นิ้วมือหยาบๆลูบไล้ไปที่ริมฝีปากของเธอ ออกัสหอบหายใจลึกอย่างหนักหน่วง“ อย่าให้ผมต้องฟังอะไรที่ผมไม่อยากได้ยิน มิเช่นนั้น ผมจะจูบคุณให้ตายอยู่ตรงนี้ !”
ขอแค่เธอพูดอะไรที่เขาไม่อยากได้ยิน เขาก็จะเอาปากของเขาไปปิดปากเธอเอาไว้ ให้เธอพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
เชอร์รีนยังคงหายใจเข้าออก รู้สึกหายใจติดขัดเล็กน้อย ยกขาขึ้น และถีบไปที่เขาอย่างแรง “ไอ้คนบ้า!”
“ใช่ ผมมันบ้า บ้าเพราะคุณไง คุณลองใส่ชุดแต่งงานดูอีกครั้งแล้วกัน เชื่อไม่เชื่อว่าผมจะฉีกทำลายมันทิ้งให้หมด?”เขาจ้องมองเธออย่างเย็นชา นัยน์ตาลุ่มลึกและจริงจัง ทำให้เธอรู้แจ้งเห็นกระจ่างว่า คนอย่างออกัสพูดจริงทำจริง!
เธอเองก็หายใจหอบ ทุบตีไปที่หน้าอกของเขา แรงพอสมควร เขามันบ้าไปแล้วจริงๆ บ้าคนเดียวไม่พอ ยังจะทำคนอื่นให้บ้าไปด้วย ทั้งสองจ้องมองสบตากันอย่างเย็นเยือกและแค้นเคือง ราวกับจะกลืนกินอีกฝ่าย และไฟสงครามก็ราวกับจะปะทุขึ้น
ชุดแต่งงานที่สวมใส่ถูกฉีกจนขาด ขาที่เรียวยาวโผล่พ้นออกมา ชุดแต่งงานเป็นแบบเกาะอก ภาพตรงหน้าในเวลานี้ก็จึงดูยั่วยวนยิ่งนัก
นัยน์ตาของออกัสดำขลับ ดำราวกับหมึกสีเข้ม เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำลายความเงียบที่มีในตอนนี้ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็เปลี่ยนไป คิ้วก็ขมวดกันแน่น จากนั้นก็กดวางสาย และเหลือบมองมาที่เธออย่างดุดัน หันหลังกลับ ก้าวเท้ายาวๆออกจากร้านเวดดิ้งไป
เชอร์รีนยืนงงกับพฤติกรรมของเขา แต่ก็มองผ่านรอยแยกของประตูห้องลองชุด เธอเห็นหยาดฝนยืนอยู่หน้าร้านเวดดิ้ง
หรือว่า พวกเขามาด้วยกัน เขามาที่นี่ และพาหยาดฝนมาด้วย ช่างน่าหัวเราะเยาะจริงๆ!
ออกัสกับหยาดฝนพูดคุยกันอยู่สักพัก จากนั้นทั้งสองก็จากไป ขึ้นรถสีดำที่จอดอยู่ริมถนน
นี่เขากำลังจะทำอะไรกันแน่ ?
เชอร์รีนกัดฟันกร่อนด้วยความโกรธ แล้วมองดูชุดแต่งงานที่ฉีกขาดบนตัว เธออยากจะกัดเขาให้ตายซะตรงนี้ !
ในตอนนี้เอง องค์ชายก็ถูกเข็นลงมา เรียกเธอเสียงเบาที่หน้าประตู “เชอร์รีน”
“ว่ายังไงคะ?”
“คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ออกมาแล้วค่อยคุยกัน”
ขมวดคิ้ว หลังจากที่เชอร์รีนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เดินออกจากห้องลอง และมองไปที่องค์ชาย“มีอะไรหรือเปล่า ?”
พนักงานยืนอยู่ข้างๆองค์ชาย และพูดว่า “ขอโทษนะคะ ชุดแต่งงานและชุดสูทของเราขายให้คุณทั้งสองไม่ได้แล้วค่ะ ต้องขออภัยด้วย”
“จ่ายเงินเหมือนกัน ทำไมคนอื่นซื้อได้ แล้วทำไมถึงไม่ขายให้เราล่ะคะ ?”เชอร์รีนมองดูพนักงานด้วยความโกรธแต่ก็ยังใจเย็น
“ผู้จัดการเพิ่งแจ้งมาเมื่อครู่ เราเป็นแค่พนักงาน ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
เมื่อครุ่นคิด ภาพของชายหนุ่มที่ดื้อรั้นก็ผุดขึ้นมา เธอก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น!
เป็นเขา บ้าไปแล้วจริงๆ!
“ไม่ขายก็ไม่ขาย เมืองทะเลหทัยไม่ได้มีร้านเวดดิ้งร้านเดียว เราไปกันเถอะ……”
องค์ชายพยักหน้ารับ หยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโซฟา เชอร์รีนจูงมือซาราง แล้วเดินออกจากร้านเวดดิ้งไป
เดินไปได้เพียงสองก้าว ก็ถูกพนักงานเรียกเอาไว้ หยิบชุดแต่งงานที่ฉีกขาดมาตรงหน้าเธอ “คุณผู้หญิง ค่าชุดแต่งงานนี้คุณยังไม่ได้ชำระนะคะ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น เปลวไฟแห่งความโกรธของเชอร์รีนก็ปะทุขึ้น พูดไปตรงๆว่า“ ฉันไม่ได้เป็นคนฉีกชุดแต่งงานนี้”
“เมื่อครู่คนที่ลองชุดแต่งงานนี้มีแค่คุณเชอร์รีน ไม่มีลูกค้าคนไหนได้ลอง และห้องลองของเราก็มีแค่คุณเชอร์รีนคนเดียวที่ใช้ คุณเชอร์รีนไม่ได้ทำ แล้วใครเป็นคนทำล่ะคะ ?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เชอร์รีนรู้แค่แน่นหน้าอกไปหมด ตลกสิ้นดี ห้องลองชุดมีเธอคนเดียวที่ใช้ แล้วออกัสเข้าไปได้ยังไง ?
แต่ว่า ต่อหน้าขององค์ชาย เธอย่อมพูดมันไปแบบนั้นไม่ได้ และแก้ต่างอะไรไม่ได้ มิฉะนั้น……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง