เรนนี่เอ่ยออกมาประโยคหนึ่ง “สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ ความรู้สึกรักนั้นนับเป็นอะไร? แล้วการยั่วยวนนั้นนับเป็นอะไรกันล่ะ?”
“ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ยู่ยี่รูปร่างหน้าตาจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอแต่ก่อนนั้นเคยอยู่ในใจของหัสดิน รักเขาปานใจจะขาด ตอนนี้ไม่มีหัสดินแล้ว ไม่ใช่ว่าหมดสภาพไม่เป็นผู้เป็นคนไปแล้วหรอกนะ?” เนเน่ลองเดาดู
“เมื่อเร็วๆ นี้เธอเห็นยู่ยี่?” เรนนี่ถาม
“ไม่เห็นหรอก แต่ว่าลองมาคิดดูก็รู้แล้ว ผู้หญิงที่เพิ่งสูญเสียความรักไปทุกคนล้วนซูบเซียวกันทั้งนั้น ฉันอีกนิดก็นึกถึงรูปร่างหน้าตาตอนนี้ของเธอออกแล้ว เพื่อนฉันคนหนึ่งมาบอกว่าเคยบังเอิญเห็นเธอทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาด นึกไม่ถึงเลยว่าจะตกต่ำถึงขั้นนี้” เนเน่ทำได้เพียงถอนหายใจ ดังนั้นจึงมีคำกล่าวว่าผู้ชายนั้นไว้ใจไม่ได้ เวลาตั้ง 7 ปี รักกันขนาดนั้น ตอนนี้ไม่นึกเลยว่าจะมาเป็นพนักงานทำความสะอาด!
เรนนี่กระตุกยิ้ม “ ถ้าหากความรู้สึกระหว่างพวกเขานั้น จริงใจต่อกันและผ่านลมผ่านฝนมาด้วยกันมากพอ หากเป็นอย่างนั้นแล้วแน่นอนว่าคงไม่มีโอกาสให้ฉันได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาทั้งสอง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม มันก็เป็นปัญหาระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ฉันเพียงแค่ทำให้ความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคงนี้ให้ถึงจุดวิกฤติก่อนเวลาก็เท่านั้น ฉันเตรียมพร้อมมา 7 ปี ไม่ช้าก็เร็วย่อมได้ผลลัพธ์กลับคืนมา”
“เธอกับเขาเป็นอย่างนี้ต่อไปก็ไม่มีอะไรขึ้นมา ถ้าอย่างนั้นก็แต่งงานกันเถอะ ในเมื่อคบกันเรียบร้อยแล้ว แต่งงานก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็วที่ต้องเกิดขึ้น””เนเน่ กล่าว
แต่งงาน? นิ้วของเรนนี่ขยับไปมาเล็กน้อย หัวใจเธอกำลังเต้นรัวอย่างหนัก
“จริงสิ ใกล้จะมีงานเลี้ยงรุ่นอีกครั้งแล้ว เธอคิดว่ายู่ยี่จะมาได้ไหม?”
เรนนี่ส่ายหัว ยู่ยี่ในครั้งนี้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเกินไป เธอจะมาปรากฏตัวต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นพวกนั้นได้อย่างไร?
“ถึงตอนนั้นฉันจะพยายามชวนดู ถ้าเธอมาได้ก็คงไม่เป็นอะไรไปมากกว่าจุดสนใจของทุกคน แล้วที่งานนั่นคงจะเป็นละครฉากหนึ่งที่สุดยอดมากแน่ๆ”
หัสดินเดินออกมาแล้ว พร้อมกับใบเสร็จที่มีลายเซ็น “คุณไม่ใช่ว่าตอนนี้ก็ไม่มีเสื้อผ้าเหมือนกันเหรอ ไปชั้นสามสิ”
เขาปฏิบัติกับเธออย่างใส่ใจ นี่ทำให้เรนนี่มีความสุขมาก เสื้อผ้าผู้หญิงที่ชั้นสามล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์เนม ไม่ว่าจะคุณภาพหรือดีไซน์ต่างดีทั้งหมด
หัสดินมองเลือกเสื้อผ้าไม่กี่ชุด ก็ให้เธอไปลองใส่ เรนนี้ยิ้มอย่างมีความสุขยิ่งขึ้น เนเน่พูดถูกแล้ว เธอกำลังคิดว่าใจของยู่ยี่จะรู้สึกขมขื่นหรือไม่นะ?
ถึงเธอไม่ใช่ยู่ยี่ แต่เธอก็เป็นพยานรักให้กับความรักของพวกเขามาตั้งแต่แรก มาตอนนี้เธอรู้สึกขมขื่น เพื่อความรักของหัสดิน
แน่นอนว่ามันทั้งขม อีกทั้งยังหนาวเหน็บ ยิ่งรักมากเท่าใดยิ่งเจ็บปวดเจียนตายเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นหลังจากใจที่ตายไปแล้วได้รับการดูแล มันก็กลับมาเกิดใหม่ได้อีกครั้ง
ขณะที่เดินออกจากห้าง เรนนี่จับแขนของหัสดินอย่างใกล้ชิดสนิทสนม มีรอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏขึ้นบางเบา เอื้อยเอ่ยคำออกมาทีเล่นทีจริง“ ชุดแต่งงานตอนนี้ดูสวยไปหมดเลย หัสดิน สักวันหนึ่ง คุณจะมาขอฉันแต่งงานไหม?” ผู้คนต่างล้วนมีความโลภด้วยกันทั้งนั้น ตอนที่เธอยังไม่ได้ผู้ชายคนนี้ ความคิดของเธอทั้งหมดล้วนแต่เป็นความคิดที่ว่า เธอต้องทำอย่างไรถึงจะได้ผู้ชายคนนี้ ขอเพียงแค่ได้ครอบครองก็เพียงพอแล้ว
หลังจากที่ได้ครอบครองแล้ว ก็คิดโลภอยากเป็นภรรยาของเขา เหล่านี้นับว่าเป็นข้อเสียของผู้หญิง ถึงแม้ว่าปากจะบอกว่าฉันขอแค่ได้อยู่เคียงข้างคุณก็ดีและพอใจแล้วก็ตาม
“สวยมากจริงๆ” หัสดินกล่าวออกมา แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ รวมถึงไม่ได้ตอบคำถามของเธอด้วยเช่นกัน……
เรนนี่กำลังคิด คำตอบเช่นนี้ถือว่ายังดี เขาไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ตอบเธอเช่นกัน นั่นหมายความว่าเธอยังมีความหวัง ยังมีความเป็นไปได้ ลมพัดในหูเสียงดังหวีดหวิว ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้…….
เนเน่เพียงแต่มองดูอย่างเงียบๆ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าที่แท้แล้วความรักความผูกพันในช่วงเวลา 7 ปีที่อยู่เคียงข้างช่วยเหลือกันมานั้นมันก็แค่นี้เอง
ในตอนแรกสมัยที่อยู่โรงเรียนนั้น หัสดินและยู่ยี่นับว่าเป็นคนดังของโรงเรียน ถ้าพูดถึงคู่รัก สองคนนี้ต้องอยู่ในลิสต์คู่รักที่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ทุกวันไม่เคยแยกห่างออกจากกัน แสดงความรักกันอย่างหวานชื่น
แต่เดิมคิดว่าสองคนนี้แต่งงานกันไปตั้ง 4 ปี ย่อมมีชีวิตคู่ที่มีความสุขและราบรื่นต่อไปเป็นแน่ แต่ใครจะไปรู้ล่ะ!
จ้องมองไปที่หัสดิน ทำให้เธอรู้สึกว่าผู้ชายนั้นแท้จริงแล้วเชื่อถือไม่ได้ ความรักในช่วงเวลาหนึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเป็นความรักตลอดไป เธอคิดไปถึงยู่ยี่อีกครั้ง และรู้สึกสงสารผู้หญิงคนนั้นเหลือเกิน
แรกเริ่มเป็นภรรยาของหัสดิน มาตอนนี้กลับเป็นคนทำความสะอาด จะไม่รู้สึกสงสารได้อย่างไร?
บางที หัสดินจะแต่งงานกับเรนนี่จริงๆก็ได้ อย่างน้อยเมื่อสักครู่นี้เขาก็ไม่ได้ต่อต้านกับคำพูดของเรนนี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง