ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง นิยาย บท 409

“……”ยู่ยี่ยิ้มแห้ง ๆ เมื่อนึกได้ว่าอย่างไรเสียก็ขายหน้าหมดแล้ว ทำไมต้องใส่ใจอีก “ไปกินข้าวเที่ยงกันเถอะค่ะ ตรงข้ามนี้มีร้านอาหารที่อร่อยมากเลย”

“โอเค”

เรนนี่เดินออกนอกบริษัท สามารถจินตนาการได้ว่าถ้อยคำของเธอเมื่อครู่ เขาคงได้ยินไม่น้อยเช่นกัน

ถึงแม้จะขายหน้าต่อหน้าเขา และรู้สึกไม่สบายใจ ทว่าก็ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ ยู่ยี่ตายใจตายหัสดินแล้วจริง ๆ

ทันใดนั้นเธอรู้สึกคลื่นไส้ เธอหาถังขยะรอบกาย จากนั้นก็อ้วก แต่ไม่ได้อ้วกอะไรออกมาเลย

ตอนเช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย บวกกับขาดประจำเดือนด้วย เรนนี่พลันขมวดคิ้วมุ่น หรือว่าจะ ……

เธอคิดว่าควรไปตรงที่โรงพยาบาลสักหน่อย

ในร้านอาหารอิตาลี ยู่ยี่สั่งสปาเก็ตตี้สองจานกับไวน์แดงสองแก้ว

หลังจากที่เมื่อคืนคุยโทรศัพท์กับเขาแล้ว เช้าวันนี้เธอโทรบอกเขาว่าจะเลี้ยงข้าวกลางวัน แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาประจวบเหมาะเช่นนี้ ……

พึ่งยกอาหารมาเสิร์ฟ ผู้จัดการก็โทรบอกเธอว่าให้สานงานที่เซ็นสัญญาเมื่อวานต่อ ซึ่งหมายถึงให้เธอรับผิดชอบงานส่วนนี้

เมื่อวานเธอยังยินดีจะหารายได้จากหัสดิน ทว่าตอนนี้เธอไม่อยากได้เงินของหัสดินแม้แต่แดงเดียว เธอรู้สึกสะอิดสะเอียน

เธอปฏิเสธผู้จัดการทันที เธอไม่อยากรับผิดชอบโปรเจคนั้น ไม่ยินดีปรีดาเลยสักนิด

ฉันทัชจิบไวน์เล็กน้อย จ้องมองเธออย่างจดจ่อ เขาได้ยินเนื้อหาที่เธอคุยโทรศัพท์อย่างชัดเจน ……

ซึ่งผู้จัดการไม่ยอม ยู่ยี่ก็โมโหอย่างหาได้ยาก จากนั้นก็กดสายทิ้งเสียเลย

ผู้จัดการใช้เธอเป็นเครื่องมือในการกอบโกยผลประโยชน์ตลอด ไม่ว่าจะเรื่องโครงการก็ดี ไปจนถึงสัญญาเมื่อวาน เธอถูกใช้เป็นเครื่องมือตลอด แต่เวลาเดียวกันเธอก็ได้รับผลประโยชน์ด้วยจริง ๆ

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะถูกใช้เป็นเครื่องมืออย่างไม่มีบรรทัดฐานเป็นของตัวเอง

ปรกติดูเธอเหมือนนิสัยดี แต่เมื่อระเบิดอารมณ์ขึ้นมาเมื่อไหร่ คนทั่วไปนั้นต้านทานไม่ไหวแน่นอน

จากนั้นผู้จัดการก็โทรมาอีกครั้ง ซึ่งยู่ยี่ได้ยินเสียงเรียกเข้า ทว่ากลับจงใจไม่รับสาย

ผู้จัดการไม่ยอมเลิกรา โทรติดต่อกันอีกหลายสาย มาในทำนองที่ว่า ผมจะโทรจนกว่าคุณจะรับสาย

ในที่สุด ยู่ยี่ก็รู้สึกรำคาญ เปิดฝามือถือด้านหลัง จากนั้นก็เอาแบตเตอรี่ออกมา แล้วปิดเครื่อง

จากนั้นก็เกิดความเงียบเข้ามาแทนที่ บรรยากาศรอบกายเงียบงัน ไม่มีเสียงรบกวนใด ๆ

ยู่ยี่หยิบช้อนส้อมขึ้นมา เตรียมจะกินอาหารเที่ยง ทว่ากลับรู้สึกมีสายตาจับจ้องตัวเธอ คล้ายกับมองทะลุเธอจนหมดเปลือกแล้ว

เธอเงยหน้ามองเขาพลันรู้สึกแปลกใจ ไม่เข้าใจเอา

“ไม่รู้สึกว่าคุณจัดการเรื่องนี้ไม่เหมาะสมหรอกหรือ?” ฉันทัชเอ่ยปากพูด แขนกำยำวางไว้บนโต๊ะ

“เขาเป็นหัวหน้าของฉัน ท่าทีของฉันเมื่อกี้ไม่เหมาะจริง ๆ แต่ในสายตาเขา ฉันก็เป็นหมากตัวหนึ่ง เขาจะใช้เพื่อหาผลประโยชน์ทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เขาทำแบบนี้ ฉันรู้สึกเอือมระอามาก”

ผู้จัดการให้ความรู้สึกว่า เขาชอบใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือมากเกินไป ซึ่งเธอไม่ปลื้มจุดนี้เป็นอย่างมาก

ฉันทัชยิ้มเบา ๆ ก่อนจะยกไวน์ขึ้นจิบ และพูดต่อว่า

“สังคมสมัยนี้ก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น และเรียกได้ว่าแบบนี้คือกฎ ถ้าคุณมีจุดที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือได้ ทุกคนก็จะใช้สิ่งนั้นของคุณ พวกเขาไม่คำนึกถึงความรู้สึกของคุณหรอก นี่คือโลกแห่งความเป็นจริงนะ และท่าทางที่คุณควรมี ไม่ใช่รู้สึกรำคาญหรือเอือมระอา แต่คุณต้องเปลี่ยนจากถูกพวกเขาใช้เป็นเครื่องมือ ให้กลายเป็นอะไรบางอย่าง หรือยื่นเงื่อนไขก่อนรับงาน”

ยู่ยี่รับฟังเงียบ ๆ จากนั้นก็เลิกคิ้ว“พูดตรง ๆ ก็คือ ใช้เป็นเครื่องมือซึ่งกันและกัน”

“ฉลาดมาก ถ้าคุณรู้สึกฟังไม่เข้าหู คุณก็คิดซะว่าต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือกันก็ได้” ฉันทัชพูดต่อ

ยู่ยี่“……”

“ที่ผมบอกว่าท่าทีของคุณไม่เหมาะ เพราะคุณพูดเยอะเกินไปหรืออารมณ์เสียด้วย แต่สุดท้ายที่ทำไปก็ไม่มีความหมาย คนเราไม่จำเป็นต้องพูดมาก แค่พูดจับประเด็นอย่างเรียบง่ายก็พอ ถ้าจับประเด็นสำคัญได้ จะไม่ทำให้หัวหน้าเคืองใจ และยังบรรลุเป้าหมายของตัวเองด้วย ซึ่งจะดีต่อทั้งสองฝ่าย”

ยู่ยี่ไม่ได้พูดอะไร แค่ฟังเขาพูดเงียบ ๆ

ฉันทัชเตือนเขาอีกครั้ง“คุณมีประสบการณ์ด้านสังคมน้อยเกินไป การทำงานมีสามระดับ อันแรกคือตั้งใจทำงาน อันที่สองคือต้องเข้ากับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าให้ได้ ส่วนสุดท้ายคือ วิธีจัดการเรื่องงาน เวลาควรใช้ไม่แข็งก็อย่าได้ใจอ่อน แต่เวลาควรอ่อนข้อก็อย่าแข็งกระด้างเกินไป ……”

ยู่ยี่พยักหน้า สื่อให้รู้ว่าเธอตั้งใจฟังมากและฟังอย่าละเอียด ซึ่งสิ่งที่เขาชี้แนะนี้ ล้วนเป็นจุดบกพร่องของเธอทั้งหมด

จากนั้นเธอกัดริมฝีปาก มองเขา“แต่ฉันไม่อยากรับโปรเจคนี้จริง ๆ”

“คุณไม่อยากรับเพราะเรื่องส่วนตัว แต่อันนี้คือโอกาสฝึกฝนของคุณ เมือง Sไม่ได้ใหญ่เลย ต้องเจอกันสักครั้งแน่ คุณไม่มีเหตุผลและความจำเป็นที่จะต้องหลบหน้าเขา”

ยู่ยี่ส่ายหัว“ฉันไม่ได้หลบหน้า แต่ฉันไม่อยากเห็นหน้าเขา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง