จากนั้น เธอก็มองไปยังห้องรับแขกเหมือนกับขโมย หลังจากนั้นก็เอาว่าววางทิ้งไว้ข้างๆอย่างรวดเร็ว
ออกัสยืนอยู่ทางด้านหลังเธอ ร่างสูง หล่อเหลา ดูโอ่อ่าและร่ำรวย เพียงแต่ถือกระเป๋าหนังสือเจ้าแกะน้อยที่ดูขัดแย้งอยู่ในมือใหญ่
ปากเล็กๆงึมงำ แล้ววิ่งพุ่งตัวเข้าไปในห้องครัว : “หม่ามี๊ หิวน้ำจังเลยค่ะ หนูอยากดื่มน้ำ”
เชอร์รีนขมวดคิ้วขึ้น มองดูรองผ้าใบสีขาวที่เลอะโคลนและหญ้า หิ้วคอเสื้อของเธอพาเดินออกมาจากห้องครัว : “วันนี้ไปไหนมาคะ?”
ดูหงอยไปบ้างแล้ว ซารางก้มศีรษะลง เท้าเล็กๆเตะไปอย่างลวกๆ เสียงเบาๆนั้นเหมือนกับแมลงวันเลยอย่างไรอย่างนั้น : “เล่น....เล่นว่าวค่ะ......”
“ขาดเรียนมาตั้งนานขนาดนั้นแล้ว วันนี้เรียนวันแรก หนูก็โดดเรียนแล้ว?” เชอร์รีนอดที่จะเน้นเสียงให้หนักขึ้นมาไม่ได้
ร่างเล็กๆของซารางหดลงด้วยความตกใจ แล้วพิงอยู่ตรงกำแพงทางด้านหลัง ออกัสมองไปยังเชอร์รีน ริมฝีปากบางกระตุกขึ้น ดวงตาหรี่ลง : “ขอลากับคุณครูแล้วครับ....”
ระหว่างที่พูดนั้น เขาก็เอากระเป๋าเจ้าแกะน้อยวางลงบนโซฟา หลังจากนั้นก็เดินเข้าไป เห็นสถานการณ์แล้ว สองมือของซารางก็กอดขาเขาเอาไว้ทันที
ได้ยินแล้ว สายตาของเชอร์รีนก็เหลือบมองไปที่เขา แล้วผละออกมามองไปที่ร่างของซาราง : “การบ้านวันนี้ถ้าทำไมเสร็จไม่อนุญาตให้ทานข้าวเย็นนะคะ”
สิ้นเสียงแล้ว เธอก็ไม่ได้สนใจทั้งสองคนอีก เดินออกมาจากห้องครัว แล้วเริ่มยกอาหารเย็นออกมา
ได้กลิ่นหอมที่ลอยมาแล้ว ซารางก็ทำจมูกฟุดฟิดขึ้นมาอย่างน่ารัก : “คุณอา เกี๊ยวที่หม่ามี๊ทำ หนูหิวแล้ว”
“จมูกดีเชียวนะ.....”ออกัสเลิกคิ้วขึ้น มือใหญ่บีบจมูกของเธอเอาไว้ : “ทนหน่อยนะครับ.....”
ซารางเลียลิ้น ศีรษะเล็กๆก้มลงอย่างหงอยเหงา จากนั้นเธอก็คว่ำหน้าลงบนโต๊ะเขียนการบ้าน ส่วนออกัสก็นั่งอยู่ข้างๆเขา
วันนี้ถือว่าเป็นการพึ่งบุญวาสนาของลูกสาวเขาถึงได้เหยียบเข้ามาในบ้านหลังนี้อีกครั้ง มิเช่นนั้น จากนิสัยอย่างผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขาคงไม่สามารถเข้ามาเหยียบได้อีกอย่างแน่นอน
เพียงแต่เป็นการทำให้ลูกสาวของเขาต้องมาลำบาก เล่นว่าวมาทั้งช่วงบ่าย แต่นี่ก็ยังต้องมานั่งทำการบ้านด้วยความหิวอีก
ที่โต๊ะอาหารนั้นมีเพียงแค่เชอร์รีนกับองค์ชายที่กำลังนั่งทานอาหารเย็นกันอยู่ กลิ่นหอมฟุ้ง องค์ชายอยากจะเรียกซารางแต่กลับถูกเธอห้ามเอาไว้
ซารางดึงกางเกงสูทของออกัส พลางเอ่ยขึ้นเบาๆ : “คุณอา เกี๋ยวรากบัวที่หม่ามี๊ห่อ หนูไม่ได้ทานมาตั้งนานแล้ว....”
“คุณอานานกว่าหนูอีกนะ อย่าดื้อนะครับ ทำการบ้าน......” ออกัสเลิกคิ้วขึ้น น้ำเสียงทุ้มต่ำ ตาหลุบต่ำลง แล้วหางตาเหลือบไปมองยังองค์ชายอย่างเย็นชา
เกี๊ยวที่เธอทำเขาเองก็เคยกิน ถึงแม้ว่าจะเป็นเมื่อสี่ปีก่อน.....
หลังจากที่ทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว องค์ชายก็กลับเข้าไปในห้องทำงานต่อ เชอร์รีนเก็บถ้วยชามตะเกียบ แล้วทนต่อไปไม่ได้อีก ซารางน้ำตาคลอ : “หม่ามี๊ หนูหิว.....”
เชอร์รีนใจอ่อน เข้าไปในห้องครัวทำเกี๊ยวถ้วยหนึ่งแล้วยกมาให้ซาราง ไม่แม้แต่จะมองไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงโซฟาเลยแม้แต่นิดเดียว
ออกัสเองก็รู้สึกหิวอยู่บ้างแล้ว ดวงตาราวสั่นไหวเล็กน้อย มองดูซารางที่กำลังกินอยู่ด้วยใบหน้าที่หอมหวาน
“อ้าปากค่ะ คุณอา” ซารางป้อนเกี๊ยวหนึ่งตัวให้เขา ไม่ป้อนยังดีเสียกว่า พอป้อนแล้วกลับยิ่งรู้สึกหิว สี่ปีที่ไม่ได้เจอกัน ฝีมือของเธอก็ยิ่งดีขึ้นกว่าเดิม
มือใหญ่หยิบช้อนของซารางขึ้นมา ออกัสจะตักเกี๊ยวขึ้น และขณะที่กำลังจะเอาเข้าปากนั้น กลับสบตาเข้ากับเชอร์รีนที่เพิ่งจะเดินออกมาพอดี
ถูกจับได้ เชอร์รีนกอดอก มองดูการเคลื่อนไหวของเขา รู้สึกทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง ลูกกระเดือกของเขากลิ้งไปมา มือซ้ายจัดแจงเสื้อเชิ๊ตสีดำอย่างสง่างาม ดวงตามองไปยังซาราง สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไป ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นพยายามจะไม่ใส่ใจ : “อ้าปากครับ.....”
เห็นสถานการณ์แล้ว คิ้วของเชอร์รีนนั้นก็กระตุกขึ้นมาเล็กน้อย หันกลับไปนั้นมุมปากกลับอดที่จะยกโค้งขึ้นมาไม่ได้ ซักพักหนึ่ง ก็เก็บอาการ รอจนเธอออกมาอีกครั้ง ในมือก็ถือชามเกี๊ยวที่เพิ่งทำเสร็จออกมา ไม่ได้เกรงใจเลยแม้แต่นิดเดียวแล้ววางลงตรงหน้าเขา
ให้เขาอย่างนั้นหรือ?
คิ้วเรียวของออกัสเลิกขึ้นมา ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เธอไม่เคยที่จะทำสีหน้าดีๆกับเขาเลย การแสดงออกแบบนี้นับว่าเป็นครั้งแรก จึงรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาอยู่บ้าง
“ขอบคุณครับ คุณอดีตภรรยา.....” เขาส่งเสียงออกมา เสียงแหบพร่าที่ดึงดูดเหมือนแม่เหล็ก และมองเธออย่างอ่อนโยน
คุณเชอร์รีนคำเรียกนี้ดูแข็งๆอย่างเห็นได้ชัด ส่วนคุณหญิงเชอร์รีนนั้น ถ้าหากเขาเอ่ยเรียกขึ้นมา จะต้องถูกเชิญออกไปอีกครั้งอย่างแน่นอน
เชอร์รีนจ้องมองเขาอย่างเย็นชา พลางเอ่ยขึ้น : “ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ ทานเสร็จแล้วคุณออกัสก็สามารถกลับไปได้แล้ว เพราะพวกเราจะพักผ่อนกัน”
ออกัสเลิกคิ้วขึ้นแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เพียงแต่กินเกี๊ยวไปอย่างสง่างามและเอื่อยเฉื่อยอยู่แบบนั้น
คณิตศาสตร์ของซารางนั้นไม่ดีมาโดยตลอด จะใช้คำว่าไม่เข้าใจเลยมาอธิบายก็ได้ เชอร์รีนสอนเธอทำการบ้านคณิตศาสตร์ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและสีหน้าท่าทางที่จริงจัง
เขาจ้องมองเธออย่างเงียบๆภายใต้แสงสีเหลืองสลัวๆ ใบหน้าด้านข้างที่สวยงามน่าหลงใหล มีกลิ่นอายแห่งความมุ่งมั่นส่งออกมาจากข้างใน ทำให้เขามองอย่างเคลิบเคลิ้ม ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
สอนการบ้านเสร็จแล้วนั้น ก็เป็นเวลาหลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เชอร์รีนบิดขี้เกียจเล็กน้อย แล้วมองเขา : “พวกเราเหนื่อยกันแล้ว ขอไม่ออกไปส่งนะคะคุณออกัส”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง