ยู่ยี่พยักหน้าพร้อมกับยิ้มส่งเขา สื่อให้รู้ว่าไม่ต้องเป็นห่วงเธอ หากผู้หญิงทำตัวเหมือนปาท่องโก๋ตัวติดผู้ชายตลอดจะไม่งาม
วันรุ่งขึ้นก็บอกว่าจะไปทำงานต่างถิ่น เขาส่งยู่ยี่กลับคฤหาสน์ภูษาธรเสร็จสรรพก็รีบตรงไปยังสนามบินทันควัน ซึ่งเรนนี่ก็อยู่ที่สนามบินด้วย
ความจริงแล้วไม่มีการทำงานต่างถิ่นใด ๆ ทั้งสิ้น เรนนี่บอกว่าอยากไปพักผ่อนหย่อนใจที่ทุ้งหญ้าจอร์แดนในมณฑลกรีนเลย์หัสดินรับปากโดยพลัน
ช่วงนี้เขารู้สึกเครียดเหลือแสน ควรผ่อนคลายโดยไม่คำนึกสิ่งใดบ้างแล้ว ควรผ่อนคลายเพื่อขับกล่อมสภาพจิตใจให้ดีขึ้น
หัสดินยังคงปฏิบัติเฉกเช่นเมื่อครั้งที่เดินทางไปยังฮีทนาร์เหมือนเดิม ซึ่งแผนเดินทางคือไปลงเครื่องที่เฮทเคก่อน จากนั้นก็เปลี่ยนเครื่องบินไปยังมณฑลกรีนเลย์ พวกเขาทั้งสองแยกย้ายกันเดินทาง จะได้ไม่เป็นที่จับตามองของผู้คน
ทุ้งหญ้าจอร์แดนของมณฑลกรีนเลย์ยังไม่ได้เจริญรุ่งเรืองมากนัก ดังนั้นทิวทัศน์จึงเป็นธรรมชาติดั่งยุคโบราณ
เมื่อยืนอยู่บนพื้นหญ้าอันเขียวขจีที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา อารมณ์จึงดีตามไปด้วย สองสามวันนี้ พวกเขากินนอนด้วยกัน กระทั่งเวลาเดินยังจูงมือกันเดิน หากคนแปลกหน้าพบเห็นจะคิดว่าพวกเขาเป็นคู่รักหนุ่มสาวหรือไม่ก็เป็นสามีภรรยาที่รักใคร่เกื้อกูลกัน
ที่นี่ทำให้ทั้งสองคนผ่อนคลายอย่างยิ่งยวด ไม่มีสิ่งใดทำให้ปวดหัว มีเพียงความผ่อนคลายและอารมณ์ดี
ทั้งสองไม่ได้อยู่นาน เมื่ออยู่ได้สามวันก็ซื้อตั๋วเครื่องบินยามค่ำกลับไปที่เมือง S
อันที่จริงไฟล์ทบินตอนกลางคืนก็ดีไปอย่าง เพราะมีผู้ใช้บริการน้อย จึงไม่มีคนสังเกตพวกเขาทั้งสองคน
เรนนี่นอนซุกอกแกร่งของหัสดิน พวกเขารู้สึกว่าใช้เวลาสามวันนี้คุ้มค่ามาก คล้ายกับการฮันนีมูน รู้สึกหวานฉ่ำไปถึงหัวใจ
เดินทางมาถึงเมืองSตอนตีสาม เมื่อลงจากเครื่องบิน เรนนี่ก็ยังคงสะลึมสะลือ ดวงตางัวเงีย เดินสะเปะสะปะ
หัสดินมองเธอปราดหนึ่ง รู้สึกว่าเธอเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโต ช่างไร้เดียงสายิ่ง เขาเลิกคิ้วพร้อมกับเตือน “ดูทางด้วย”
เรนนี่ยิ้มละมุนละไม พลางพยักหน้า“ก็มีคุณอยู่นี่?ฉันจับเสื้อคุณแล้วจะล้มได้ไง?”
ในขณะที่พูด ทันใดนั้นร่างกายเธอเอียงเอนไปด้านข้าง รองเท้าส้นสูงที่ยกขึ้นนั้น บังเอิญไปเหยียบโดนรองเท้าหนังของผู้ที่เดินผ่านพอดิบพอดี
รองเท้าส้นสูงทั้งยาวทั้งแหลม แรงที่เหยียบโดนรองเท้าหนังจึงหนักเอาการ เรนนี่รีบถอยออกมา ก่อนจะกล่าวคำขอโทษ “ขอโทษค่ะ”
“อืม……”สุ้มเสียงทุ้มต่ำอันมีเสน่ห์ดึงดูดใจส่งออกมาจากลูกคอของฉันทัช เขาไม่ได้มีคลื่นอารมณ์มากนัก แค่เจือความเย็นชาเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อดวงตาลุ่มลึกกวาดมองใบหน้าหัสดิน เขาก็ชะงักค้างชั่ววูบ จากนั้นก็กวาดสายตามองเรนนี่ต่อ ใบหน้าหล่อก็ขมวดคิ้วมุ่น
ตอนที่เรนนี่เงยหน้าก็เห็นใบหน้าด้านข้างของผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ชนิดที่ไร้ที่ติ ตอนนี้เขาสวมแว่นกันแดด จึงไม่เห็นดวงตา จมูกของเขาโด่งมาก คางก็เย่อหยิ่งสูงศักดิ์ยิ่ง
เขาเป็นคนตัวสูงโปร่ง สวมเสื้อกันหนาวสีกาแฟ กางเกงสูทที่ประกายแสงสีเงินเล็กน้อย ซึ่งกางเกงตัวนี้ไม่มีรอยยับใด ๆ ประณีตและโดดเด่นมาก
ทว่าก็ทันมองเห็นแค่ใบหน้าด้านข้างของเขาเท่านั้น เพราะเขาก้าวเท้ายาวไปด้านหน้าเสียแล้ว เมื่อมองจากด้านหลังก็ยังคงชวนให้รู้สึกสู่งส่งและสง่าผ่าเผย มีออร่าจัดเต็ม ด้านหลังมีผู้ติดตามเป็นผู้ชายสวมสูทที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางสองคน
หัสดินก็มองแผ่นหลังนี้สักระยะหนึ่งเหมือนกัน บนร่างกายชายผู้นี้แผ่ซ่านไปด้วยกลิ่นอายของความแข็งแกร่ง สุขุมและสง่างาม แล้วเมืองSมีบุคคลเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ทว่าเขาก็ไม่เห็นใบหน้าของฉันทัชเช่นกัน
รถเบนท์ลีย์สีดำเงางามจอดอยู่นอกสนามบิน ฉันทัชยังเดินไปไม่ได้ โชเฟอร์ก็เปิดประตูรอแล้ว“คุณฉันทัช”
เขาเอื้อมมือเก็บแว่นกันแดด ดวงตาแดงเล็กน้อย เนื่องจากไม่ได้นอนดี ๆ มือใหญ่อันสะอาดสะอ้านและได้รูปลูบคาง ก่อนจะพยักหน้าให้ แล้วขึ้นไปด้านในรถ
ฉันทัชรู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนเมื่อครู่มาก เขาหรี่ตาขึ้น เอาขาซ้อนขา จากนั้นก็นึกถึงรูปแต่งงานในกระเป๋าสตางค์ของยู่ยี่
เพียงแต่ผู้ชายคนนั้น……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง