ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง นิยาย บท 617

สรุปบท บทที่ 617 ไม่กลัวตัวเองหกล้มตายหรือไง: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

อ่านสรุป บทที่ 617 ไม่กลัวตัวเองหกล้มตายหรือไง จาก ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง โดย candy cat

บทที่ บทที่ 617 ไม่กลัวตัวเองหกล้มตายหรือไง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย candy cat อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บางครั้งเรื่องบนเตียง ผู้หญิงเป็นฝ่ายรุกก่อน จะยิ่งปลุกอารมณ์ได้ดีกว่า

เมื่อคิดได้ดังนี้ ลิลลี่ก็โน้มตัวไปด้านหน้า ยกริมฝีปากขึ้นเพื่อจะจูบกับเขา

วินาทีที่ริมฝีปากทั้งคู่จะประกบกัน อาคิระกลับลุกขึ้นยืน

ลิลลี่ชะงักค้าง ความว่างเปล่าด้วยความหมดหวังจู่โจมเข้าใส่เธอทันควัน

อาคิระดึงเนคไทบนคอ ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อแล้วกล่าวว่า“ไปซะ วันหลังอย่ามาที่นี่อีก”

ลิลลี่อึ้ง นอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น

“ถึงคุณจะเหมือนเธอ แต่คุณก็ไม่ใช่เธอ หน้าตาเหมือนกันมากแล้วยังไง?เธอคือปมในใจของผม เมื่อเห็นหน้าคุณ ผมก็จะยิ่งมีปมมากขึ้น วันหลังอย่าก้าวเข้ามาที่นี่แม้แต่ก้าวเดียว และไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้าอีก” อาคิระกล่าวเสียงเย็นเยียบ

หลังจากดาหวันตาย ขอเพียงเขาแตะต้องผู้หญิง เวลานั้นก็จะเห็นภาพสะเทือนใจพวกนั้น

ใบหน้าน่าสงสารและโศกเศร้าก่อนตายของเธอ จะทับซ้อนกับใบหน้าผู้หญิงที่อยู่ใต้ร่างเขา

เป็นแบบนี้ซ้ำ ๆ ซาก ๆ เวลาผ่านไปนานเข้า เขาจึงไม่มีอารมณ์ใคร่ต่อผู้หญิงอีก

ส่วนสาเหตุที่ร่วมหลับนอนกับพนาวัน มันมีเหตุและผลของมัน

ครั้งแรกเกิดขึ้นตอนเมา และครั้งต่อ ๆ มาก็ทำไปเพราะความเกลียดแค้น

และเพราะความเกลียดแค้น สมองจึงมีสติเป็นพิเศษ ดูออกว่าผู้หญิงใต้ร่างเป็นใคร และสามารถลืมดาหวันได้สนิท

ลิลลี่คิดจะเข้าใกล้เขาอีก ทว่ากลับถูกอาคิระสะบัดมือผลักไปด้านข้าง“ผมพูดชัดเจนมากพอแล้ว ออกไปเดี๋ยวนี้ อย่าทำให้ผมโมโห”

ลิลลี่ไม่กล้ายั่วโมโหเขา ได้แต่เดินออกไปด้านนอกคฤหาสน์

เธอไม่กล้ายั่วโมโหเขาเลย

อาคิระเงยหน้าหายใจเสียงดัง

เหมือนอย่างที่พนาวันบอก ตกลงเขาอยากครอบครองเธอหรืออยากแย่งของตัวเองกลับคืนมา หรือว่ามีสาเหตุอื่นกันแน่?

อาคิระสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็อาเจียนทุกอย่างในท้องออกมา

เขาหลับตา ปล่อยให้หัวใจตัวเองเงียบสงบลง

เขาต้องการคำตอบว่าทำไมตัวเองถึงไม่เหมือนเดิม……

บริเวณรอบ ๆ เงียบกริบ ได้ยินแต่เสียงน้ำไหลกับเสียงหายใจของเขา

น้ำเย็นมาก ทว่ากลับยิ่งทำให้คนมีสติมากขึ้น

ตอนนี้หัวใจกับสมองขาวโพลน ประหนึ่งตอนเดินน้ำค้างได้พาหมอกมาด้วย ขาวและเงียบสงัดยิ่ง

ท่ามกลางความขาวนี้ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นกลางใจ สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกชัดเจนมากขึ้น ……

ทันใดนั้น อาคิระก็ลืมตาขึ้น ลูกกระเดือกขยับ

ความคิดนั้นทำให้ดวงตาเขาเบิกกว้าง

ที่แท้ เธอก็ดึงดูดใจเขา เขาสนใจในตัวเธอ……

เขาลองคิดใคร่ครวญดูอีกครั้ง ความสนใจและความหวั่นไหวเกิดขึ้นตอนไหน น่าจะตอนที่เธอคุยกับเอวาที่สุสาน

นับจากคืนแรก ถึงเขาจะไม่ได้รักเธอจริง ทว่าการได้ใกล้ชิดกับเธอจึงค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสนใจ อยากเอาใจใส่ ……

เขาหายใจแรง ๆ จากนั้นก็นั่งในอ่างอาบน้ำ มือใหญ่นวดระหว่างคิ้ว หัวใจยิ่งเต้นเร็วถี่มากขึ้น ……

......

หมีพูลนั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหาร

คุณแม่กำลังทำอาหารอยู่ในครัว

เขาคิดถึงคุณพ่อ จากนั้นก็ก้มหน้าทำการบ้านต่อ

เธอทำเมนูต้มเส้นเผ็ด

ตอนบ่ายพนาวัน มนตรีและหมีพูลไปที่ห้างสรรพสินค้าด้วยกัน และยังไปซื้อของมากมายจากตลาดสดอีกด้วย

“หมีพูลชอบกินไส้อั่วไม่ใช่เหรอ ซื้อไปสองอันสิ” มนตรีถาม

พนาวันพยักหน้า ขานรับ“ค่ะ”

เขาช่วยเหลือเธอ การที่เขาขอกินข้าวสักมือ เธอจึงไม่มีเหตุผลปฏิเสธ

เธอกำลังจดจ่อกับการทำอาหาร ส่วนมนตรีก็ตั้งใจหั่นไส้อั่วเป็นชิ้นบาง ๆ ร่างสูงโปร่งของเขาขยับ เตรียมจะใส่เข้าไปในหม้อ

พอดีกับพนาวันนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ใส่ต้นหอม จึงคิดจะไปหยิบ เมื่อเธอหมุนกายไปอีกด้าน ระหว่างนั้นพวกเขาสองคนก็ชนกัน และเธอก็ล้มไปอยู่ในอ้อมแขนเขา

เพราะอยู่ใกล้กันมาก จึงได้กลิ่นหอมบนกายอีกฝ่ายได้ชัดเจน

พนาวันไม่ได้มองเขา หยิบตะเกียบขึ้นมาคนหมี่ในหม้อ พลางพูดเฉไฉไปอีกเรื่องนี้ “เหมือนหมีพูลจะหิวมากแล้ว พวกเราเร่งมือกันหน่อยเถอะ”

มนตรีกลับมายืนตัวตรง ก่อนจะยักไหล่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น“โอเค”

เรียกได้ว่าเป็นอีกมื้อที่กินกันอย่างเอร็ดอร่อยและรู้สึกอบอุ่นยิ่ง พวกเขากินกันจนถึงค่ำ

มนตรีต้องกลับไปแล้ว และเท้าของพนาวันยังเดินไม่สะดวก จึงไม่ได้ไปส่ง

หลังจากที่มนตรีไป เธอก็รู้สึกผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น

ไม่ได้เกร็งเหมือนตอนที่มนตรีอยู่แล้ว

ดังคาด ไม่นานฝนก็เริ่มตกหนัก

เมื่อเห็นหมีพูล มนตรีจึงกล่าวว่า“ซื้อวัตถุดิบมาแล้ว ไปปิ้งย่างกันเถอะ เมื่อวานรับปากว่าจะเลี้ยงหมีพูลไง”

หมีพูลชะงัก“ผมก็แค่พูดไปงั้น ๆ เองครับคุณอามนตรี”

เขาแค่พูดไปเรื่อยเปื่อย ทำไมตามมาถึงบ้านเลย?

ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าต่อไปจะพูดซี้ซั้วไม่ได้อีก

คุณอามนตรีก็เจ้าเล่ห์ไม่เบาเลยนะ เพราะจะจีบคุณแม่ กระทั่งเด็กอย่างเขาก็ยังเอามาใช้เป็นเครื่องมือ

“อามนตรีไม่ใช่คนผิดคำพูดนะ พวกเราไปด้วยกันเถอะ”

พนาวันไม่มีอารมณ์นั้น กล่าวว่า“คุณพาหมีพูลไปเถอะ ฉันไม่ไปแล้ว และคุณช่วยพาเขากลับมาเร็วหน่อยนะคะ”

อาการของเธอในตอนนี้ ไม่เหมาะที่จะให้หมีพูลอยู่ข้างกายแล้ว

มนตรีกล่าวว่า“ไปด้วยกันเถอะ”

พนาวันยังคงปฏิเสธ

ชั่วขณะนี้สถานการณ์เริ่มอึดอัดเล็กน้อย

หทัยพูดคลี่คลายสถานการณ์ว่า“วัน ไปด้วยกันเถอะ ให้เพื่อนดูแลหมีพูล เธอวางใจเหรอ?”

พนาวันจึงยอมไปด้วยกัน

สุดท้ายแม้แต่หทัยก็ไปด้วย

เมื่อนั่งในรถ เสียงมือถือของหมีพูลก็ดังขึ้น

เขาเปิดข้อความมาอ่อน ซึ่งเป็นข้อความจากคุณพ่อ——ตอนนี้พวกลูกทำอะไรอยู่?

คุณอามนตรีพาผม คุณแม่และคุณน้าหทัยไปเที่ยวครับ

นิ้วเล็กของเขาป้อนอักษรได้เร็วมาก ชั่วอึดใจเดียวก็พิมพ์เสร็จแล้วส่งออกไป

อาคิระพึ่งจะตื่นจากอาการเมา ยังมีรู้สึกเวียนหัวนิด ๆ

เห็นข้อความที่หมีพูลส่งมาก็รู้สึกตื่นเต็มตาทันที ปากยังสบถด่าไม่เลิก

ฝนตกหนักขนาดนี้ ไม่กลัวตัวเองหกล้มตายหรือไง

ครุ่นคิดดูแล้ว นิ้วเรียวยาวของเขาก็กดปุ่มแป้นพิมพ์ ก่อนจะพิมพ์ตัวหนังสือหนึ่งบรรดาอย่างรวดเร็ว

——ตอนนี้ลูกเริ่มทำหน้าที่เป็นสายลับได้ ลูกต้องยืนอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขานะ ลูกคือกำแพงขวางกั้นระหว่างพวกเขา เข้าใจไหม?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง