ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง นิยาย บท 40

จักรกฤษกำลังนั่งดื่มชาอยู่ เมื่อได้ยินดังนั้น พลันถอนหายใจยาวๆ “เธอพูดว่าไม่มีที่พัก และยังรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่าจะทำผิดแบบนั้นอีก พูดว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน ฉันกับแม่ของแกเลยไล่เธอไปไม่ได้”

“คำพูดยังเธอพ่อกับแม่ก็ยังจะเชื่อ? หรือว่าก่อนหน้านี้ยังได้รับการสั่งสอนมันน้อยไปเหรอ?” เมื่อเอ่ยถึงทับทิม เธอก็โมโหจนพุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันที “พวกคุณเป็นพวกใจอ่อน เธอแค่ใช้จุดอ่อนของพวกคุณเล็กน้อยก็เท่านั้นเอง!”

“คนเรายังไงก็ต้องมีสายสัมพันธ์กันอย่างยืดยาว รอวันที่แกอายุเท่าฉันกับแม่แกแล้ว ก็จะเข้าใจดี” จักรกฤษนวดเท้า และขยับแว่นที่อยู่บนสันจมูก

เชอร์รีนสูดหายใจเข้าลึกๆ “ตอนนี้หนูแค่รู้ว่า ตอนนี้ทับทิมก็เหมือนกับตังเม จะสะบัดทิ้งยังไงก็สะบัดไม่ออกสักที!”

เธอเชอร์รีนใจดำอยู่คนเดียวจะมีประโยชน์อะไร พวกเขาคอยให้ท้ายทับทิม ถ้าเธอจัดการโยนกระเป๋าของทับทิมออกไปตอนนี้ พอลับหลังพวกเขาก็จะไปเก็บกลับมาแน่

หลังจากที่พัวพันกับทับทิมมานานขนาดนี้ แต่กลับมาอยู่ ณ จุดเดิม เธอแค่รู้สึกว่าเหนื่อยทั้งกายทั้งใจจริงๆ

จักรกฤษไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อ แต่ถามกลับ “เรื่องของลูกไปถึงขั้นไหนแล้ว?”

“จัดการแล้ว” เธอพูดรวมๆ ไป เพื่อเป็นการผ่อนหนักให้เป็นเบา ปัญหานี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปก็ไม่อยากจะเอ่ยถึงอีก

“งั้นก็ดี สายน้อยของบ้านฉันก็อย่าไปโกรธเลย วันนี้มีแข่งบาสเกตบอล ไปดูเป็นเพื่อนพ่อหน่อยสิ”

จักรกฤษตบไหล่เธออย่างแผ่วเบา และยิ้มให้ จากนั้นก็ดึงตัวเธอที่ยังโมโหอยู่ให้มานั่งลง ที่ห้องรับแขก

เมื่อเปิดโทรทัศน์แล้ว จู่ ๆ ออกัสก็อยู่หน้าจอในเวลานี้ และนั่งลงบนโซฟาสีเลือดหมู และยิ่งขับความหล่อเหลาของเขา ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน

ตอนนี้เขากำลังให้สัมภาษณ์นักข่าว เชอร์รีนยื่นมือออกไป และแย่งรีโมตในมือของจักรกฤษมา พร้อมเร่งเสียงให้ดังขึ้น

“พวกเราทุกคนต่างแปลกใจมาก ว่าตกลงแล้วประธานออกัสไปแต่งงานตั้งแต่ตอนไหน เพราะไม่มีข่าวแพร่งพรายให้ได้ยินสักนิด?” พิธีกรยิ้มและถามออกมา

ร่างกายที่เอนหลังพิงโซฟาอยู่นั้น ขาทั้งสองข้างนั่งเกี่ยวไขว่ห้างกันอย่างสง่างาม รูปลักษณ์อันวิจิตร มองไม่ออกถึงความรู้สึกใดๆ ที่เกิดขึ้น มุมปากคลี่ยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงทุ้มต่ำมาก

“ไม่คิดเลยว่าทุกคนจะสนใจเรื่องผมแต่งงานขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ก็ได้แจ้งไปแล้วว่าจะจัดงานแถลงข่าว ไหน ๆ ก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว คืนพรุ่งนี้ที่โรมแรมอิมพิเรียล ผมกับภรรยาจะออกมาต้อนรับทุกคน หวังว่าทุกคนจะมีความสุขไปด้วย...”

“เพียงเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการรอคอยแล้ว หลังจากแต่งงานแล้ว ประธานออกัสกับคุณหญิงเชอร์รีนยังออกงานพร้อมกันเป็นครั้งแรก กราบขอบพระคุณประธานออกัสเป็นอย่างสูงที่ให้โอกาสพวกเราเข้ามาสัมภาษณ์ ณ ที่นี้ พร้อมทั้งขออวยพรให้ประธานออกัสกับคุณหญิงเชอร์รีนมีความสุขในวันวิวาห์ มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง”

เขาพยักหน้าเล็กน้อย มุมปากคลี่ยิ้ม “ขอบคุณครับ”

ถือว่าเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์แล้ว เชอร์รีนตั้งสติได้ พลันรีบโยนไปทางด้านข้างทันที จากนั้นก็เดินออกไปทางระเบียงด้านนอก และโทรศัพท์ทันที

สักพัก ฝั่งนั้นถึงได้กดรับสาย เป็นเสียงฝีเท้าดังมาก่อน ราวกับกำลังเดินออกมาจากห้องผู้สื่อข่าว แถมยังได้ยินเสียงคนทักทายเขาอยู่รอบๆ ด้วย

“คุณออกัส คุณอธิบายสักหน่อยได้ไหม เมื่อครู่ที่คุณให้สัมภาษณ์ไปมันมีความหมายว่ายังไง?”

“ความหมายตามนั้นเลย คืนพรุ่งนี้ คุณหญิงเชอร์รีนกับผมจะออกวานฉลองการแต่งงานที่โรมแรมอิมพิเรียล…”

เชอร์รีนสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง “คุณออกัส เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว พวกเรายังอยู่ด้วยกันอยู่เลย แค่เผลอหลุดปากพูดไปเท่านั้นเอง นี่ตกลงว่าคุณให้ค่ากับคำพูดขนาดไหนกัน?”

“เพิ่งตัดสินใจแบบปัจจุบันทันด่วน คุณหญิงเชอร์รีนรู้เรื่องแล้ว งั้นผมก็จะไม่พูดซ้ำสองนะ เพราะยังมีประชุมรออยู่ แค่นี้...”

เขาเหมือนจะยุ่งมากจริงๆ เพราะคุยกับเธอไปด้วย พร้อมทั้งสั่งงานเลขาฯไปด้วย และหยิบเอกสารขึ้นมา จากนั้นก็ไปเจรจาธุรกิจต่อทันที

“……”

เมื่อกลับเข้าห้องรับแขกมาแล้ว กนกอรซื้อกับข้าวกลับมาแล้ว ตอนที่กำลังเลือกผักอยู่นั้น ทับทิมก็เป็นลูกมือช่วย เธอก็นั่งเลือกผักอยู่ตรงนั้น พร้อมทั้งคอยกระซิบบางอยู่

เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาหา มือกนกอรที่กำลังวุ่นวายอยู่ถึงกลับชะงักทันที “ได้ข่าวคืนพรุ่งนี้จะจัดงานฉลองที่โรมแรมอิมพิเรียล?”

“หนูก็เพิ่งจะรู้นี่แหละ ทำไมเหรอ แม่?”

เวลานี้เอง ทับทิมก็วางผักที่อยู่ในมือลง พลันชนไหล่ของกนกอรแผ่วเบา “แม่ มีเรื่องฝากแกสักเรื่อง!”

เมื่อได้ยินดังนั้น เธอเดินฮัมท่อนเพลงและเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างได้ใจ เชอร์รีนจ้องมองเธอ จากนั้นก็หันไปมองกนกอร “แม่ เธอพูดอะไรกับแม่?”

พลันมีเสียงฝีเท้าดังสะท้อนขึ้น หยาดฝนเดินเข้ามาในห้องรับแขก แวบแรกก็เห็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งหน้าตาหล่อนั่งอยู่บนโซฟา

เวลาอยู่กันสองค่อสอง แต่ไม่คิดเลยว่าจะกระอักกระอ่วนขนาดนี้!

ไม่มีการทักทาย แถมยังพูดออกไปไม่ได้อีก งั้นควรจะ ทักทายว่าอะไรดี?

หลังจากตะลึงอยู่สักพัก หยาดฝนก็ยิ้มให้ และพูดออกมา อย่างมีมารยาทและสุภาพมาก “ออกัสกินข้าวเย็นมาหรือยัง?”

ปลายปากกายังสะบัดอยู่เช่นเดิม เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้น ได้แต่ตอบรับอย่างเฉยเมยแทน

“ฉันจะไปชงกาแฟ คุณจะดื่มไหม?”

มุมปากของเขากระตุกขึ้น จากนั้นก็พูดบทอย่างเย็นชา “ไม่ต้องการ...”

มันปวดใจ หยาดฝนพลันหันตัว เดินไปทางห้องครัว และไม่ทันระวังตัว กระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าเสื้อกันหนาวมันร่วงหล่นอยู่บนพื้น

เธอเองก็ไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ

เธอเอนตัวพิงกับกำแพง จนรู้สึกว่าแผ่นหลังเริ่มเย็น แม้แต่หัวใจก็ยังเย็นชา การแสดงออกของเขานั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการจริงๆ

มีมารยาท เย็นชา ไม่สนิทสนม พร้อมทั้งมีเหินห่าง เป็นสุภาพบุรุษตอนที่ทำกับผู้หญิงคนอื่น

ทว่า เมื่ออารมณ์เหล่านี้มาใช้กับตัวเธอแล้ว มันกลับไม่ยินดี ทั้งเสียใจ และผิดหวังถึงเพียงนี้

เมื่อเก็บอาการได้แล้ว เธอเริ่มดื่มกาแฟ พลันนึกถึงโทรศัพท์ที่ไม่ได้รับสายสองสายนั้น พลันความหาโทรศัพท์

เมื่อหาในกระเป๋าทุกกระเป๋าในเสื้อกันหนาวแล้ว กลับไม่เห็นกระเป๋าสตางค์ หยาดฝนย่นคิ้วทันที จากนั้นก็เริ่มควานหาในห้องครัวแทน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง