งานของนาโนที่กลับมาครั้งนี้มันง่ายมาก
อย่างแรกเลยคือไปที่อยู่ของสังกัดYGเพื่อเลือกดาราที่เธอคิดว่าเหมาะสมที่สุดกับชุดเพชรล่าสุดของเธอ เพื่อที่จะได้ถ่ายเป็นภาพใหญ่ที่เป็นแฟชั่นที่สุด ในอนาคตจะตีพิมพ์ในนิตยสารแถวหน้าของประเทศฝรั่งเศส อังกฤษและอเมริกาด้วย
ดังนั้นสำหรับโอกาสในครั้งนี้ ดาราหญิงที่อยู่ในบริษัทนั้นต่างก็ให้ความสำคัญ
แม้ว่ามันจะขึ้นปกนิตยสารเหล่านั้นได้ยาก แต่ครั้งนี้มันก็เป็นโอกาสที่ดี
วันนั้นตอนบ่ายนาโนเลยไปที่บริษัท เธอมีภาพของบุคคลที่คิดว่าเหมาะกับเครื่องประดับอยู่คร่าวๆเอาไว้แล้วก็เลยเลือกได้อย่างรวดเร็วมาก
เพียงในชั่วพริบตาก็จัดการหานักแสดงสี่คนได้อย่างเรียบร้อย เธอให้พวกเธอไปเตรียมตัว หลังจากนั้นนาโนเลยกลับโรงแรม
เบบี๋ยังหลับไม่ตื่น ราชาเฝ้าอยู่ข้างๆ
เห็นเธอเดินเข้ามาก็อ้าแขนรับอย่างดีอกดีใจอยากที่จะกอด
นาโนกลับตีเข้าที่หน้าอกของเขาอยางไม่เกรงใจ “เบบี๋ตื่นอยู่หรือเปล่า?”
“เปล่า เขาหลับปุ๋ยเลย”
ราชาลูบที่น่าอกเบาๆ ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาที่ดูหรูและแพง พูดขึ้นว่า “แต่เบบี๋น่าจะกินนมได้แล้ว”
นาโนเดินเข้าไปเอาเบบี๋อุ้มมาไว้ในอ้อมกอด แล้วหันหลังมาส่งซิกให้กับราชาเพื่อบอกเป็นนัยให้เขาหันหนีไป
ราชาไม่รับไม่รู้แล้วยังนั่งพิงอยู่อีกข้างนึง และจ้องมองไปยังเธอ
นาโนขมวดคิ้วพลางหยิบหมอนที่อยู่บนโซฟาเขวี้ยงไปยังเขา
ราชาเห็นดังนั้นถึงได้สำเหนียก แล้วเดินออกไป
ถอดเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกายออกแล้วลูบใบหน้าน้อยที่นิ่มๆและเกลี้ยงเกลา ใจของนาโนก็ให้มีความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
เช้าตรู่ของวันถัดมา
เวลาเก้าโมงเช้า พนักงานทุกคนต่างจัดแจงเก็บของเรียบร้อยแล้ว และมุ่งเดินทางไปยังสนามบิน
เนื่องจากว่าพนักงานที่ไปด้วยในรอบนี้เยอะ และสิ่งของที่เอาไปต่างก็เป็นเครื่องประดับ ดังนั้นเลยเหมาลำมุ่งหน้าไปที่เมืองS
นาโนกับราชานั่งข้างๆกัน คนทั้งสองสลับกันอุ้มเบบี๋ คนที่ไม่รู้จักต่างยังคงคิดว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน
เวลาที่เครื่องลงจอดเมืองSนั้นคือตอนเที่ยง หลังจากที่กลุ่มคนได้ลงจากเครื่องบินก็มุ่งหน้าเดินออกไปด้านนอกสนามบิน
ในสนามบินผู้คนเดินกันให้ขวักเสมอ ราชาอุ้มเบบี๋ นาโนหันข้างให้ คนทั้งสองเหมือนกำลังคุยอะไรกันอยู่
ในขณะนั้นเอง ภาพจากด้านหลังของชายร่างสูงก็ปรากฏขึ้น เป็นออกัสนั่นเอง
เขาออกทริปไปอเมริกา และเพิ่งบินกลับมาถึงที่เมืองS
นัยน์ตาที่ดำขลับของเขากวาดมองไปที่คนกลุ่มนั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ และก็ไปสะดุดอยู่ที่ร่างๆนึง เขาหรี่ตามอง
รู้สึกเหมือนคุ้นเคยมาก เหมือนจะเป็นนาโนเลย
ขณะที่สายตาที่สงสัยของเขามองไปอีกรอบก็เห็นคนกลุ่มนั้นได้เดินออกจากตัวสนามบินไปนั่งที่รถยนต์ส่วนตัวที่อยู่ด้านนอกสนามบิน
มาถึงที่บ้านตระกูลสิริไพบูรณ์
ความเหนื่อยล้าที่อยู่บนร่างของออกัสพลันมลายหายไปทันทีเมื่อได้เห็นเชอร์รีนและเจ้าตัวเล็กที่นั่งเล่นอยูบนสนามหญ้าทั้งสองคน
เขาก้มตัวลงกอดเชอร์รีนก่อน หลังจากที่จูบกับเธออย่างดื่มด่ำแล้วก็มากอดเจ้าตัวเล็กทั้งสองคน แล้วหอมแก้มสายขวา
หลังจากนั้น ดูเหมือนออกัสจะคิดอะไรขึ้นมาได้เลยพูดว่า “นาโนได้ติดต่อคุณมาบ้างหรือเปล่า?”
“เปล่านิ ทำไมหรอ?”
เชอร์รีนถามอย่างใคร่รู้
ช่วงแรกๆนาโนยังส่งเมล์มาหาเธอ แต่พอช่วงหลังๆก็ไม่ได้ส่งมาอีกเลย
“เมื่อกี้นี้ตอนอยู่สนามบินเหมือนผมจะเห็นเธอ และข้างกายก็มีผู้ชายคนนึงอยู่”
ออกัสเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “แม้ว่าจะไม่ได้เห็นชัดหน้าชัดๆ แต่ภาพด้านหลังและท่าทางการเดินก็ทำให้ผมรู้สึกว่าเหมือนเธอ”
ได้ยินดังนั้นใจของเชอร์รีนก็เต้นรัวๆ
ถ้าพูดอย่างนี้ นั่นก็แสดงว่านาโนผู้หญิงที่เย็นชาก็กลับมาแล้วน่ะสิ?
“ตอนนั้นหลายวันก่อนที่ขอหย่ากับดนัย ฉันเพิ่งรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ได้เดือนนึง” นาโนพูดอธิบายให้ชัดเจน
ได้ยินประโยคนี้เข้า เชอร์รีนก็ชะงักนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเหมือนรูปแกะสลัก
หลังจากที่ได้สติ เธอเลยเดินเข้าไป แล้วบีบที่คอของนาโนอย่างไม่เกรงใจ “เธอนังผู้หญิงลืมบุญคุณ ขนาดฉันยังกล้าหลอกหรอ! ยังกล้าหลอกอีกหรอ!”
นาโนกระแอมเบาๆ
ไม่ได้เจอกันมาสิบเดือน ใจร้ายได้ขนาดนี้ขนาดอยากจะบีบคอให้เธอตายไปเลย สิ่งที่ร้ายที่สุดคือจิตใจของผู้หญิงน่ะสิเนี่ย!
เธอเลยทำได้แค่หายใจเฮือกสุดท้าย เห็นว่าเธอหายใจไม่ได้อย่างนั้น เชอร์รีนถึงปล่อยเธอ
แก้วกาแฟได้วางลงบนโต๊ะอย่างนั้นด้วยเสียงกระแทกที่แรงๆ “รีบเล่าความจริงออกมาให้ฉันฟัง!”
นาโนไม่ได้ปกปิด พร้อมเล่าความจริงให้เธอฟัง รวมไปถึงเรื่องที่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์และเรื่องการงานที่ขยับขยายไปต่างประเทศในปีที่ผ่านมา
เชอร์รีนตั้งอกตั้งใจฟัง แล้วกัดฟันพูดว่า “ถ้าฉันไม่เห็นแก่เธอที่พึ่งคลอดลูกมา ฉันบีบคอเธอตายแล้วจริงๆ”
“ขอบใจที่ยังไม่ฆ่ากัน” นาโนพูด
“ชื่อล่ะ ตั้งชื่อแล้วยัง?”
“ตั้งแล้ว คังซี”
น้ำที่อยู่ในปากของเชอร์รีนแทบจะพ่นออกมา คังซีชื่อนี้พิเศษมากๆ
จริงๆแล้ว เธอกำลังคิดว่าเบื้องบนก็ไม่ได้โหดร้ายจนเกินไปกับพวกเรา
ช่วงนั้นที่แต่งงานกับดนัย เพราะว่าเธอไม่ตั้งครรภ์ เธอเลยไปโรงพยาบาลที่วินิจฉัยเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ไม่เว้นแต่ละวัน คิดถึงขนาดจะไปอุปการะเด็กมาเลี้ยง
แต่ใครจะคิดล่ะว่าหลังจากที่หย่ากับดนัยไป เธอกลับคลอดเบบี๋ที่น่ารักน่าชังอย่างนี้!
คนทั้งสองไม่ได้เจอกันแน่ แน่นอนล่ะว่ามีคำพูดมากมายที่อยากจะเล่า แต่ทำได้แค่ใช้เวลาพูดคุยให้คุ้มค่าที่สุด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง