ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง นิยาย บท 351

สรุปบท บทที่ 351 โกหกจนเคยชิน: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

สรุปตอน บทที่ 351 โกหกจนเคยชิน – จากเรื่อง ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง โดย candy cat

ตอน บทที่ 351 โกหกจนเคยชิน ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง โดยนักเขียน candy cat เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ยู่ยี่พยักหน้าพร้อมกับยิ้มส่งเขา สื่อให้รู้ว่าไม่ต้องเป็นห่วงเธอ หากผู้หญิงทำตัวเหมือนปาท่องโก๋ตัวติดผู้ชายตลอดจะไม่งาม

วันรุ่งขึ้นก็บอกว่าจะไปทำงานต่างถิ่น เขาส่งยู่ยี่กลับคฤหาสน์ภูษาธรเสร็จสรรพก็รีบตรงไปยังสนามบินทันควัน ซึ่งเรนนี่ก็อยู่ที่สนามบินด้วย

ความจริงแล้วไม่มีการทำงานต่างถิ่นใด ๆ ทั้งสิ้น เรนนี่บอกว่าอยากไปพักผ่อนหย่อนใจที่ทุ้งหญ้าจอร์แดนในมณฑลกรีนเลย์หัสดินรับปากโดยพลัน

ช่วงนี้เขารู้สึกเครียดเหลือแสน ควรผ่อนคลายโดยไม่คำนึกสิ่งใดบ้างแล้ว ควรผ่อนคลายเพื่อขับกล่อมสภาพจิตใจให้ดีขึ้น

หัสดินยังคงปฏิบัติเฉกเช่นเมื่อครั้งที่เดินทางไปยังฮีทนาร์เหมือนเดิม ซึ่งแผนเดินทางคือไปลงเครื่องที่เฮทเคก่อน จากนั้นก็เปลี่ยนเครื่องบินไปยังมณฑลกรีนเลย์ พวกเขาทั้งสองแยกย้ายกันเดินทาง จะได้ไม่เป็นที่จับตามองของผู้คน

ทุ้งหญ้าจอร์แดนของมณฑลกรีนเลย์ยังไม่ได้เจริญรุ่งเรืองมากนัก ดังนั้นทิวทัศน์จึงเป็นธรรมชาติดั่งยุคโบราณ

เมื่อยืนอยู่บนพื้นหญ้าอันเขียวขจีที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา อารมณ์จึงดีตามไปด้วย สองสามวันนี้ พวกเขากินนอนด้วยกัน กระทั่งเวลาเดินยังจูงมือกันเดิน หากคนแปลกหน้าพบเห็นจะคิดว่าพวกเขาเป็นคู่รักหนุ่มสาวหรือไม่ก็เป็นสามีภรรยาที่รักใคร่เกื้อกูลกัน

ที่นี่ทำให้ทั้งสองคนผ่อนคลายอย่างยิ่งยวด ไม่มีสิ่งใดทำให้ปวดหัว มีเพียงความผ่อนคลายและอารมณ์ดี

ทั้งสองไม่ได้อยู่นาน เมื่ออยู่ได้สามวันก็ซื้อตั๋วเครื่องบินยามค่ำกลับไปที่เมือง S

อันที่จริงไฟล์ทบินตอนกลางคืนก็ดีไปอย่าง เพราะมีผู้ใช้บริการน้อย จึงไม่มีคนสังเกตพวกเขาทั้งสองคน

เรนนี่นอนซุกอกแกร่งของหัสดิน พวกเขารู้สึกว่าใช้เวลาสามวันนี้คุ้มค่ามาก คล้ายกับการฮันนีมูน รู้สึกหวานฉ่ำไปถึงหัวใจ

เดินทางมาถึงเมืองSตอนตีสาม เมื่อลงจากเครื่องบิน เรนนี่ก็ยังคงสะลึมสะลือ ดวงตางัวเงีย เดินสะเปะสะปะ

หัสดินมองเธอปราดหนึ่ง รู้สึกว่าเธอเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโต ช่างไร้เดียงสายิ่ง เขาเลิกคิ้วพร้อมกับเตือน “ดูทางด้วย”

เรนนี่ยิ้มละมุนละไม พลางพยักหน้า“ก็มีคุณอยู่นี่?ฉันจับเสื้อคุณแล้วจะล้มได้ไง?”

ในขณะที่พูด ทันใดนั้นร่างกายเธอเอียงเอนไปด้านข้าง รองเท้าส้นสูงที่ยกขึ้นนั้น บังเอิญไปเหยียบโดนรองเท้าหนังของผู้ที่เดินผ่านพอดิบพอดี

รองเท้าส้นสูงทั้งยาวทั้งแหลม แรงที่เหยียบโดนรองเท้าหนังจึงหนักเอาการ เรนนี่รีบถอยออกมา ก่อนจะกล่าวคำขอโทษ “ขอโทษค่ะ”

“อืม……”สุ้มเสียงทุ้มต่ำอันมีเสน่ห์ดึงดูดใจส่งออกมาจากลูกคอของฉันทัช เขาไม่ได้มีคลื่นอารมณ์มากนัก แค่เจือความเย็นชาเล็กน้อยเท่านั้น

เมื่อดวงตาลุ่มลึกกวาดมองใบหน้าหัสดิน เขาก็ชะงักค้างชั่ววูบ จากนั้นก็กวาดสายตามองเรนนี่ต่อ ใบหน้าหล่อก็ขมวดคิ้วมุ่น

ตอนที่เรนนี่เงยหน้าก็เห็นใบหน้าด้านข้างของผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ชนิดที่ไร้ที่ติ ตอนนี้เขาสวมแว่นกันแดด จึงไม่เห็นดวงตา จมูกของเขาโด่งมาก คางก็เย่อหยิ่งสูงศักดิ์ยิ่ง

เขาเป็นคนตัวสูงโปร่ง สวมเสื้อกันหนาวสีกาแฟ กางเกงสูทที่ประกายแสงสีเงินเล็กน้อย ซึ่งกางเกงตัวนี้ไม่มีรอยยับใด ๆ ประณีตและโดดเด่นมาก

ทว่าก็ทันมองเห็นแค่ใบหน้าด้านข้างของเขาเท่านั้น เพราะเขาก้าวเท้ายาวไปด้านหน้าเสียแล้ว เมื่อมองจากด้านหลังก็ยังคงชวนให้รู้สึกสู่งส่งและสง่าผ่าเผย มีออร่าจัดเต็ม ด้านหลังมีผู้ติดตามเป็นผู้ชายสวมสูทที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางสองคน

หัสดินก็มองแผ่นหลังนี้สักระยะหนึ่งเหมือนกัน บนร่างกายชายผู้นี้แผ่ซ่านไปด้วยกลิ่นอายของความแข็งแกร่ง สุขุมและสง่างาม แล้วเมืองSมีบุคคลเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

ทว่าเขาก็ไม่เห็นใบหน้าของฉันทัชเช่นกัน

รถเบนท์ลีย์สีดำเงางามจอดอยู่นอกสนามบิน ฉันทัชยังเดินไปไม่ได้ โชเฟอร์ก็เปิดประตูรอแล้ว“คุณฉันทัช”

เขาเอื้อมมือเก็บแว่นกันแดด ดวงตาแดงเล็กน้อย เนื่องจากไม่ได้นอนดี ๆ มือใหญ่อันสะอาดสะอ้านและได้รูปลูบคาง ก่อนจะพยักหน้าให้ แล้วขึ้นไปด้านในรถ

ฉันทัชรู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนเมื่อครู่มาก เขาหรี่ตาขึ้น เอาขาซ้อนขา จากนั้นก็นึกถึงรูปแต่งงานในกระเป๋าสตางค์ของยู่ยี่

เพียงแต่ผู้ชายคนนั้น……

“อืม ยุ่งมากเลย ผมไปก่อนละนะ”หากผู้ชายพูดโกหกจนเคยชินก็จะพูดเป็นธรรมชาติสุด ๆ ทั้งยังหน้าไม่เปลี่ยนสีอีกด้วย

เมื่อกลับเข้าห้อง ยู่ยี่ก็จัดแจงห้องนอนคร่าว ๆ เมื่อสายตาหยุดอยู่ที่กระเป๋าเดินทาง เธอก็เดินเข้าไปแล้วเปิดออก

เสื้อผ้าที่เธอเตรียมให้เขาก่อนออกเดินทางยังไม่ได้ใส่ จึงต้องรีดใหม่และแขวงกลับเข้าในตู้เสื้อผ้า

เสื้อกันหนาว กางเกงสูท เธอหยิบออกมาทีละชิ้น เมื่อหยิบชิ้นสุดท้ายออกมาแล้ว กล่องถุงยางก็ปรากฏสู่สายตา

เธอรู้สึกชะงักค้าง ร่างกายแข็งทื่อ ตอนเขาออกเดินทาง เธอไม่ได้เตรียมของแบบนี้ให้เขานี่นา

และของแบบนี้ก็ไม่ใช่ของที่เขาซื้อกลับมาใช้กับเธอ เพราะของตรงหน้าเปิดกล่องแล้ว แถมยังใช้ไปหลายอันอีกต่างหาก

ทันใดนั้น เธอรู้สึกร่างกายหนาวเหน็บ ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกคนอื่นสะกดจุดจนร่างกายด้านชาไปทั่ว

เสื้อที่อยู่ในมือร่วงหล่นลงพื้น ยู่ยี่ไม่ได้เก็บ เดินกลับเข้าห้องไปอย่างแข็งทื่อและด้านชา

หากยังไม่ได้เปิดกล่องถุงยาง เธอก็คงไม่คิดฟุ้งซ่าน แต่ตอนนี้คือเปิดออกและยังใช้ไปหลายอัน แล้วจะไม่ได้เธอคิดฟุ้งซ่านได้เช่นไร

ตอนนี้สมองของเธอยุ่งเหยิงมาก และมีความคิดอันบ้าบิ่นที่ว่า อยากโทรไปแล้วถามเขาโดยตรง

ทว่าเธอก็ไม่ได้ทำ เธอไม่ใช่คนโง่เง่าเต่าตุ่น ไม่มีผู้ชายคนไหนยอมรับหรอก ต้องหาข้ออ้างบ่ายเบี่ยงแน่นอน

ยู่ยี่รู้สึกมือและเท้าเย็นเฉียบ เธอ พยายามหายใจเข้าออก เพื่อควบคุมอารมณ์ของตน สุดท้ายเธอก็ไม่ได้โทร เธออยากรู้ความจริงเรื่องนี้ ไม่ใช่ฟังหัสดินอธิบาย ……

เธออยากใช้สายตาตัวเองมองเห็น อยากใช้หูของตัวเองได้ยิน แต่ถึงอย่างไรร่างกายเธอก็อดสั่นเทาไม่ได้……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง