ตรงกันข้ามกับความดีใจของซาราง เชอร์รีนกลับจ้องมองเขา เธอขมวดคิ้วขึ้น คำพูดเหล่านั้นเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ไม่ได้เข้าหูเขาเลยอย่างนั้นหรือ?
เพียงแต่ ไม่ว่าเขาจะฟังเข้าหรือไม่นั้น ก็ไม่เกี่ยวกับเธอ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอวางแผนว่าจะใช้ชีวิตให้ดีและเรียบง่ายใหม่อีกครั้ง
อย่างแรกก็คือซื้อบ้าน ราคาบ้านของเมืองทะเลหทัยนี้ต่ำกว่าเมืองsอยู่บ้าง ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่ ก็ไม่เลวเหมือนกัน
ซารางก็โตขนาดนี้แล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นที่เมืองsหรือเมืองทะเลหทัยเธอกลับไม่มีบ้านแม้แต่หลังเดียวเลย เป็นแบบนี้ต่อไปนานๆเข้าก็ไม่ดีนัก
ดวงตาที่หรี่ลงอย่างลึกซึ้งของออกัสก็จ้องมองอยู่ที่ร่างของเชอร์รีนด้วยเช่นกัน เผยให้เห็นเปลวไฟที่ร้อนแผดเผาอยู่ในนั้น
ชัดเจนในหัวใจของตัวเอง รู้ว่าต้องการอะไร เช่นนั้นแล้วเขาก็ไม่ปล่อยเธอไปอีกแล้ว....
ทั้งสองคนมองสบตากัน เชอร์รีนละสายตาออกมามองยังซาราง : “อีกสิบนาทีก็จะไปสายแล้วนะคะ วันนี้หนูอยากจะถูกทำโทษใช่ไหม?”
ร่างเล็กนั่งลงบนเก้าอี้ ซารางเอ่ยพูดขึ้น : “หม่ามี๊ คุณอาไม่มีอาหารเช้าค่ะ”
“หม่ามี๊ทำอาหารเช้าเอาไว้แค่สำหรับสามคนเท่านั้น ไม่มีแล้วค่ะ”เชอร์รีนดื่มน้ำเต้าหู้ไปพลาง หลังจากนั้นก็มองไปยังองค์ชาย : “ขนมปังเอาแยมไหมคะ?”
“เอาซักหน่อยครับ”องค์ชายนั่งอยู่ห่างจากแยม จึงอยู่ไกลเกินเอื้อมถึง
เชอร์รีนส่งขวดแยมมาให้เขา หลังจากนั้นรอหลังจากที่เขาทาเสร็จแล้ว ก็ทาแยมลงบนขนมปังให้ซารางหนึ่งแผ่น : “รีบทานลูก”
ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ เธอไม่แม้แต่จะมองออกัสเลย
ซารางกัดขนมปังคำเล็กๆ รู้สึกว่าคุณอาน่าสงสาร ก็คุณอาไม่มีอาหารเช้ากิน : “คุณอา ทาร์ตไข่ของซารางให้คุณอาค่ะ”
เด็กน้อยอดไม่ได้ ส่งจานทาร์ตไข่ที่มีอยู่สี่ชิ้นไปให้ ออกัสเลิกคิ้ว ริมฝีปากบางยิ้มขึ้น : “หนูทานเถอะ”
หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว เชอร์รีนต้องไปส่งซารางไปเรียนหนังสือ หลังจากนั้นเธอยังจะต้องไปทำงานอีกด้วย รู้สึกไม่วางใจองค์ชาย : “เกี๊ยวฉันห่อเสร็จแล้วนะคะวางอยู่บนโต๊ะ ถ้าหากคุณยังไม่หิวก็รอฉันกลับมาแล้วค่อยทานด้วยกัน มีอะไรก็โทรหาฉันนะคะ ถ้าหากมีคนมาสร้างปัญหา คุณก็โทรแจ้งตำรวจได้เลยนะคะ ให้ตำรวจมาจับตัวเขาไปซะ!”
มีคนสร้างปัญหา ตอนนี้เธอกำลังเป็นกังวลว่าเขาจะรังแกองค์ชายอย่างนั้นหรือ?
ออกัสขมวดคิ้วขึ้น ในใจรู้สึกไม่ดีใจอย่างแปลกๆ ริมฝีปากบางเต็มไปด้วยความเย็นชาเหยียดหยาม จ้องมองร่างบางของหญิงสาว แทบอยากจะแผดเผาให้เป็นรู ให้เธอทะลุไปเลยเสียอย่างนั้น
“ครับ ผมจำได้แล้ว คุณไม่ต้องกังวลนะ ตั้งใจทำงานเถอะครับ”องค์ชายตอบรับ รู้ความกังวลนี้ของเธอ
เชอร์รีนพยักหน้า แล้วถึงได้พาซารางออกจากบ้านไป แล้วพาเธอเดินไปทางโรงเรียน
ดังนั้น ภายในห้องจึงเหลือเพียงแค่ออกัสกับองค์ชาย ระหว่างทั้งสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันอยู่แล้ว และนี่จึงยิ่งไม่เป็นที่สบอารมณ์กันเท่าไรนัก
องค์ชายขยับรถเข็นจะเข้าไปในห้อง ออกัสลุกขึ้นแล้วเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา ขวางทางเอาไว้ คำพูดออกมาจากริมฝีปากบาง : “คุยกันหน่อย”
“คุยอะไรครับ?”องค์ชายขมวดคิ้วขึ้น เขาไม่คิดว่าระหว่างพวกเขาสองคนจะมีอะไรให้ต้องคุยกันอีก
เทน้ำอุ่นแก้วหนึ่งในมือ ออกัสก็นั่งเอนตัวลงบนโซฟาที่อยู่ทางด้านหลังอย่างตามใจ ริมฝีปากบางเม้นเข้าหากัน แววตามืดมน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง