กู้หยุนหลานตกตะลึง มีหยดน้ำตาสองสามหยดไหลออกมาจากหางตาของเธอ เธอหันกลับไป และปิดประตูห้องอย่างแรง เธอซ่อนตัวอยู่ในห้องคนเดียว และร้องไห้
‘หลี่โม่ ฉันยังเชื่อใจคุณได้อีกไหม?’
ในห้องนั่งเล่น หวังฟางเมื่อเห็นแบบนี้ก็ด่า และโทษหลี่โม่อย่างหนักมาก
หลี่โม่ทำได้เพียงแค่มองดู เขาหันกลับไป และเดินไปที่ห้องครัว
ในวันที่ 23 เหตุการณ์ที่ซีซาร์พาเลซเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น
ในช่วงเวลานี้ของทุกปี ตระกูลกู้จะเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อฉลองวันเกิดของหลานสาว
แม้ว่าในช่วงเวลานี้ของทุกปี กู้หยุนหลานและหลี่โม่จะถูกเยาะเย้ย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความรักของตระกูลกู้ที่มีต่อหลานสาว
แม้จะมีบางเรื่องที่ตระกูลกู้จงใจทำ แต่ในหมู่พวกเขากู้ซิ่งเหว่ยก็ค่อนข้างมีบทบาทสำคัญ
แต่คราวนี้กลับต่างออกไป ตระกูลกู้เงียบอย่างน่าประหลาดใจ และไม่มีวี่แววของการเตรียมตัวสำหรับวันเกิดของหลานสาว มีข่าวลือว่า คุณท่านกู้นั้นสูญเสียความรักที่มีต่อหลานสาว สาเหตุหลักที่ใหญ่ที่สุดก็คือหลี่โม่เป็นคนไม่เอาไหน และเปล่าประโยชน์ ซึ่งเขาสร้างความขัดแย้งกับชายชราซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ยิ่งไปกว่านั้น เหตุการณ์คราวนี้ก็เกิดขึ้นที่ซีซาร์พาเลซอีกครั้ง และตระกูลกู้จึงกลายเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจในเรื่องนี้ แบบที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้
เศรษฐีที่จองจัดงานวันเกิดที่ซีซาร์พาเลซไม่เคยแสดงตัว และแม้แต่ตัวตนของพวกเขาก็ไม่มีใครรู้จัก ซึ่งทำให้ผู้คนต่างตั้งตารอ และอยากรู้อยากเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันที่ 23 นี้
ใครกันนะ?
ภายในบริษัทตระกูลกู้ ในเวลานี้ญาติของตระกูลกู้และผู้บริหารองค์กรทั้งหมดต่างโกรธเคือง หากไม่ใช่เพราะหลี่โม่และกู้หยุนหลาน พวกเขาก็คงจะไม่ต้องมาเป็นตัวตลกของคนอื่น
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา คนในตระกูลกู้แทบจะไม่ออกจากบ้าน แต่ละคนเอาแต่ซ่อนตัว แม้แต่คุณท่านกู้เองก็เลือกที่จะอยู่แต่ในคฤหาสน์ต้นตระกูล
เมื่อก่อนตระกูลกู้จะเริ่มเตรียมการครั้งใหญ่สำหรับวันเกิดของซีซี แต่คราวนี้มันต่างออกไปอย่างคาดไม่ถึง
“ให้ตายสิ! ถ้าไม่ใช่เพราะกู้หยุนหลานกับหลี่โม่ ตระกูลกู้ของพวกเราก็คงไม่ต้องอับอายถึงขนาดนี้!”
“ไอ้หลี่โม่นั่นเป็นความอัปยศของมนุษย์ มันควรจะตาย ๆ ไปซะ! มันควรจะตายไปพร้อมกับลูกของมัน!”
"กู้หยุนหลานก็เป็นดาวไม้กวาด(1) เพราะเธอที่ทำให้เราทุกคนต้องถูกคนอื่นวิจารณ์ และเยาะเย้ย"
หลาน ๆ ตระกูลกู้รวมตัวกัน และทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองอยากจะฉีกทั้งกู้หยุนหลาน และหลี่โม่ออกเป็นชิ้น ๆ !
กู้ซิ่งเหว่ยหัวเราะเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ซิ่งเหว่ย นายหัวเราะอะไร นายคิดว่านี่มันเป็นเรื่องดีนักเหรอ?” หลานของตระกูลกู้ถาม
กู้ซิ่งเหว่ยมองอย่างไม่แยแส และพูดว่า "พวกแกมันไม่มีสมอง ปัญหายิ่งใหญ่ยิ่งดีสิ"
หลานคนหนึ่งดูตกตะลึง ไม่เข้าใจที่กู้ซิ่งเหว่ยพูด
กู้ชิงหลินยิ้มขณะที่ทาเล็บอยู่ “พวกแกนี่โง่จริง ๆ ยิ่งเรื่องนี้ใหญ่เท่าไหร่ คนที่ต้องอับอายขายขี้หน้าก็คือ กู้หยุนหลานและหลี่โม่ ถ้าเป็นแบบนั้น กู้หยุนหลานจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลกู้ หรือบริษัทของเราอีก คุณปู่ใส่ใจเรื่องหน้าตา และชื่อเสียง แล้วถ้ากู้หยุนหลานเป็นคนที่ทำให้ตระกูลกู้ขายหน้า เธอจะได้ประโยชน์อะไรอีกล่ะ? ต่อให้หรงคังกรุ๊ปจะยอมทำสัญญาร่วมมือกับเธอ แต่เธอก็จะไม่ได้อะไรทั้งนั้น"
เมื่อคนอื่น ๆ ได้ยินแบบนี้ พวกเขาก็เข้าใจมากขึ้น และใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
“มันเป็นแบบนี้นี่เอง ฮ่าฮ่า พี่ซิ่งเหว่ย พี่ชิงหลิน พวกพี่นี่ฉลาดจริง ๆ ”
“ใช่ ฉันคิดว่าตระกูลกู้ของเราควรเป็นของพี่ซิ่งเหว่ย!”
ทันใดนั้น กู้ซิ่งเหว่ยก็หัวเราะสองสามครั้ง และถามว่า "ถูกต้องแล้ว ว่าแต่พวกแกจะไปที่ซีซาร์พาเลซไหม? ไปพบเศรษฐีลึกลับคนนั้น เพราะฉันได้ยินมาว่า จะมีคนมากมายที่จะไปดูงานเลี้ยงอาหารค่ำนั่น โต๊ะทั้งสามร้อยโต๊ะในโรงแรมซีซาร์พาเลซถูกจองไว้แล้ว ชั้นบนและชั้นล่างของซีซาร์พาเลซทั้งหมดก็ถูกปิด โรงแรมใกล้เคียงหลายแห่งก็ถูกจองไว้หมดแล้ว ทั้งหมดนี้ก็เพื่อต้องการรู้ว่าเศรษฐีลึกลับนั่นเป็นใคร"
“ไปสิ ต้องไปแน่นอน ใครจะพลาดดินเนอร์ฟรี ๆ แบบนี้ล่ะ? บ้าไปแล้ว ฉันได้ยินมาว่าทุกโต๊ะถูกจัดเป็นชุดอาหารสุดหรูที่เริ่มต้นที่ห้าแสน”
“จริงเหรอ? งั้นฉันไปด้วย!”
ทันใดนั้น หลานตระกูลกู้ต่างก็ให้คำมั่นว่าจะไปร่วมงานนี้ให้ได้ แม้ว่าคุณท่านกู้จะออกคำสั่งห้ามไม่ให้พวกเขาไป แต่ใครล่ะจะหยุดพวกเขาได้?
วันนี้ในใจของจินช่านน่ารู้สึกว่าเธอไม่ค่อยสวย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ และมีกลุ่มผู้ชายที่ไล่ตามเธอมาที่ตระกูลจินเพื่อขอเธอแต่งงาน และอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะกู้หยุนหลานเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ
แน่นอนว่า เธอก็ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องซีซาร์พาเลซ ซึ่งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมากำลังเป็นที่สนใจในเมืองฮั่น
ไอ้บ้าหลี่โม่!
ถ้าไม่ใช่เพราะเขา กู้หยุนหลานก็คงจะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานขนาดนี้
เธอกำลังวางแผนที่จะออกไปหากู้หยุนหลาน ในเวลานี้หล่อนคงจะอึดอัดมาก
แต่ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น และดูเหมือนว่าหมายเลขที่โทรมาจะเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย เธอจึงตัดสายทิ้ง
หลังจากนั้นไม่นาน หมายเลขเดิมก็โทรมาอีกครั้ง จินช่านน่าอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว และเธอก็มีนิสัยหยิ่ง หลังจากที่รับสาย เธอก็ต่อว่า “มีอะไร? ฉันไม่ต้องการกู้เงิน ไม่ซื้อบ้าน ไม่เช่าร้าน หรือ ขายอะไรทั้งนั้น ให้ตายสิ!"
“จินช่านน่าใช่ไหม?” เสียงผู้ชายที่คุ้นเคยดังมาจากอีกฝั่งของสายโทรศัพท์
จินช่านน่าขมวดคิ้ว กอดอก และเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋า LV ของเธอมาแขวนบ่า เธอถามอย่างเย็นชา "คุณเป็นใคร? จะมาจีบเหรอ? ไปต่อคิวเข้าแถวที่ประตูบ้านของฉันไป"
"ไม่ใช่ ผมหลี่โม่เอง"
เมื่อจินช่านน่าได้ยินชื่อนี้ เธอก็ราวกับแมวที่ถูกเหยียบหาง ทันใดนั้นเธอก็ระเบิดด้วยความโกรธ และดุด่าอย่างฉุนเฉียวว่า “หลี่โม่? นายยังจะมีหน้ามาเรียกฉันอีก! นายรู้ไหมว่าสองสามวันที่ผ่านมาหยุนหลานต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้ก็เพราะนาย! ไอ้สารเลว! ไอ้ขยะ!”
จินช่านน่าด่าแบบนี้เป็นเวลาสิบนาที จากนั้นเธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และพูดอย่างเย็นชาว่า "ทำไมนายถึงมีเบอร์โทรศัพท์ฉัน? เดี๋ยวนะ ทำไมนายถึงต้องคุยกับฉัน? ให้ตายสิ! ฉันรู้แล้ว นี่นายต้องการเข้าหาฉันใช่ไหม? หลี่โม่ ฉันจะบอกให้นายรู้ไว้นะ มันไม่มีทางเป็นไปได้! ไอ้โรคจิต ฉันจะบอกเรื่่องนี้กับหยุนหลาน!"
ในขณะนั้น หลี่โม่ที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ก็มีท่าทางงุนงง เขารู้สึกว่าจินช่านน่าช่างโง่เง่าไม่มีสมองจริง ๆ
คนอะไรงี่เง่าจัง แต่ก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกู้หยุนหลาน
“คุณคิดมากไปแล้ว ในใจของผมมีเพียงหยุนหลาน ผมแค่จะมาขอความช่วยเหลือจากคุณ” หลี่โม่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ และตอบ
"ช่วยเหลือ?"
จินช่านน่าเปิดประตูเฟอร์รารีสีแดงด้วยสีหน้าที่เย็นชา เรียวขายาวขาวคู่หนึ่งที่สวมกระโปรงสีดำ ก้าวเข้าไปนั่งในรถแล้วพูดว่า "ทำไมฉันต้องช่วยนายด้วย?"
“มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหยุนหลาน คุณช่วยผมก็เหมือนช่วยหยุนหลาน” หลี่โม่พูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...รออ่านบทต่อไป...
อ่านมาได้ ห้าสิบกว่าตอน ทนไม่ไหวแล้ว...บาย...
ไอ้หลี่โม่โดนตบทุกตอน แม่งโคตรซาดิสต์เลย...
ติดตามความปัญญาอ่อนของคนแต่ง อิเมียมันเกลียดผัวมันทุกตอน แล้วมันอยู่กันได้ไงสี่ปี...
เมียโกรธผัวทุกตอน แล้วมันรักของมันได้ไง อิหยังว่ะ...
มีแต่ตบตีทั้งเรื่อง อ่านไปก็เซ็งพระเอกโดนตบทุกตอน อิหยังว่ะ...