รอยยิ้มมีเลศนัยแผ่ไปทั่วใบหน้าของมอริซ “ฉันได้ยินมาว่าทีมคลิฟตันพัฒนาเพอร์ดูไมโครชิพใกล้จะสำเร็จแล้ว”
ดวงตาของเลียมหรี่ลงและเขาถอนหายใจลึก “จริงแหละครับ...”
ชาร์ลีเคยนำเรื่องนี้มาพูดกับเลียมสองสามครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เลียมไม่คิดว่ามอริซจะมาปรากฏตัวด้วย แม้แต่
เมสันก็ยัง...
สายตาของเลียมเผยความรู้สึกสับสน เขาเคยคิดว่าเมสันเป็นคนที่ทุ่มเทความสนใจกับศิลปะโดยไม่สนยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก เขาเคยคิดว่าที่เมสันเปิดเผยอาการป่วยทางจิตของฌอนเมื่อสามปีก่อนก็เพื่อประโยชน์ของตระกูลแคมโปสเท่านั้น
แต่จากสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่ในตอนนี้ เลียมรู้สึกว่าพ่อของเขานั้นห่างไกลจากความเรียบง่ายไปมาก
“อารองครับ ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกชาร์ลีไปแล้วว่าฌอนไม่อนุญาตให้ผมมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับห้องปฏิบัติการเลย” เลียมอธิบายด้วยเสียงต่ำ
“นั่นมันเมื่อก่อน” ชาร์ลีพูดยิ้ม ๆ “ตอนนี้มันต่างออกไปเนื่องจากฌอนไม่ได้อยู่ในออสเตรเลีย พอพัฒนาผลิตภัณฑ์เสร็จก็จะต้องเริ่มขั้นตอนการโฆษณาต่าง ๆ ต่อไปอีก ในฐานะผู้จัดการทั่วไปของฮิลล์ คอร์ปอเรชั่นนายต้องอนุมัติตามระเบียบขั้นตอนต่างๆ ดังนั้นนายก็สามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับไมโครชิพได้อย่างง่ายดาย”
เลียมหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาก้มจิบเบา ๆ การกระทําของเขาเพื่อซ่อนแววตาหนึ่งที่แว่บขึ้นมา
พูดตามตรงเขาผิดหวังมากกับตระกูลแคมโปส
เมื่อมองข้ามความจริงที่ว่าทุกวันนี้ตระกูลแคมโปสปฏิบัติต่อเขาในฐานะคนนอก พวกเขานั้นโลภเกินไป ในฐานะตระกูลที่มีอำนาจสูงสุดเป็นอันดับสองในออสเตรเลีย คนของแคมโปสพยายามหาวิธีขโมยผลิตภัณฑ์ที่ผู้อื่นลงทุนลงแรงอย่างมากไป แทนที่จะพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของบริษัทพวกเขาด้วยความสามารถของตนเอง พฤติกรรมของพวกเขาน่าอายเหลือเกิน!
แน่นอนเลียมยอมรับว่าเขาเองก็ไม่ใช่คนดีมีคุณธรรมเช่นกัน ในอดีตเขาเคยใช้วิธีที่เปิดเผยไม่ได้เพื่อรักษา
ตําแหน่งของเขาในฮิลล์ คอร์ปอเรชั่น แต่กระนั้นเขาก็ยังมีขอบเขตจำกัดของตัวเอง
หลังจากรับรู้แล้วว่าเลียมไม่พูดออกมาสักคำ มอริซก็พูดเบา ๆ ว่า “เลียม นามสกุลของหลานอาจเป็นฮิลล์ แต่นามสกุลของพ่อหลานคือแคมโปส หลานเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลแคมโปส ก็เรื่องของนามสกุลน่ะแหละ ยังไงซะคนตระกูลฮิลล์ถือเป็นคนนอก คิดดูสิว่าตระกูลฮิลล์ปฏิบัติต่อหลานอย่างไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฌอนมีทุกอย่างถึงแม้ว่าหลานก็เป็นลูกชายของลีอาเช่นกัน
ชาร์ลีเติมกาแฟให้เลียม “อันที่จริงก่อนหน้านี้อาตัดสินใจไม่ค่อยออกสื่อสาธารณะเพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้ตระกูลฮิลล์รู้ถึงเรื่องนี้ คิดดูนะหลานเป็นลูกชายคนเดียวของคุณลุงใหญ่ ใครอีกล่ะที่จะได้รับหุ้นของแคมโปสคอร์ปอเรชั่นนอกจากหลาน? แคมโปส คอร์ปอเรชั่นจะเป็นของพวกเราไม่ช้าก็เร็ว”
เลียมรู้สึกฉงนสนเท่ห์ไปหมด เขาไม่ได้พูดอะไรมาสักพักแล้ว
อันที่จริงถ้าเมสันเป็นเจ้าของหุ้น 60 เปอร์เซ็นต์ หุ้นเหล่านั้นก็จะตกเป็นของเลียมเนื่องจากเขาเป็นลูกชายของเมสัน
หากตระกูลแคมโปสกลายเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในอนาคต เลียมก็ถึงกับสามารถทําลายฌอนได้
เมสันจ้องมองเขาอย่างสนิทสนมแน่นแฟ้นแล้วเอ่ยเบา ๆ ว่า “เลียม พ่อรู้ว่าลูกแปลกใจมาก แต่ในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลแคมโปส พ่อแค่ต้องอดทนกับบางอย่าง ถ้าพ่อไม่ทําเช่นนั้น แคมโปสจะไม่ได้เป็นอย่างเช่นทุกวันนี้ ในฐานะผู้ชายลูกไม่ต้องการที่จะประสบความสําเร็จในอาชีพเหรอ? ไม่ว่าแม่ของลูกจะยอดเยี่ยมแค่ไหน ฮิลล์ คอร์ปอเรชั่นก็ยังถือว่าเป็นกิจการของเธอ พ่อไม่เคยฝากฝีมือไว้กับที่นั่นได้ ยิ่งไปกว่านั้นคนของฮิลล์นั้นดูถูกพ่อมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทุกครั้งที่พ่อเห็นลูกถูกฌอนกดขี่ พ่อรู้สึกไม่พอใจในฐานะพ่อของลูก เอาล่ะพ่อก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันนี้ด้วย หากลูกฝ่าฟันพายุนี้ได้เมื่อไรพ่อจะมอบทุกสิ่งที่พ่อมีให้ลูกนะ”
เลียมอึ้ง หลังจากนั้นสักพักเขาก็ตอบด้วยความรู้สึกผสมปนเปกันว่า “ให้ผมลองคิดดูนะครับพ่อ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ!
สนุกมากค่ะ เมื่อวาน6สค.68อ่านได้จุใจเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ...
ขอตอนเพิ่มอีกจ้า...
สนุกมากค่ะ...
สนุกค่ะ...
ขอบคุณที่ทำให้ได้อ่านต่อทุกวัน...
คุณชายฮิล เรื่องนี้สนุกมาก รอติดตามไม่ไหว อ่านซ้ำก่อน...
อ่านถึงบท 295 แล้วจ้า หงุดหงิดกับพระนางแล้วคือำนพระเอกเหมือนจะเก่ง ฉลาดนะ แต่ก็แอบผิดหวังอะ อคติเกิน...
โบะบะมากแม่ 5555...
นัดจริงหรือนัดปลอมละทีนี้ 555555555...