วางหนังสือพิมพ์ลง ออกัสมองศีรษะเล็กที่ยุ่งเหยิงที่กำลังนั่งอยู่บนตักของเขา นอนหลับแล้ว เธอก็ไม่มีทรงผมเลย ยุ่งเหยิงเหมือนกับรังนกเลยอย่างไรอย่างนั้น
แต่หวีผมอย่างนั้นหรือ?
ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย เขานวดตรงหว่างคิ้วเบาๆ รู้สึกเหมือนกับคิ้วกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย
“คุณอาหวีไม่เป็นเหรอคะ?”ปากเล็กๆเบะ ใบหน้าของซารางนั้นรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง
เขาเลิกคิ้วขึ้น แขนแข็งแรงอุ้มซารางมาวางไว้บนพื้น เขาจ้องมองพิจารณาอยู่พักหนึ่ง แล้วหยิบหวีขึ้นมา
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นครั้งแรกของชายหนุ่มที่ทำเรื่องแบบนี้ ดูจะเหนือบ่ากว่าแรงไปบ้าง แล้วถึงได้หวีผมจากทางด้านซ้าย ผมทางด้านขวาก็แยกออกจากกัน หวีทางขวา ทางซ้ายก็แยกออก ไม่สามารถหวีผมมาไว้ด้วยกันได้เลย
อีกทั้งยังไม่สามารถควบคุมแรงได้อีกด้วย บางครั้งมือก็จะดึงโคนผมมาด้วย ทำให้ซารางน้ำตาคลอ : “เจ็บ....”
หลังจากนั้นพักหนึ่ง ในที่สุดออกัสก็หวีผมซารางเสร็จแล้ว ถึงแม้จะมัดรวบขึ้นเป็นหางม้า แต่กลับเห็นได้ชัดว่าเอียงไปข้างหนึ่ง
“คุณอา ไม่สวยเลยค่ะ” ซารางส่องกระจก แล้วสะบัดผมหางม้าของเธอ
มองพิจารณาอยู่พักหนึ่ง ออกัสเองก็ยอมรับว่า....ไม่ได้ดูดีเท่าไหร่นัก.....
เพียงแต่ เขาสามารถรวบขึ้นมาได้ ก็นับว่าไม่เลวแล้ว หางตามองไปที่หวี ด้านบนนั้นยังมีเส้นผมติดอยู่ ล้วนแต่ถูกเขาดึงมาทั้งนั้น
เวลานี้ กริ่งประตูก็ดังขึ้นมา ดวงตาลึกซึ้งของออกัสปรากฏแสงอันมืดมนออกมา มองดูเวลาแล้ว เพียงแค่แปดโมงตรงเท่านั้น ทำไมมาเช้าขนาดนี้?
มือใหญ่เปิดประตู และตอนที่เห็นสุนันท์ยืนอยู่หน้าประตู ตรงหว่างคิ้วของเขานั้นก็มีความประหลาดใจขึ้นมา : “แม่”
เดินเข้ามา สุนันท์ก็เห็นซารางที่กำลังนั่งเล่นเกมอยู่บนโซฟา คิ้วโค้งได้รูปก็ขมวดขึ้นมาอย่างไม่ค่อยเห็นนัก
“เรื่องโอนหุ้นส่วนของบริษัททำไมไม่ปรึกษากับฉันก่อน ไม่แม้แต่จะเคยพูดถึงเลย แต่กลับตัดสินใจแบบนั้นเนี่ยนะ?”จนกระทั่งถึงตอนนี้แล้วเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา สุนันท์ก็ยังคงรู้สึกเดือดอยู่ดี
ร่างนั้นนั่งลง ขายาวๆของเขานั่งไขว่ห้าง แล้วเหลือบมองไปยังซารางที่นั่งเล่นเกมหั่นผลไม้อย่างสนุกอยู่บนร่างของตัวเอง ริมฝีปากบางกระตุกขึ้น แล้วเอ่ยขึ้นมา : “เป็นการตัดสินใจกะทันหันน่ะครับ”
ประโยคเดียวทำให้สุนันท์สะอึกไปแล้ว : “แล้วทำไมถึงไม่อยากได้สิทธิในการเลี้ยงดูเด็กแล้ว?”
“แม่ เรื่องของผม ผมสามารถตัดสินใจเองได้ เรื่องที่ผมตัดสินใจไป ไม่จำเป็นที่จะต้องเอามาพูดอีก.....”
“ใช่ พวกแกสามารถตัดสินใจเองได้แล้ว พ่อแกทำได้ แกก็ทำได้ เลอแปงเองก็ทำได้ ฉันมันเป็นส่วนเกิน!”เสียงของสุนันท์ดังขึ้นมา
ร่างเล็กๆของซารางสั่นเทาด้วยความตกใจ ออกัสอุ้มเธอขึ้นมา แล้วมองไปทางสุนันท์ พลางเอ่ยขึ้นอย่างเรียบๆ : “ทำให้ลูกผมตกใจแล้ว แม่ แม่มาก็เพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?”
โมโหเสียจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ได้ยินคำพูดของออกัสแล้ว สุนันท์ก็นึกถึงเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าขึ้นมา จึงข่มความโมโหเอาไว้ชั่วคราวก่อน แล้วเอ่ยขึ้น :
“วันนี้หยาดฝนกลับมาแล้ว ไฟท์บินสิบโมงกว่า เธอไม่ให้ฉันบอกแก เพราะกลัวว่าแกกำลังยุ่งอยู่
ฉันรู้สึกว่ามาบอกแกไว้ดีกว่า แกไปรับเธอซะ สองสามวันนี้เธอยุ่งมากเสียจนไม่ได้พักเลย แล้วก็นั่งเครื่องมาติดๆอีก รอยแผลเป็นบนหน้าก็ยังมีอยู่บ้าง ฉันกลัวว่าผ่านมาสี่ปีแล้วกลับมาครั้งแรกจะไม่สบายใจนัก ลูกเอามาให้ฉัน เดี๋ยวฉันดูให้เอง”
ได้ยินแล้ว ซารางก็ยิ่งมุดเข้าไปในอ้อมกอดของออกัส กอดเขาเอาไว้แน่น เห็นได้ชัดว่าไม่ยอม
“เดี๋ยวผมพาลูกไปด้วย” ออกัสเอ่ยขึ้น ชัดเจนว่าเขาเองก็ไม่ได้จะให้สุนันท์เอาตัวซารางไปด้วย
ได้ยินแล้ว สุนันท์ก็มองมาที่ซาราง ในใจก็รู้สึกโมโห มองดูท่าทางของเธอแบบนั้น สามารถกินเธอได้เลยใช่ไหม? ไม่ชอบซักนิดเลยจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง