“ในฐานะที่เป็นครู แต่กลับไม่ตอบคำถามที่เป็นคนเอ่ยขึ้นมาเอง ...” เขาเปลี่ยนลักษณะท่าทางและยังย้อนถามกลับอย่างเกียจคร้าน “คุณหญิงเชอร์รีนไม่รู้สึกว่าความรู้ของตนเองต้องปรับปรุงให้สูงขึ้นเหรอ?”
เชอร์รีน: “……”
คุณหญิงเชอร์รีน……
บริเวณจุดที่โดยแทงอย่างแสนสาหัสนั้น หยาดฝนได้แต่ยิ้มให้ แต่มีแค่เธอเท่านั้นที่รู้ ว่ามุมปากที่กำลังยิ้มอยู่นั้นมันชมชื่นขนาดไหน
หลังจากกลับมาถึงบ้านตระกูลสิริไพบูรณ์แล้ว เขาไม่เคยมองหน้าเธอสักครั้ง
ส่วนพวกเขาสองคน อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขถึงเพียงนี้...
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ หยาดฝนพูดว่าจากที่นี่ห่างเทศบาลเมือง aaใกล้มาก เลยยืนกรานที่จะนั่งรถแท็กซี่ไป
เมื่อเห็นว่าเธอยืนกรานเช่นนี้ เชอร์รีนก็ไม่ได้รั้งเอาไว้ หลังจากบอกลากันแล้ว ก็ออกมาทันที
หยาดฝนใส่เสื้อกันลมสีดำ ด้านล่างเป็นกระโปรงยาว เวลาเดินเหิน มันพลิ้วไสวไปตามฝีเท้า สวยหยดย้อยดั่งออกมาจากภาพวาด
เชอร์รีนถึงกับออกปากชม นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่า กระทั่งการเดินเหินของผู้หญิงก็ยังสวยได้ถึงขั้นนี้ ขนาดตอนเดิน ดั่งภาพวาดในบทกวี
รถยนต์เคลื่อนตัวไปด้านหน้า เธอมองวิวทิวทัศน์รอบๆ จนมันดูแปลกพิกลขึ้นเรื่อย ๆ “มาทำอะไรที่บ้านฉันหรือคะ?”
“เดี๋ยวคุณก็จะเข้าใจเอง...” เขาไม่กล้าพูดอะไรมาก ถอยรถเข้าซอง จากนั้นก็เดินไปทางด้านหน้า
แม้ว่าในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัยมากมายก็ตาม แต่เธอก็ไม่ได้ถามมากมายอะไร มีแค่เดินตามหลังเขาติดๆ
บ้านเธออยู่ชั้นสาม เขากลับไปหยุดลงตรงบันไดบริเวณชั้นสาม แต่กลับเดินขึ้นไปชั้นสี่แทน
ชั้นสี่เหรอ?
ชั้นสี่ คนที่เธอรู้จักมีแค่นลินคนเดียวเอง แต่ที่จุดประสงค์ที่เขาพาเธอมานั้น ก็เพื่อเป็นการตามหาตัวสร้างเรื่องในครั้งนี้
จู่ ๆ หัวใจของเธอก็เต้นโครมคราม และเร่งฝีเท้าทันที พลันคว้ามุมชายเสื้อของเขาเอาไว้ “มีหลักฐานไหม?”
“คุณหญิงเชอร์รีนคิดว่าอย่างไรล่ะ?” เขาไม่ตอบแต่ย้อนถามทันที
เธอจ้องมองเขาตาเขม็ง พร้อมทั้งกำมือไว้แน่น และเดินนำหน้า ผ่านตัวเขาไป
ประตูบ้านก็ไม่ได้ล็อก เมื่อผลักเล็กน้อยประตูก็เปิด เธอย่องเท้าเข้าไปด้านใน พลันมองเห็น นลินกำลังเก็บสิ่งของใส่กระเป๋าเดินทางอยู่
“คิดว่าจะไปไหนเหรอ?” เธอยืนอยู่ด้านหลังนลิน และพูดขึ้นมา
จู่ ๆ มีเสียงดังขึ้นจนทำให้นลินตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เธอพยายามเรียกสติกลับคืนมา พลันหันตัวไป และแสร้งทำท่าทางเป็นห่วงออกนอกหน้า
“นี่แกมาได้อย่างไรเนี่ย? ร่างกายได้รับผลกระทบตรงไหนไหม? แกรู้หรือเปล่า วันนั้นฉันตกใจแทบตาย!”
เมื่อมองมาทางเธอ ก็ค่อยๆ พูดโพล่งออกมา “เป็นห่วงขนาดนั้นจริงๆ เหรอ?”
“แน่สิ!”
นลินตอบอย่างหนักแน่นมาก แต่กลับหลบสายตาแทน พลันก้มหน้า และประเมินร่างกายของเธอทั้งข้างบนข้างล่าง
แต่ว่า จังหวะที่หางตามองเห็นรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านนอกประตู อย่างไม่ได้ตั้งใจนั้น ราวกับถูกไฟช็อตทันที และยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น สีหน้าซีดเผือดไม่มีเลือดฝาดแม้แต่น้อย
ออกัสไม่ได้เดินเข้ามาในนั้น จึงยืนอยู่ด้านนอกประตูอย่างสบายใจเฉิบ
อากัปกิริยาของ นลินได้บอกทุกอย่างอย่างชัดเจนแล้ว เชอร์รีนปัดมือของเธอที่กำลังอยู่บนตัวเธอออก “ทำแบบนั้นทำไม ฉันอยากรู้เหตุผล”
เมื่อได้ยินดังนั้น นลินก็หัวเราะเบาๆ และพูดจาถากถางกลับ “อยากได้เหตุผลเหรอ แล้วทำไมไม่ถามตัวเองดูล่ะ?”
“เป็นเพราะว่าฉันโกหกแกครั้งนั้นนะเหรอ?” เธอพูดออกมา เพราะว่านี่เป็นเหตุผลเพียงสิ่งเดียวที่มาจากตัวเธอเอง
เรื่องถูกเปิดเผยจนรู้กันหมดแล้ว นลินก็ขอยอมแพ้เช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง