เธอขมวดคิ้วเดินเข้าไป นาโนก็ยัดมือถือบนฝ่ามือเธอ ตอนนี้ยู่ยี่เข้าใจแล้ว
“กินข้าวเย็นหรือยัง?” เสียงอ่อนโยนของฉันทัชลอยเข้าหู
“กินแล้วค่ะ คุณล่ะ?” ยู่ยี่เดินอ้อมนาโนที่ตบโซฟาเสียงดัง แล้วไปยืนตรงหน้าต่าง ซึ่งเว้นระยะห่างกับเพื่อนพอสมควร
เขาพยักหน้าขานรับ จากนั้นก็ถามอีกว่า“ตอนบ่ายคุณอยู่กับเขาหรือ?”
ยู่ยี่ไม่เข้าใจ“ใคร?”
“คุณหัสดิน” เสียงฉันทัชเคร่งขรึมเล็กน้อย ไม่ค่อยอยากเอ่ยถึงชื่อนี้มากนัก
จากนั้นยู่ยี่ก็เข้าใจว่าเขาหมายถึงใคร ถามด้วยความประหลาดใจว่า“คุณรู้ได้ยังไงคะ?”
เขาอธิบายเสียงเรียบ“ตอนบ่ายผมโทรหาคุณ แต่เขารับสาย……”
ตอนแรกยู่ยี่ชะงักงัน จากนั้นก็เกิดเพลิงโกรธขึ้นในใจ เขามีสิทธิ์อะไรมารับสายของเธอ?
“บริษัทส่งฉันไปเซ็นสัญญาค่ะ ฉันไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเขา เขาน่าจะรับสายตอนฉันไปเข้าห้องน้ำค่ะ” เธออธิบายอย่างหงุดหงิด
ทางฉันทัชยกมุมปากโค้งขึ้น จากนั้นก็พูดว่า“ท่าทางของคุณเมินเฉยกับผมเกินไปหรือเปล่า?”
เมินเฉยเหรอ ยู่ยี่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ กุมมือถือไว้แน่น
“ทุกครั้งที่เจอกัน ผมเป็นฝ่ายโทรหาคุณตลอด คุณไม่เคยเป็นฝ่ายโทรหาผมก่อนเลย จริงอยู่ที่ผู้ชายคนเป็นฝ่ายรุก แต่ถ้าผู้หญิงไม่ใส่ใจเลยก็จะส่องสัญญาณอย่างหนึ่งให้ผู้ชาย คุณเข้าใจไหม?”
มุมปากยู่ยี่ยกยิ้มเบา ๆ ใบหน้าเริ่มแดงเล็กน้อย“คุณกำลังบ่นฉันอยู่?”
“ใช่” เขายอมรับตรง ๆ อย่างผิดปกติ
หัวใจยู่ยี่เริ่มเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ขอแค่เป็นเขา ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือคุยในสาย หัวใจเธอก็จะเต้นไม่เป็นส่ำตลอด
ครุ่นคิดชั่วครู่ เธอพูดว่า“ฉันจะแก้ไขด้านนี้”
แม้จะมีสายกั้นระหว่างกัน ทว่ายู่ยี่ก็ได้ยินเสียงหัวเราะอันมีเสน่ห์ของเขาอย่างชัดเจน“ผมรอคอยพฤติกรรมดีเด่นจากคุณมาก……”
วางสายเสร็จ เธอนั่งอยู่ด้านข้างนาโน นาโนจับคางเธอพลันยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ หยอกว่าไปพูดคำหวานอะไรมา ทำไมหน้าแดงอย่างนี้
ยู่ยี่จับใบหน้าตัวเองอย่างประหม่า บอกนาโนว่า เวลาคุยกับเขาแล้วเธอมักจะเป็นอย่างนี้เสมอ
นาโนทำตาขวางใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์“มีอะไรน่าแปลก ผู้ชายคนนั้นมีเสน่ห์มาก ผู้หญิงคนไหนหน้าไม่แดง ใจไม่เต้นบ้าง?”
ยู่ยี่คิดใคร่ครวญดูแล้วก็รู้สึกว่าถูก นาโนพูดมีเหตุผล ไม่ใช่เพราะเธอหน้าบาง แต่เป็นเพราะกลิ่นอายบุรุษเพศของเขาเร่าร้อนเกินไป
……
เรนนี่ได้รับสายจากเนเน่
เนเน่บอกว่าตอนบ่ายเธอเดินทางผ่านหอชาวังแล้วบังเอิญเจอหัสดินกับยู่ยี่นั่งอยู่ตรงนั่นด้วยกัน
พึ่งได้ยิน หัวใจของเรนนี่ก็เต้นรัวแรงนิด ๆ ทว่ายังถือว่าปกติ
จากนั้นเนเน่เล่าต่อว่า แต่เหมือนพวกเขาสองคนเหมือนกำลังคุยเรื่องงานอยู่ เซ็นสัญญาอะไรประมาณนี้ ยังมีผู้ช่วยอยู่ด้านข้างด้วย
จากนั้นหัวใจของเรนนี่ก็ปกติสงบสุขอย่างแท้จริง
วางสาย เรนนี่ดื่มน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว แล้วเอาผ้าคลุมไหล่ลง ผู้หญิงสวยเป็นตัวอันตรายจริง ๆ
เมื่อผู้หญิงที่อยู่กับเขาคือยู่ยี่ งั้นยู่ยี่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ แค่พบปะกันเรื่องงาน มันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว
เธอยังคงมั่นใจตัวเองหลายส่วน……
หัสดินกลับถึงบ้าน เรนนี่เตรียมอาหารที่เขาชอบที่สุด และยังมีน้ำแกงด้วย แน่นอน ต้องซื้อมาจากโรงแรมอยู่แล้ว ทั้งสองนั่งรับประทานอาหารค่ำพร้อมกัน
จากนั้นก็เปิดโทรทัศน์ออก ซึ่งกำลังรายงานข่าวสดอยู่ หัสดินพิงอยู่บนตักเรนนี่อย่างขี้เกียจ ส่วนเธอก็ช่วยเขานวดผ่อนคลาย
เรนนี่มีมารยาทหญิงร้อยเล่มพันเกวียน หนึ่งในวิธีนั้นก็คือให้ผู้ชายรู้สึกสบาย และที่สำคัญต้องทำตัวลี้ลับน่าค้นหา แปลกหูแปลกตาตลอดเวลา
ซึ่งหัสดินก็ชอบที่เรนนี่นวดมาก มันทำให้เขารู้สึกสบาย ผ่อนคลายอย่างยิ่งยวด
เช้าวันต่อมา หัสดินไปทำงาน ส่วนเรนนี่ลางาน ไม่ได้ไปบริษัท
เธอรู้สึกว่ายู่ยี่ไม่ได้หมดรัก เธอต้องไปแทงหัวใจอีกฝ่ายแรง ๆ อีกครั้ง
การแทงครั้งนี้ ต้องให้อีกฝ่ายตายใจ และต้องทำให้เกลียดหัสดินเข้ากระดูก สิ่งที่เรนนี่ต้องการคือ ทั้งสองคนกลายเป็นศัตรูกัน
ยู่ยี่กำลังทำงานก็ถูกผู้จัดการจ้องราวกับผึ้งจ้องดอกไม้ก็ไม่ปาน เขายิ้มตาหยีพร้อมกับเรียกยู่ยี่ไม่หยุดปาก
คนที่รู้สนกลในก็จะเข้าใจว่าปลื้มที่เธอเซ็นสัญญามาได้ หากไม่รู้ก็อาจคิดว่าเธอเป็นเด็กของผู้จัดการ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง