"เฮ้อ …... " ดีด้าถอนหายใจเบา ๆ "นี่เป็นข้ออ้างที่คุณอยากจะขับไล่ฉันออกจากบ้าน แต่ทำไมฉันถึงคิดว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นสมเหตุสมผลถึงกับไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียว"
“เพราะสิ่งที่ฉันพูดนั้นเป็นความจริง! ฉันมาบอกคำพูดเหล่านี้ของผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์มาแล้วให้แกฟัง ฉันมั่นใจว่าหลังจากฟังคำพูดของฉันแล้วแกจะไม่มีวันเสียใจในอนาคตอย่างแน่นอน"
ดีด้ากุมหน้าผากตัวเองและไม่พูดอะไร ได้แต่นิ่งเงียบอยู่แบบนั้น
เธอมีความรู้สึกที่ดีต่อเลอแปง ซึ่งเป็นความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้และแน่นอนว่าเธอได้ตกหลุมรักเขาเข้าแล้ว
หากไม่ได้พบเพียงหนึ่งวันราวจากกันถึงสามปี เมื่อเห็นว่าคนที่มาไม่ใช่เขา ความสุขในใจจะถูกแทนที่ด้วยความหงุดหงิด ถ้านี่ไม่ใช่ความหลงใหล ไม่ใช่ความรัก แล้วมันคืออะไร
คนมีศีลธรรมอย่างเขาถ้าจะแต่งงานด้วยก็ไม่เลวนะ อีกอย่างเธอก็ตกหลุมรักเขาแล้วไม่ใช่หรือไง
เสียงข้อความดังขึ้นเธอจึงเปิดอ่าน - มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการพิจารณา แต่พี่ชายและพี่สะใภ้ฉันชอบคุณและต้องเห็นคุณในสายตาอยู่แล้ว ส่วนคำพูดอื่นๆที่ซ้ำซาก ฉันจะไม่พูดอีก ฉันให้เวลาคุณคิดเอาเองละกัน…...
ดีด้าโยนโทรศัพท์ทิ้งหรี่ตาลงและค่อยๆ เอามือไปนวดหน้าผากตัวเอง ฉันจนปัญญาแล้วจริงๆ
แต่ก่อนฉันเคยบอกกับตัวเองว่าจะไม่แต่งงานแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันจะได้แต่งงานแบบกะทันหัน
แต่เพราะเป็นเขา เธอจึงไม่รู้สึกวิตกกังวลหรือตื่นตระหนกมากนักแต่เธอกลับนิ่งสงบ เพราะเธออยู่กับเขามานานและการกระทำที่มีต่อเธอยิ่งชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่มักง่าย
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อดีด้าผลักประตูห้องออกไป เห็นเลอแปงกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น เธอตกตะลึงและอ้าปากค้างสามารถเอาไข่มาวางในปากได้เลย ทำไมคุณถึงมาเร็วจัง
เขาพูดออกมาดัง ๆ ด้วยสายตาและรอยยิ้มที่อ่อนโยน: “ในช่วงเวลาที่เธอยังไม่ได้ให้คำตอบนี้ ฉันจะมารายงานตัวทุกวัน เพื่อให้คุณได้เห็นถึงความดีในตัวฉัน จนกว่าคุณจะทิ้งฉันไม่ลง”
ดีด้ากลืนน้ำลายนึกไม่ถึงเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความฉลาดหลักแหลม
และเขาก็ชั่วร้ายมากจนไม่สามารถเพ่งมองตรงๆได้
หลังจากกินอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วเขาไปส่งเธอที่บริษัทและยังซื้อผลไม้กับของว่างให้เธอมากมาย
เธอผ่านช่วงวัยของการกินขนมไปแล้ว แต่การกระทำเหล่านี้มีผลต่อดีด้ามาก คำพูดของเขาถูกสะท้อนออกมาในการกระทำที่ไม่ใช่แค่คำพูด.…..
ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาทำตัวแนบชิดมากขึ้นเรื่อยๆ เขาต้องโทรวันละสองสาย ทั้งยังไปรับจากที่ทำงานและส่งหลังเลิกงาน
ผู้หญิงทุกคนในสถานีตำรวจมองเธอด้วยความอิจฉาและเกลียดชัง ผู้หญิงบางคนก็อดใจรอไม่ได้ที่จะฆ่าเธอด้วยสายตา
ทำไม! หล่อนมีสิทธิ์อะไร! หล่อนมีสิทธิ์อะไรที่จะได้รับความรักจากผู้ชายคนนี้
ดีด้าเริ่มทนไม่ได้กับสายตาดังกล่าว ล้วนเป็นสายตาอันน่ากลัว ประโยคนี้พูดไม่ผิดแน่
เธอแนะนำให้เลอแปงไม่ต้องมารับหรือส่งเธออีก เพราะสายตาและการคำพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจพวกนั้นรุนแรงเกินไป
เลอแปงมีความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ยิ่งกว่านั้นเขาทำสิ่งต่างๆ อย่างเด็ดขาด ชัดเจนและเรียบร้อย เขาเป็นคนที่ไม่คำนึงถึงความคิดเห็นหรือความรู้สึกของคนอื่นเลย
ดังนั้นเขายังคงปฏิบัติเช่นเดิม
ดีด้าไม่มีทางเลือกอื่น แต่เธอก็ค่อยๆ ชินไปกับมัน บางครั้งตอนที่เขาไม่มา เธอเองก็แอบผิดหวังมาก
ดังนั้นความเคยชินจึงเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวและในบางครั้งมันก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตคุณ
หลังจากที่เลิกกับเซ้นต์ เธอไม่เคยคิดที่จะคบหากับผู้ชายอื่นอีกเลย เขาเป็นคนที่บังคับให้เธอเข้ามาในชีวิตของเขาด้วยท่าทางแบบนั้น ซึ่งในตอนแรกทำให้เธอรังเกียจและไม่ชอบการใช้ชีวิตอยู่ของเขาจนค่อยๆเริ่มกลายเป็นความคุ้นเคยและสุดท้ายก็กลายเป็นความชอบ นี่เป็นกระบวนการที่ปรับเข้าหากันอย่างช้าๆ
บ่ายนี้ก่อนเลอแปงจะมาถึงได้แวะซื้อช่อดอกกุหลาบแดงจากร้านค้า กลีบดอกไม้นั้นบอบบาง สีแดงดั่งดุจไฟ และสวยงามมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง