เธอรักดนัยอย่างสุดซึ้งจริงๆในตอนแรก หรืออาจพูดได้ว่า เธอรักดนัยมากๆ
ในตอนแรกนั้นผู้ชายที่มาจีบเธอก็มีไม่น้อย ต้องการหน้าตามีหน้าตา ต้องการทรัพย์สินมีทรัพย์สิน แน่นอนว่าในนั้นก็ไม่ขาดผู้ชายที่พร้อมไปด้วยความสามารถและรูปร่างหน้าตาดั่งเช่นดนัย
เพียงว่า ไม่ว่ากับใคร เธอก็ไม่มีความรู้สึกใจเต้นเลย มีแค่กับเขาเท่านั้นที่สามารถเรียกได้ว่าแข็งแกร่ง จึงเลือกเขาจากผู้ชายมากมายนั้น
ในเมื่อก่อน เธอไม่มีความคิดที่จะแต่งงาน เพราะเธอตระหนักรู้ในความเป็นจริงอย่างชัดเจนว่า แต่งงานคือแต่งงาน มีความรักก็คือมีความรัก นี่นับเป็นสองเรื่องที่แตกต่างกันเลย
มีความรักคืออิสระ ไม่ถูกผูกมัดใดๆ
แต่การแต่งงานหมายความว่าต้องปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของการเป็นภรรยา รับใช้แม่สามีและสามี แล้วยังไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระได้อีก
แต่เมื่อครั้งที่เขาคุกเข่า พร้อมกับชูแหวนขึ้นมานั้น หากพูดว่าในใจของนาโนไม่ตื่นเต้นก็คงเป็นเรื่องโกหก
ในชั่วขณะนั้น มีความปรารถนาและความโหยหาต่อการแต่งงาน จึงตอบตกลงการขอแต่งงานไป
แต่ก็เธอไม่คิดว่า อายุไขของความรักนั้นจะสั้นขนาดนี้
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่เขาพูดกับเธอว่า เขามีความรู้สึกดีๆกับผู้หญิงคนอื่น ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะสามารถรักษาให้การแต่งงานนี้คงอยู่ต่อไปได้หรือไม่
เขาไม่มีทางรู้เลยว่าเธอตัดสินใจด้วยความจริงจังมากขนาดไหนถึงได้ตัดสินใจแต่งงาน แต่กลับพูดประโยคนั้นออกมาได้อย่างง่ายดาย หมดหวังไหม?
จะไม่หมดหวังได้อย่างไร?
ตราบใดที่เป็นผู้หญิง โดยเฉพาะหญิงที่เป็นภรรยา เมื่อหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ความรู้สึกนั้นเหมือนกับโดนไฟฟ้าช๊อตจริงๆ
ระหว่างที่ความคิดและอารมณ์ในใจของเธอยังคงล่องลอยไปมั่วนั้น ในขณะนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ร่างกายของนาโนเอนไปข้างหน้าเล็กน้อย และหยิบมา เป็นดนัยที่โทรมา
นิ้วมือหยุดลงบนปุ่มตัดสายโดยสัญชาตญาณ
ในระหว่างที่กำลังจะตัดสาย เธอก็คิดถึงเรื่องใบหย่า
ในใจอดไม่ได้ที่จะแอบคิดว่า บางทีเขาอาจจะโทรมาเพราะเรื่องนี้ก็เป็นได้
ดังนั้น เธอจึงรับสาย ไม่รอให้เขาเปิดปากพูด และพูดอย่างตรงประเด็นว่า "พรุ่งนี้ต้องเซ็นชื่อในใบหย่า ไม่มีพื้นที่ให้ผ่อนปรนอีกแล้ว!"
"......" อีกฝั่งของโทรศัพท์กลับเงียบมาก เขาไม่พูดอะไรออกมาเลย ทำแค่หยิบขวดเหล้าขึ้น เงยศีรษะและดื่มอย่างบ้าคลั่ง
ดังนั้น สิ่งที่นาโนได้ยินก็มีเพียงเสียงไออย่างรุนแรง และยังมีเสียงของขวดเหล้าที่กระทบกันไปมั่ว
ท้ายที่สุด นาโนก็ขมวดคิ้ว และหมดซึ่งความอดทน
"โทรศัพท์เข้ามาเพียงเพื่อที่จะให้ฉันฟังเสียงคุณดื่มเหล้า และยังมีอีกเรื่องที่ต้องบอก หลังจากนี้นอกจากเรื่องใบหย่าแล้ว ก็ไม่ต้องโทรมาหาฉันอีก!"
ในขณะนั้นเอง เสียงของดนัยก็ลอยผ่านเข้ามา "......คุณมีลูกกับผู้ชายคนอื่นงั้นหรือ?"
ดวงตากระตุก เธอถามกลับไปว่า "ประโยคนี้ของคุณหมายความว่าอะไร?"
"เด็กที่คุณพากลับมาจากต่างประเทศในครั้งนี้ ไม่ใช่เด็กที่คุณรับเลี้ยง แต่เป็นเด็กที่คุณให้กำเนิดด้วยตัวเองใช่ไหม ?"
ดวงตาอัลมอนด์ของนาโนเบิกกว้างออกเล็กน้อย เต็มไปด้วยความสงสัยและความประหลาดใจ
แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ และยอมรับไปตรงๆว่า "เป็นฉันให้กำเนิดเองแล้ว แล้วจะยังไง?"
เมื่อได้ยินการยอมรับด้วยปากของเธอเอง ลมหายใจของดนัยก็ค่อยๆเปลี่ยนและเต็มไปด้วยความขุ่นมัว "ทำไมถึงมีลูกกับผู้ชายคนอื่นได้เร็วขนาดนี้ แต่พวกเรากลับอยู่ด้วยกันมานานขนาดนั้น ทำไมกัน?"
"งั้นก็ต้องถามตัวคุณเองแล้ว" มุมปากของนาโนยกยิ้มและหัวเราะเยาะว่า "งั้นก็ทำได้เพียงโทษคุณที่ดีได้ไม่เท่าคนอื่น ไม่มีอัตราความประสบผล"
ดนัยเงียบงัน และไม่ได้พูดอะไรต่อ
"แต่ว่า เรื่องที่ฉันคลอดลูกนั้น คุณรู้ได้ยังไง ?" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย
"วันนี้ไปร้านกาแฟกับหัสดิน และได้ยินคำพูดของพวกคุณโดยบังเอิญ……" เขาตอบกลับด้วยเสียงที่ต่ำและเบามากๆ
เมื่อได้ยินดังนั้น นาโนก็พูดต่อว่า "แต่ฉันก็ไม่ได้วางแผนว่าจะปิดบังเรื่องนี้เลยสักนิด เมื่อวันนี้คุณรู้แล้วก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ในเมื่อก็รู้แล้วว่าฉันมีลูกกับผู้ชายคนอื่น งั้นคุณก็ไม่มีความจำเป็นที่จะยืดเวลาออกไปอีก รีบเซ็นชื่อเถอะ!"
เธอรับสาย เป็นนาโนที่โทรเข้ามา
"ตอนเที่ยงจะไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนเพื่อดำเนินขั้นตอนการหย่าร้าง หรือจะให้ไปที่ห้องพักคนไข้ของคุณโดยตรง ?"
"ที่ไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น เขาเพิ่งผ่าตัดเสร็จ ตอนนี้ยังไม่ได้สติและยังไม่ตื่น รอให้เขาพร้อมเสียก่อน แล้วฉันจะโทรหาเธอ"
คำพูดนี้ออกมาจากปากนีรดา นาโนเองก็วางใจ นีรดานั้นทนแทบไม่ไหวที่จะให้ดนัยหย่ากับเธอเร็วๆ
ดังนั้น นาโนจึงไม่โทรศัพท์ไปอีกต่อไป และรอโทรศัพท์ของนีรดา พลางกับยุ่งกับงานของตน
นีรดาสั่งให้บาร์บี้ไปโรงพยาบาลเพื่อดูแลดนัย และพูดเตือนครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ต่อให้ตายยังไงก็ไม่ให้เขาดื่มเหล้าสูบบุหรี่อีก!
หลังจากที่ตื่นขึ้นมา ก็ดูเหมือนว่าดนัยจะหดหู่เงียบขรึมลงไปเยอะมาก
วันทั้งวัน เขาแทบจะไม่ปริปากพูดอะไรเลย ไม่มีใครรู้ว่าในใจของเขานั้นกำลังคิดอะไรอยู่
บาร์บี้เองก็พูดน้อยลง เธอดูออกว่าอารมณ์ของเขาไม่ดีนัก นอกจากจะพูดคำสองคำเป็นครั้งคราวแล้ว เวลาที่เหลือเองก็รักษาความเงียบสงัดไว้
เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในตอนเช้านาโนส่งปกนิตยสารให้กับสปอร์ ตอนบ่ายก็นัดไปช้อปปิ้งกับเชอร์รีนและยู่ยี่
และก็เป็นช่วงเวลาทานอาหารเย็น เธอถึงจะรู้จากปากของเชอร์รีนว่า เมื่อวานดนัยออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ทันใดนั้น เปลวไฟในใจก็เหมือนกับถูกราดด้วยน้ำมัน แผดเผาขึ้นมาอย่างร้อนแรง
เหมือนกับว่าดนัยจะเล่นตลกกับเธอราวกับเธอเป็นลิง
ก็แค่ใบหย่าที่ง่ายดายใบหนึ่งก็เท่านั้น ผัดวันประกันพรุ่งอยู่อย่างนี้ สนุกมากงั้นหรือ?
ต่อหน้าเพื่อนสนิททั้งสองคน นาโนโทรศัพท์ไปด้วยความโกรธ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง