแล้วพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเขาเลย

ร่างสูงนั้นก้มตัวลงเล็กน้อย เขาอุ้มซารางอยู่ในอ้อมแขน มองพิจารณาห้อง ไม่ใหญ่ไม่เล็ก สไตล์การตกแต่งเป็นสไตล์ของผู้หญิงคนนั้นจริงๆ

ซารางเป็นเหมือนกับจิงโจ้ที่เกาะอยู่บนร่างของออกัส มือเล็กๆที่ขาวละเอียดอ่อนนั้นวนเวียนอยู่ที่ใบหน้าของเขา : “คุณอา เราจะไปเล่นว่าวกันเมื่อไหร่ดีคะ?”

“แน่นอนว่าจะต้องเป็นตอนที่มีลมสิครับ.....”เสียงของเขาทุ้มต่ำ ถึงแม้ว่าจะพูดกับซาราง แต่แววตาอันมืดมนกลับจ้องมองเชอร์รีนอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว

แต่เชอร์รีนนั้นเห็นเขาเป็นอากาศไปแล้วเสียอย่างนั้น ยุ่งวุ่นอยู่กับงานของตัวเอง ราวกับว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่เลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง