ณ คอนโด หัสดินกำลังสูบบุหรี่ม้วนแล้วม้วนเล่า ส่งผลให้ห้องรับแขกอบอวลไปด้วยควัน ชวนให้อดสำลักไม่ได้
แม่บ้านทนไม่ไหว สำลักควันบุหรี่ไม่หยุด ตอนที่ยู่ยี่ผลักประตูเข้ามา อากาศที่สูดเข้าไปคำแรกคือควันบุหรี่
“เริ่มตั้งแต่ตอนไหน?”ยู่ยี่มองหัสดินอย่างเย็นเยียบ มือที่ข้างลำตัวเธอสั่นเทาและอดกลั้น กลัวว่าหากตัวเองข่มอารมณ์ไม่อยู่ แล้วเอาหัวบุหรี่จี้ใส่ใบหน้าเขา
หัสดินไม่พูดจา ยังคงสูบบุหรี่ต่อ เขากลัดกลุ้มและหดหู่ใจ ไม่มีอารมณ์ชิลๆเฉกเช่นเมื่อก่อนอีกต่อไป
“ฉันถามว่าเริ่มตอนไหน หูหนวกหรือว่าเป็นใบ้?สี่ปีก่อนเคยนอนกับเธอครั้งหนึ่งก็อาลัยอาวรณ์มากเลยใช่ไหม?”
หัสดินดับบุหรี่ สองมือลูบจับเส้นผม
“ไม่พูดเหรอ?หัสดิน คุณทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงมาก”หัวใจยู่ยี่ดุจโดนมีดเฉือนแรง ๆ และเลือดไหลพลั่กไม่หยุด
เขานึกไม่ถึงว่าจะถูกเปิดโปงเร็วขนาดนี้ นอกจากยอมรับชะตากรรมแล้ว ตอนนี้เขายังจะทำอะไรได้อีก?
“ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าหัสดินเป็นใบ้ อยู่กับเธอแล้วมีความสุขมากใช่ไหม?อารมณ์ดีมากใช่ไหม?”ทุกคำถาม ล้วนทำให้เธอเพิ่มบาดแผลในใจ และเมื่อยิ่งเจ็บก็ยิ่งมีสติ เธอจะให้ตัวเองเจ็บ ให้ตัวเองเจ็บจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ
ระหว่างนี้ เกิดเสียงเรียกเข้าดังขึ้น ซึ่งต้นเสียงมาจากมือถือของหัสดิน แต่เขาไม่รับสาย นั่งไม่ไหวติง
ยู่ยี่กลับเหยียดยิ้มเย้ยหยัน เขาไม่รับสาย งั้นเธอช่วยรับแทนก็ได้ “ใคร?”
“โทรมาจากโรงพยาบาลนะคะ เบอร์ติดต่อของผู้ป่วยเรนนี่คือเบอร์นี้ ฉันเลยโทรมาแจ้งค่านอนโรงพยาบาลค่ะ คุณมาได้ไหมคะ?”
“เรนนี่เหรอ?ไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาลหรอก เธอตายอยู่ตรงนั้นจะดีมากเลย”เธอกดวางสายโดยพลัน
หัสดินเงยหน้า“ผมไปโรงพยาบาลก่อน”
ประโยคง่าย ๆ ทว่ากลับทำร้ายยู่ยี่อีกครั้งจนไม่เหลือชิ้นดี เธอมองเขาราวกับเป็นคนแปลกหน้า
“ผมจำเป็นต้องไปโรงพยาบาล”หัสดินพูดแล้วหยิบเสื้อกันหนาวบนโซฟาขึ้นมา“ตอนนี้เธอนอนโรงพยาบาลเพราะคุณ หากพวกเราจัดการไม่ดี ไม่แน่ว่าคุณอาจโดนฟ้องร้องภายหลัง”
ยู่ยี่ยิ้มเย็น ความหนาวเหน็บจู่โจมเข้าที่หัวจรดเท้า มุมปากเธอเจือความแดกดัน ขวางทางเดินเขา กล่าวทีละคำช้า ๆ “ฉันไม่สน”
หัสดินจ้องมองเธอด้วยคิ้วขมวด
“ไม่ว่าจะฟ้องหรือจะลากฉันเข้าคุก ฉันก็ไม่สนใจ ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล”
หัสดินหลับตา เอ่ยขึ้นว่า“ได้ งั้นผมไม่ไป”
“ตอนนี้ตอบคำถามฉัน คุณกับมันเป็นชู้กันตอนไหน?”ยู่ยี่ยังคงรั้งอยู่กับคำถามเดิมไม่ปล่อย
หัสดินไม่ตอบ หรือจะบอกว่าเขาไม่รู้ควรพูดเช่นไร จึงได้แต่นิ่งเงียบ
“แม่งโว๊ย ฉันคงมีสิทธิ์รู้ว่าโดนหลอกเหมือนลิงนานแค่ไหนมั้ง แล้วคนที่คุณมีชู้ก็เป็นเรนนี่ด้วย คิก คิก”
รู้คำตอบนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด แต่ยู่ยี่ก็อยากรู้ว่าตัวเองโง่โดนหลอกมานานแค่ไหน
ตั้งแต่ต้นยังจบ หัสดินเหมือนประติมากรรมชิ้นหนึ่ง ไม่ว่าเธอจะถามอย่างไร เขาก็ทำตัวเหมือนเป็นใบ้ทุกครั้ง
บรรยากาศในห้องเงียบกริบ ชวนให้กลัดกลุ้มใจและหายใจไม่สะดวก ศีรษะตึงแน่นจนทรมาน คล้ายกับเกิดระเบิดอย่างวุ่นวายขึ้น และนี่คือความรู้สึก ณ ขณะนี้ของหัสดิน
ยู่ยี่มองอย่างเย็นเยียบเขาสองปราด ก่อนจะหมุนกายเดินเข้าห้อง แล้วขดตัว
ชีวิตแบบนี้ ชีวิตแต่งงานแบบนี้ เธอสานต่อไปอย่างไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง