“เดิมทีนายก็ไม่ได้มีท่าทีเหมือนขอร้องให้ช่วยทำธุระให้อยู่แล้วนี่ ถ้านายทำท่าทีแบบนี้ล่ะก็ ฉันว่าอย่าพานายไปให้ขายหน้าดีกว่า”
หลี่โม่เอ่ยอย่างเรียบเฉย
เผชิญหน้ากับเจตนาร้ายอย่างเด่นชัดของคนตระกูลหวัง เดิมทีหลี่โม่ก็รู้สึกไม่พอใจอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะคนพวกนี้เป็นญาติของกู้หยุนหลาน หลี่โม่คงคร้านจะสนใจพวกเขาอยู่แล้ว
“นี่แกคิดว่าตัวเองวิเศษวิโสมากนักรึไง! แกนี่มันไร้ยางอายจริง ๆ” หวังจงเหิงเอ่ยด้วยความโมโห และพับแขนเสื้อขึ้นคิดจะลงมือ
หวังจงฉวนโบกมือไปมา ขวางหวังจงเหิงเอาไว้ “ไม่จำเป็นต้องไปคิดเล็กคิดน้อยกับคนไร้ค่าคนหนึ่งหรอก ต่อยมันไปรังแต่จะสกปรกมือเปล่า ๆ ”
“พี่ใหญ่ งั้นจะเอายังไงดี เรื่องแผนการพัฒนาของบริษัทหยุนจงหลานเป็นเรื่องสำคะญมากนะ ยังไงก็ต้องเจอกับคุณหลี่ผู้ลึกลับท่านนั้นให้ได้”
หวังจงเหิงพูดจบก็เหลือบมองหลี่โม่เล็กน้อย “ที่ว่ามาน่ะ ไม่ใช่เจ้าปัญญาอ่อนนี่หรอกนะ”
“เหอะ ๆ ”
หลี่โม่หัวเราะอย่างเนือย ๆ เดิมทีเขาก็ไม่ได้สนใจหวังจงเหิงอยู่แล้ว
“สัญญานี้ผู้จัดการซุนเป็นคนเซ็นสัญญากับฉัน ถึงตอนที่ไปเยี่ยมผู้จัดการซุนแล้วถามสักหน่อยแล้วกัน”
การไปเยี่ยมผู้จัดการใหญ่ซุนฮุ่ยกังแห่งบริษัทหยุนจงหลาน เป็นไพ่ใบสุดท้ายของหวังจงฉวน
เดิมทีเขาคาดหวังให้หยุนจงหลานมีความสัมพันธ์กับคุณหลี่ผู้ลึกลับคนนั้นจริง ๆ แต่เมื่อเห็นสีหน้าไม่ยี่หระของหลี่โม่ตรงหน้าแล้ว ความหวังในใจของหวังจงฉวนก็พังทลายลง หากไม่ใช่เพื่อกลั่นแกล้งหลี่โม่ หวังจงฉวนก็คงจะเดินออกไปนานแล้ว
“ทางผู้จัดการซุนเองก็ทำอะไรไม่ได้ไม่ใช่เหรอ การเริ่มก่อสร้างและเริ่มจัดสรรงบประมาณล้วนต้องให้คุณหลี่ท่านนั้นเซ็นอนุมัติก่อน เรื่องนี้วุ่นวายจริง ๆ”
หวังจงเฉิงส่ายหน้าพลางถอนหายใจ
หลี่โม่หยิบมือถือออกมาเล่น ไม่ได้สนใจพวกหวังจงฉวนแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นหลี่โม่เล่นเกม หวังจงเหิงก็ตบโต๊ะด้วยความขุ่นเคือง “ไอ้ขยะนี่ยังจะเล่นมือถืออะไรอยู่ได้ ไม่รู้จักโทรหาประธานบริษัทหยุนจงหลาน นายจัดการได้ไม่ใช่หรือไง งั้นตอนนี้ก็โทรศัพท์ติดต่อให้พวกเราฟังหน่อยสิว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า”
“พวกนายไม่เบื่อบ้างเหรอ ถ้าคิดว่าฉันจัดการไม่ได้ก็พูดมาตรง ๆ ฉันจะได้ออกไปสักที”
หลี่โม่พูดพลางลุกขึ้นยืน
“แกจะลองดีเหรอ เราพูดกับแกอยู่ฟังไม่รู้เรื่องรึไง สั่งให้โทรศัพท์ก็โทรสิวะ”
“เหอะ ๆ นายคิดว่าคนอื่นเขาจะว่างจนแกร่วเหมือนนายกันหมดเหรอ ถ้าโทรไปรบกวนงานของเขา อย่าว่าแต่พบหน้าเลย สัญญาของพวกนายก็จะถูกยกเลิกด้วย”
หลี่โม่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นรอยยิ้มของหลี่โม่ หวังจงฉวนก็ขมวดคิ้วเคร่ง
ถึงอย่างไรวันนี้ก็ต้องไปบริษัทหยุนจงหลานแน่นอนอยู่แล้ว แค่พาหลี่โม่ไปด้วย ถึงจะไม่น่าสำเร็จแต่จะลองดูแล้วกัน ถ้าไม่มีประโยชน์จริงค่อยจัดการเขาอีกทีก็ได้
หวังจงฉวนตัดสินใจได้แล้ว จึงลุกขึ้นแล้วพูดว่า “เลิกพูดไร้สาระกันได้แล้ว ออกเดินทางไปบริษัทหยุนจงหลานเดี๋ยวนี้เลย หวังว่าไอ้ขยะแกจะมีประโยชน์อยู่บ้างจริง ๆ นะ”
หลี่โม่ยิ้มจาง ๆ แล้วหมุนตัวเดินออกไปข้างนอก
หวังจงเหิงถลึงตามองแผ่นหลังของหลี่โม่อย่างไม่พอใจ แล้วพูดเสียงดังลั่น “พี่ใหญ่ พี่เชื่อไอ้ไร้ประโยชน์นั่นจริง ๆ เหรอ ถ้ามันสามารถเตรียมการให้เราพบกับเศรษฐีหลี่ผู้ลึกลับคนนั้นได้ ผมจะไลฟ์สดกินขี้เลย”
“งั้นนายก็เตรียมตัวให้ดี ๆ แล้วกัน ฉันจะรอดูนายไลฟ์สดกินขี้”
หลี่โม่เอ่ยโดยที่ไม่หันหน้ากลับมา
“ไอ้ไร้ประโยชน์นี่มันน่าโมโหจริง ๆ ฉันละอยากฆ่ามันให้ตายแทบไม่ไหวแล้ว!”
“น้องรอง ใจเย็นหน่อย ไปดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้อย่าทำให้มีปัญหาใหม่แทรกเข้ามาเลย”
พวกหวังจงฉวนทั้งสามคนเดินออกจากประตูใหญ่ตระกูลหวัง พาหลี่โม่ขึ้นรถ และมุ่งตรงไปยังสำนักงานของบริษัทหยุนจงหลาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
ไอ้หลี่โม่โดนตบทุกตอน แม่งโคตรซาดิสต์เลย...
ติดตามความปัญญาอ่อนของคนแต่ง อิเมียมันเกลียดผัวมันทุกตอน แล้วมันอยู่กันได้ไงสี่ปี...
เมียโกรธผัวทุกตอน แล้วมันรักของมันได้ไง อิหยังว่ะ...
มีแต่ตบตีทั้งเรื่อง อ่านไปก็เซ็งพระเอกโดนตบทุกตอน อิหยังว่ะ...