“เขาพบกับนาโนก่อนแล้วหนูก็มาทีหลังนี่แหละคือโชคชะตาและพรหมลิขิตถ้าเขาเจอหนูก่อนนาโนผลลัพธ์ก็คงต่างกัน”
“เชื่อป้าเถอะนะปล่อยวางและปลดปล่อยตัวเองถ้านัยเขามีใจให้กับหนูสักนิดก็คงจะไม่ไร้หัวใจกับหนูแบบนี้หนูว่าจริงมั้ย?”
บาร์บี้เงียบไม่ปริปาก
นีรดาก็ไม่รู้ว่าเธอจะเข้าใจในสิ่งที่พูดมั้ยหลังจากสายร้านอาหารโทรเข้ามาเธอก็จากไป
แม่ของเธอยกอาหารมาให้เธอเพื่อจะให้เธอได้กินอะไรเข้าไปบ้าง
แม้แต่สุขภาพตัวเองก็ไม่สนใจแล้วยังจะเป็นแบบนี้ไปทั้งวันหรอ?
“เขาไม่ได้ไร้หัวใจกับหนูขนาดนี้หรอกต้องเป็นนาโนนินทาหนูลับหลังแน่ๆแล้วยังบีบเขา เขาถึงจำเป็นต้องทำกับหนูแบบนี้ใช่มันต้องเป็นแบบนี้มันต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ......”
เธอพูดพลางผงกหัวพลางทำท่าท่างแบบนั้นคล้ายกับว่าค้นพบคำตอบที่แท้จริงแล้ว
พอได้ยินเธอเอ่ยปากพูดออกมาแบบนี้แม่ของเธอถึงกับตกตะลึงรู้สึกว่าความคิดของเธอมันค่อนข้างบิดเบี้ยวมันช่างบิดเบี้ยวจริงๆ
“บี้เอ๊ยหนูจะคิดแบบนี้ไม่ได้นะเขาไม่มีบุพเพสันนิวาสกับลูกจริงๆน้ารองของลูกก็เคยแนะนำคู่ครองให้หนูพรุ่งนี้หาเวลาว่างไปดูตัวกันนะ”เธอกล่าว
เรื่องราวมาถึงขั้นนี้เธอรู้สึกเสียใจมาก
ตอนนั้นไม่ควรเลยจริงๆไม่ควรพูดกรอกหูยัดเยียดความคิดให้เธอแต่งงานกับคนรวย!
ตอนนี้เธอรู้สึกผิดแล้วจริงๆ!
ในฐานะที่เป็นพ่อแม่ก็หวังว่าลูกสาวตัวเองจะได้มีชีวิตที่มีความสุขได้คู่ครองที่ผู้คนชื่นชมซึ่งจริงๆแล้วเธอมีความคิดแบบนี้มันก็เป็นเรื่องปกติมาก เพียงแต่เธอคาดไม่ถึงว่าบี้จะไม่ยอมลดละขนาดนี้
จากคำพูดของบี้เมื่อสักครู่นี้เธอสัมผัสได้ว่าสภาพจิตใจของเธอค่อนข้างไม่ปกติ
บาร์บี้ส่ายหัวปฏิเสธโดยไม่คิดไม่พบไม่พบยังไงก็ไม่
ไม่ว่าแม่ของเธอจะพูดยังไงพูดดีก็แล้วพูดโอ๋ก็แล้วยังไงเธอก็ไม่ยอมฟัง
เรื่องการไปปารีสกำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการนาโนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับสปอร์ติดต่อเรื่องการกลับปารีสและเรื่องงานบางส่วน
ตอนท้ายนัดแนะเวลาซึ่งเป็นเวลาอีก8วันข้างหน้า
ดนัยยืนอยู่ข้างๆได้ยินชัดทุกคำพูดหน้าอกของเขากระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรงอารมณ์เดือดพล่านขึ้นมาทันที
วางสายเสร็จนาโนกลับมานั่งหน้าโต๊ะออฟฟิศเริ่มยุ่งวุ่นยุ่งจนหมดสภาพ
สองสามวันมานี้ดนัยเงียบไปมากไม่มีคำพูดอะไรมากมายเหมือนอย่างเคยนิ่งขรึมขึ้น
หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็เดินเข้าไปสองมือกุมไหล่นาโนลูกกระเดือกกขยับขึ้นลงสายตาวิงวอน“บอกผมต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมอยู่ที่นี่?ผมจะต้องใช้หนทางไหนคุณบอกผมเถอะขอแค่คุณเอ่ยมันออกมาผมจะทำให้”
ตามปกติแล้วแววตาของเขาก็แฝงไปด้วยความซ่อนเร้นแต่เวลานี้ยิ่งถูกบดบังด้วยม่านน้ำกระทบแสงรื้นขึ้นมาคลอเบ้า
ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆนาโนก็นึกถึงภาพและดวงตาที่เขาร้องไห้ในวันนั้นมันช่างเหมือนกันกับตอนนี้
ม่านตาเธอสั่นสะริก“ก็งานของฉันอยู่ที่ปารีสทั้งหมด”
เธอเอ่ยเพียงเท่านี้และเธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น
ร่างกายดนัยสั่นเทาอย่างไม่อาจต้านทาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง